Lifestyle

10 'ซินเดอเรลล่า' ตัวจริง จากหญิงสาวสามัญชน สู่ราชวงศ์สูงศักดิ์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ใครว่า 'ซินเดอเรลล่า' มีแต่ในเทพนิยายโบราณเท่านั้น เท่านั้น ทว่าในโลกแห่งความเป็นจริงมีหญิงสาวสามัญชนหลายคนที่ได้พบรักกับเจ้าชายจนได้เข้าแต่งงาน และผันตัวเข้าสู่ราชวงศ์อันสูงศักดิ์ เรียกได้ว่าเป็น 'ซินเดอเรลล่า' ตัวจริง

เชื่อว่าทุกคนคงรู้จักกับเทพนิยายโบราณอย่าง “ซินเดอเรลล่า” ซึ่งเป็นที่รู้จักและโด่งดังไปทั่วโลก จากเรื่องราวของหญิงสาวชาวบ้านที่ได้พบรักกับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ และได้แต่งงานกันในที่สุด แต่เรื่องราวเหล่านั้นไม่ใช่มีแต่ในเทพนิยายเท่านั้น ทว่าในโลกแห่งความเป็นจริงก็มีหญิงสาวสามัญชนหลายคนที่ได้พบรักกับเจ้าชายจนได้เข้าพิธีแต่งงาน และผันตัวเข้าสู่ราชวงศ์อันสูงศักดิ์ เรียกได้ว่าเป็น “ซินเดอเรลล่า” ตัวจริง และวันนี้ คมชัดลึก ได้รวบรวมมาให้ดูกันว่า “ซินเดอเรลล่า” ในโลกแห่งความจริงนั้นมีใครกันบ้าง

 

สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะแห่งญี่ปุ่น

 

เริ่มจาก สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะแห่งญี่ปุ่น เดิมทรงมีพระนามว่า มาซาโกะ โอวาดะ ทรงป็นอดีตนักการทูตที่เรียนจบจากสถาบันการศึกษาชั้นนำของโลก ทั้งฮาร์วาร์ดของสหรัฐอเมริกา และออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ พระองค์ทรงพบกับสมเด็จพระจักรพรรดินรุฮิโตะครั้งแรกในงานเลี้ยงน้ำชา สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะซึ่งตอนนั้นทรงดำรงตำแหน่งเป็นมงกุฎราชกุมารทรงประทับใจมาซาโกะตั้งแต่แรกพบ แต่สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะทรงปฏิเสธการขอแต่งงานไปถึง 2 ครั้ง เพราะการก้าวเข้าสู่ราชวงศ์จะทำให้พระองค์ต้องละทิ้งอาชีพนักการทูต แต่แล้วในปี 2536 พิธีเสกสมรสก็เกิดขึ้นจนได้ในปีเมื่อทรงถูกขอแต่งงานเป็นครั้งที่ 3 ชีวิตการเป็นเจ้าหญิงของสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะไม่สู้ดีนัก พระองค์ทรงงดปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้วยภาวะเครียดกับการปรับตัว และทรงกดดันในการมีรัชทายาทเพศชาย แต่ด้วยความรักของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ที่ทรงขอร้องให้ประชาชนเข้าใจและเห็นใจพระชายา ทำให้ช่วงไม่กี่ปีมานี้สมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะทรงมีพระอาการดีขึ้นมาก และทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากขึ้น สร้างความดีใจให้กับประชาชนชาวญี่ปุ่นอย่างมาก

 

เม็ตเตอ มาริต เจ้าหญิงแห่งนอร์เวย์ (ภาพจาก wikipedia)

 

2. เม็ตเตอ มาริต เจ้าหญิงแห่งนอร์เวย์ พระนามเดิมคือ เม็ตเตอ มาริต เช็สเซิม เฮออิบิ พระวรชายาในเจ้าชายโฮกุน มกุฎราชกุมารแห่งนอร์เวย์ ทั้งคู่รู้จักกันครั้งแรกผ่านทางเพื่อนของทั้งสองฝ่ายในปี 2542 ซึ่งทรงถูกคัดค้านจากเหล่าพสกนิกรอย่างหนักถึงความไม่เหมาะสมในการคบหากันของเธอกับ เจ้าชายโฮกุน เนื่องจากในขณะนั้นเธอเป็นบริกรหญิงที่มีลูกติด และมีข่าวลือว่าที่ผ่านมาเธอเป็นที่รู้จักในนามของนักเต้นออสโลและมีเรื่องราวเกี่ยวกับยาเสพติด อย่างไรก็ตามทั้งสองได้อภิเษกสมรสกันเมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2544 โดยจัดขึ้นในกรุงออสโล จากนั้น เม็ตเตอ มาริต ได้รับการสถาปนาเป็น มกุฎราชกุมารีแห่งนอร์เวย์ ทั้งสองมีพระราชโอรส-ธิดา ด้วยกัน 2 พระองค์ ได้แก่ เจ้าหญิงอิงกริด อเล็กซันดรา และเจ้าชายสแวร์เรอ มักนุส

 

เลติเซีย ออร์ติซ สมเด็จพระราชินีแห่งสเปน

 

3. เลติเซีย ออร์ติซ สมเด็จพระราชินีแห่งสเปน สาวสามัญชนที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง เลติเซีย จบปริญญาโทด้านสื่อสารมวลชน จากนั้นก็เป็นทั้งนักข่าวและผู้ประกาศข่าว เธอสมรสครั้งแรกกับสามีที่เป็นครูสอนวรรณกรรมแต่ไม่มีบุตรด้วยกันหลังจากหย่าจากสามีเก่า เธอก็พบรักกับเจ้าชายเฟลิเปแห่งอัสตูเรียส รัชทายาทแห่งสเปน พร้อมประกาศพิธีหมั้นในปี 2546 และอภิเษกสมรสกันในปี 2548 หลังจากเถลิงยศเป็นเจ้าหญิงเลติเซีย ก็ทรงมีพระธิดาด้วยกัน 2 พระองค์ คือ เลโอนอร์ และอินฟันตาโซฟีอา จากนั้นในปี 2557 กษัตริย์เฟลิเปขึ้นครองราชย์ต่อจากพระราชบิดา เจ้าหญิงเลติเซียจึงได้เถลิงยศอีกครั้งเป็น พระราชินีเลติเซีย พระชายาในสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6

 

สมเด็จพระราชินีคามิลลาแห่งสหราชอาณาจักร

 

4. สมเด็จพระราชินีคามิลลาแห่งสหราชอาณาจักร พระอัครมเหสีพระองค์ที่ 2 ในสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร หรือเป็นที่รู้จักในพระนาม คามิลลา พาร์กเกอร์ โบลส์ เมื่อปี 2516 พระองค์ทรงสมรสกับทหารในกองทัพอังกฤษชื่อแอนดรูว์ พาร์กเกอร์-โบลส์ ทั้งคู่มีบุตรสองคน ก่อนหย่าร้างในปี 2538 ความสัมพันธ์ของคามิลลาและเจ้าชายชาลส์ (พระอิสริยยศขณะนั้น) ตกเป็นข่าวดังขึ้น กระทั่งพิธีอภิเษกสมรสถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2548 หลังจากอภิเษกสมรสคามิลลาดำรงพระอิสริยยศเป็น ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ และเป็นพระวิมาดาของเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ และเจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ พระโอรสทั้ง 2 พระองค์ของพระสวามีกับไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ อดีตพระชายา ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 2565 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคต ทำให้เจ้าชายชาลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ ทรงสืบราชสมบัติเป็นสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 และคามิลลาทรงกลายเป็นสมเด็จพระราชินี

 

สมเด็จพระราชินีเจตชุน เพมา วังชุก แห่งภูฏาน

 

5. สมเด็จพระราชินีเจตชุน เพมา วังชุก แห่งภูฏาน พระนามเดิมว่า เจตซุน เพมา ผู้ทรงเป็นรักแรกและรักเดียวของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์แห่งภูฏาน ซึ่งเรื่องราวความรักของทั้งสองพระองค์เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยยังทรงพระเยาว์ ขณะนั้นสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีทรงมีพระชนมายุเพียง 17 พรรษา ทรงตกหลุมรักเด็กหญิงเจตซุน วัย 7 ปี ลูกสาวของนักบินประจำราชวงศ์ภูฏาน แม้จะได้เจอกันเพียงไม่นาน แต่สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมีพระราชทานคำสัญญาไว้ว่า "เมื่อเราทั้งคู่โตขึ้น หากเธอยังโสดและไม่แต่งงาน และเราเองก็ยังโสดและไม่แต่งงาน ถ้าเรามีความรักให้แก่กัน เราจะกลับมาขอเธอแต่งงาน" และแล้วคำสัญญาในวันนั้นก็เป็นจริงในปี 2554 ทั้งสองพระองค์ทรงเข้าพิธีอภิเษกสมรสท่ามกลางความยินดีของชาวภูฎาน รวมถึงชาวไทยด้วย

 

แคทเธอรีน เอลิซาเบธ มิดเดิลตัน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์

 

6. แคทเธอรีน เอลิซาเบธ มิดเดิลตัน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ พระชายาในเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 1 ในลำดับการสืบราชสันตติวงศ์อังกฤษ ซึ่งทำให้แคทเธอรีนเป็นว่าที่สมเด็จพระราชินีแห่งสหราชอาณาจักรในอนาคต แคเธอรีน ได้พบกับเจ้าชายวิลเลียมและได้คบหากัน ระหว่างศึกษาที่คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูส์ ประเทศสกอตแลนด์ กระทั่งในเดือน พ.ย. 2553 สำนักพระราชวังอังกฤษได้แถลงว่า เจ้าชายวิลเลียมได้ทรงหมั้นกับมิดเดิลตันในประเทศเคนยา และเข้าพระราชพิธีเสกสมรสในวันที่ 29 เม.ย. 2554 ที่เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ หลังพระราชพิธีเสร็จสิ้นพระองค์ทรงได้รับพระราชทานพระอิสริยยศเป็นดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2556 ทั้งสองมีพระโอรส-ธิดาด้วยกัน 3 พระองค์ คือ เจ้าชายจอร์จ, เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ และเจ้าชายหลุยส์

 

แคลร์ ลาเดอมัคเคอร์ เจ้าหญิงแห่งลักเซมเบิร์ก

 

7. แคลร์ ลาเดอมัคเคอร์ เจ้าหญิงแห่งลักเซมเบิร์ก หญิงสาวไฮโซจากประเทศเยอรมณี กับเจ้าชายเฟลิกซ์ พระโอรสลำดับที่ 2 ในแกรนด์ดยุคและแกรนด์ดัชเชสแห่งลักเซมเบิร์ก มีพระนามเดิมว่า แคลร์ มากาเร็ตตา เลเดเมเคอร์ เป็นลูกสาวเจ้าของธุรกิจซอฟต์แวร์ชาวเยอรมัน ฮาร์ทมัท ลาเดอมัคเคอร์ ผู้ที่มีทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 600 ล้านยูโร ทั้งสองพระองค์รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ไฮสคูลในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนจะศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในกรุงโรมด้วยกัน จนกระทั่งอภิเษกสมรสกันในปี 2555 ณ ประเทศเยอรมนี หลังจากสมรสแล้ว แคลร์ได้รับการสถาปนาเป็น เจ้าหญิงแคลร์แห่งลักเซมเบิร์ก พระชายา พร้อมฐานันดรรอยัลไฮเนส ทั้งสองประทับด้วยกัน ณ ประเทศฝรั่งเศส ทรงมีพระโอรสและพระธิดา 2 พระองค์ คือ เจ้าหญิงอะมาเลียแห่งนัสเซา และเจ้าชายเลียมแห่งนัสเซา

 

โซเฟีย เฮลล์ควิสต์ เจ้าหญิงแห่งสวีเดน

 

 

8. โซเฟีย เฮลล์ควิสต์ เจ้าหญิงแห่งสวีเดน พระชายาใน เจ้าชายคาร์ล ฟิลิป องค์รัชทายาทลำดับ 3 แห่งราชวงศ์สวีเดน ทรงพบโซเฟียครั้งแรกที่ไนต์คลับแห่งหนึ่งในกรุงสตอกโฮล์ม ก่อนการเสกสมรสโซเฟียเคยเป็นอดีตนางแบบกึ่งเปลือย และเป็นผู้เข้าร่วมรายการเรียลลิตี้ และทรงเข้าร่วมรายการเรียลลิตี้นุ่งน้อยห่มน้อย จึงถูกคัดค้านจากประชาชนและขุดคุ้ยโดยสื่อว่านางแบบบิกินีไม่ควรมาเป็นหนึ่งในราชวงค์ แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าชายคาร์ล ฟิลิป ก็ยังมั่นคงในรักกับสาวโซเฟียจนเอาชนะอุปสรรคทุกอย่างได้ สุดท้ายทั้งสองเสกสมรสกันที่กรุงสตอกโฮล์ม เมื่อปี 2559 ทรงมีพระโอรส 2 คน คือ เจ้าชายอเล็กซานเดอร์ และเจ้าชายกาเบรียล

 

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

 

9. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี คู่พระบารมีของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระนามเดิมว่า สุทิดา ติดใจ อดีตทรงเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ต่อมาทรงเข้ารับราชการทหารในหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ทรงดำรงตำแหน่งสูงสุดเป็นรองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ (อัตรา พลเอกพิเศษ นอกจากนี้ยังทรงดำรงตำแหน่งเป็นราชองครักษ์เวรในพระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ ต่อมาเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2562 ทรงประกอบพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต และในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ 4 พ.ค. 2562  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศ สมเด็จพระราชินีสุทิดา ขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

 

อานิชา อิซา คาเลบิก

 

10. อานิชา อิซา คาเลบิก ว่าที่พระชายาในเจ้าชายอับดุล มาทีน พระราชบุตรในสมเด็จพระราชาธิบดี สุลต่าน ฮัจญี่ ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ แห่งบรูไนดารุสซาลาม ซึ่งจะเข้าพระราชพิธีเสกสมรสในวันที่ 7-16 ม.ค. 2567 นี้ สำหรับ อานิชา อิซา คาเลบิก เป็นหลานสาวของ เปฮิน ดาโต เอชเจ อิซา ที่ปรึกษาพิเศษของสุลต่านบรูไน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยบาร์ธแห่งประเทศอังกฤษ อิซานั้นเคยดำรงตำแหน่งประธานสายการบินรอยัลบรูไนแอร์ไลน์ส และรัฐมนตรีช่วยประจำสำนักนายกรัฐมนตรีด้วย ทั้งสองทรงคบหาดูใจกันมานานแล้ว เจ้าชายอัลดุล มาทีน ยังเคยโพสต์ภาพคู่ที่อยู่ด้วยกันลงโซเชียลมีเดีย และชาวเน็ตมักเห็น อานิชา อิซา คาเลบิก ปรากฏตัวอยู่ข้างกายเจ้าชายเวลาออกงานสำคัญอยู่เสมอ และเมื่อไม่นานที่ผ่านมานี้ เจ้าชายอัลดุล มาทีน ยังพาเธอมาร่วมพิธีแต่งงานน้องสาวของพระองค์ด้วย

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ