"มุก" เพลินจันทร์ ศิลปินกับแรงบันดาลใจจากขยะ ที่แปรเปลี่ยนเป็นงานอาร์ตผืนใหญ่ใจกลางกรุง เพื่อสืบสาน รักษา ต่อยอด
จากการตีความหมายของคำว่า สืบสาน รักษา และต่อยอด สู่ผลงานการสร้างสรรค์บนพื้นผ้าในชื่อ Woven Symphony (โวเว่น ซิมโฟนี) และ Adam’s Bridge (อดัมส์ บริดจ์) ของ “มุก” เพลินจันทร์ วิญญรัตน์ ศิลปินผู้ออกแบบลายผ้าที่มีชื่อเสียงของไทย สะท้อนคุณค่าความงดงามแบบไทยร่วมสมัยผ่านลวดลายบนผืนผ้าที่ได้รับแรงบันดาลใจมา จากพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดเรื่องศิลปะ “โขน” ดังนั้น รามเกียรติ์ จึงเป็นสิ่งถูกตีความและสร้างสรรค์ออกมาเป็นผลงานในรูปแบบของผ้าทอขนาดสูงกว่า 6.5 เมตร ยาว 24 เมตร ซึ่งเป็นผลงานที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ สำหรับ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โฉมใหม่
“มุก” เพลินจันทร์ ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงาน เล่าถึงที่มาของงานศิลป์ขนาดยักษ์นี้ว่า ในการสร้างสรรค์ผลงานครั้งนี้ เริ่มแรกได้รับโจทย์มา 3 คำ คือ สืบสาน รักษา ต่อยอด เพื่อออกแบบให้ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โฉมใหม่แห่งนี้ ซึ่งศูนย์ฯ สิริกิติ์นั้นเป็นชื่อพระราชทานโดยพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งพระองค์ท่านทรงสืบสานศิลปะการแสดง “โขน” มาตลอด จึงกลายเป็นไอเดียสำคัญสำหรับการออกแบบผลงาน 2 ชิ้นในชื่อว่า Woven Symphony (โวเว่น ซิมโฟนี) และ Adam’s Bridge (อดัมส์ บริดจ์)
“งานทั้งสองชิ้นนี้เป็นผลงานชิ้นใหญ่ที่สุดที่เคยทำ คือเมื่อรวมกันมีขนาดเท่ากับสระน้ำมาตรฐานโอลิมปิก แต่ละชิ้นงานสูง 6.5 เมตรครึ่ง ยาว 24 ซึ่งงานนี้เป็นงานที่ต้องใช้เวลาทำจริงราวๆ 1 ปีครึ่ง แต่ด้วยความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ทั้ง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จึงสำเร็จอย่างที่เห็นในเวลาที่ค่อนข้างจำกัด ซึ่งรู้สึกว่าตัวเองนอกจากเป็นศิลปินแล้วยังเป็นเหมือนผู้กำกับด้วย เพราะต้องร้อยเรียงทุกส่วนเข้าไว้ด้วยกันให้ลงตัวที่สุด”
สำหรับผลงานชิ้นแรก ในชื่อ Woven Symphony (โวเว่น ซิมโฟนี) นั้นหยิบยกแรงบันดาลใจจากชุดการแสดง "โขน" มาทำให้เป็นศิลปะร่วมสมัยที่ผสานกับ ฉากวรรณคดี รามเกียรติ์ ตอนที่นางสีดาถูกทศกัณฐ์จับตัวไปบนเกาะลงกามาแสดงไว้บนฉากหลังสีเขียว เสมือนอยู่บนเกาะ พร้อมเนรมิตให้เป็นฉากรบพุ่งที่หนุมานพาพระรามมาช่วยนางสีดาหนีเพื่อการมีชีวิตใหม่เปรียบเหมือนศูนย์ฯ สิริกิติ์ในรูปโฉมใหม่ โดยผลงานชิ้นนี้ทางศิลปินสร้างสรรค์ผลงานโดยใช้เชือกสีเขียวขึงจากด้านบนลงล่าง เปรียบเสมือนเป็นเส้นยืนบนกี่ทอผ้า แล้วนำผ้าที่เหลือจากทุกโปรเจ็กต์ตลอดกว่า 10 ปีที่ทำงาน และผ้าขาวม้าจากโครงการประชารัฐมาเป็นส่วนประกอบในชิ้นงาน นอกจากนี้ยังนำวัสดุอื่นๆ อาทิ ทับทรวง, ปีกแมลงทับ รังไหม ฯลฯ มาประดับตกแต่งบนชิ้นงานด้วย
นอกจากนั้นแล้วเพื่อให้สอดรับกับชิ้นงานแกะสลักที่ทางศูนย์ฯ สิริกิติ์ ได้เก็บ “รักษา” ไว้ตั้งแต่แรกเริ่ม คืองานแกะสลักไม้ของ อ.จรูญ มาถนอม ศิลปินคนเดียวกับที่สร้างปราสาทสัจธรรมที่พัทยา โดยนำไม้ทั้งหมด 56 แผ่นประกอบกันออกมาแล้วมีความยาวเกือบ 23 เมตร เล่าเรื่องการสถาปนาพระอินทร์ให้ขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองทวยเทพ ซึ่งงานไม้แกะสลักนี้ใช้เวลาแกะสลักเพียง 4 เดือน และอบไม้ต่ออีก 2 เดือน แม้โดยทั่วไปจะต้องกินเวลาเป็นปีสำหรับอบไม้
อีกหนึ่งผลงานที่จัดแสดง คือ Adam’s Bridge (อดัมส์ บริดจ์) ที่มีฉากหลังสีน้ำเงิน จัดเป็นฉากที่หนุมานขนหินมาถมทะเลเพื่อทำเป็นสะพานพานางสีดาไปสู่ชีวิตใหม่ บนฉากสีน้ำเงินผ่านการถักทอจากสิ่งของเหลือใช้รวมถึงเศษขยะที่ศิลปินและครอบครัวรวมถึงพนักงานช่างทอผ้าของบริษัทเก็บมาเป็นเวลาหลายปี อาทิ ขวดน้ำพลาสติก, กระป๋องน้ำอัดลม, ถุงน่อง ฯลฯ ถูกนำมาตัดเป็นเส้นแล้วถักทอ ผ้าทุกผืนมาจากผ้าเหลือใช้ที่รวบรวมมาจากโปรเจ็กต์ต่างๆ ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมความอลังการของผลงานทั้ง 2 ชิ้น ฝีมือการสร้างสรรค์ของศิลปินไทยมากความสามารถ ได้ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ทางออก 3 โดยมีทางเชื่อมเข้าศูนย์ฯ สิริกิติ์ ชั้น LG)
ติดตาม คมชัดลึก คลิก
Line: https://lin.ee/qw9UHd2
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w
ข่าวที่เกี่ยวข้อง