9 อาหารสุดอันตราย "ที่กินทุกวัน" หากปรุงเตรียม "ผิดวิธี" อาจทำให้เสียชีวิตได้ | คมชัดลึก

 

แม้จะอยู่ในครัวเรือนของเราเป็นประจำ แต่อาหารบางชนิดก็มีสารพิษตามธรรมชาติ หรือเสี่ยงต่อเชื้อโรคอันตราย หากไม่มีการจัดการ เก็บรักษา หรือปรุงอาหารอย่างถูกวิธี นี่คือ 9 อาหารสามัญที่คุณควรระมัดระวัง 

 

 

 

1.เมล็ดแอปเปิล (Apple Seeds)ไซยาไนด์ (Cyanide) โดยเฉพาะเมื่อเมล็ดถูกบดหรือเคี้ยวห้ามเคี้ยวเมล็ดแอปเปิล เมื่อรับประทานควรคายทิ้ง

 

 

2.ไก่ (Chicken)เชื้อแบคทีเรีย Salmonella หรือ Campylobacterต้องปรุงให้ สุกทั่วถึง 100% (อุณหภูมิภายในไม่ต่ำกว่า 74°C) ห้ามล้างไก่สด เพราะจะยิ่งแพร่เชื้อในอ่างล้างจาน

 

3.เห็ดป่า (Wild Mushrooms)สารพิษร้ายแรง (เช่น อะมาท็อกซิน) ที่เป็นอันตรายต่อตับและไตควรรับประทานเฉพาะเห็ดที่ซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และหลีกเลี่ยงการเก็บเห็ดในป่าด้วยตนเอง

 

4.มันฝรั่ง (Potatoes)โซลานีน (Solanine) ในส่วนที่มี สีเขียว และ หน่ออ่อนห้ามรับประทานมันฝรั่งที่มีสีเขียวหรือแตกหน่อ ควรตัดส่วนที่ผิดปกติทิ้งให้หมด

 

5.ถั่วแดง (Red Kidney Beans)ไฟโตฮีแมกกลูตินิน (Phytohaemagglutinin) ซึ่งทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษรุนแรงต้อง นำไปต้มในน้ำเดือดอย่างน้อย 10 นาที ก่อนนำไปประกอบอาหารอื่นๆ

 

 

 

 

 

 

6.ลูกจันทน์เทศ (Nutmeg)ไมริสติซิน (Myristicin) ที่มีฤทธิ์หลอนประสาทไม่ควรบริโภคในปริมาณมากเกินไป ควรใช้เพียงเล็กน้อยเป็นเครื่องเทศเท่านั้น

 

7.มะม่วงหิมพานต์ดิบ (Raw Cashews)ยูรูชิออล (Urushiol) สารพิษที่พบในพิษไอวี (Poison Ivy) ซึ่งทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรงควรเลือกซื้อเฉพาะมะม่วงหิมพานต์ที่ผ่านกระบวนการ "อบไอน้ำ" แล้วเท่านั้น (ซึ่งมักถูกขายในชื่อ "ดิบ" ในร้านค้า)

 

8.ผักสลัดและถั่วงอก (Leafy Greens and Sprouts)เชื้อแบคทีเรีย (เช่น E. coli และ Salmonella) จากน้ำหรือดินที่ปนเปื้อนล้างด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้งก่อนรับประทาน และเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสม

 

9.มันสำปะหลัง (Cassava)สารไซยาไนด์ ตามธรรมชาติต้องนำมา ปอกเปลือก ล้าง และ ต้มหรือแช่น้ำ อย่างถูกต้องก่อนนำมาปรุงอาหาร เพื่อลดปริมาณไซยาไนด์

 

 

 

 

 

 

เคล็ดลับสำคัญ: ปรุงอาหารให้ถูกต้อง คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุดผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเน้นย้ำว่า อาหารส่วนใหญ่มีความปลอดภัยหากมีการจัดการอย่างถูกสุขลักษณะและเหมาะสม

• อุณหภูมิสำคัญ: การปรุงอาหารให้ได้อุณหภูมิที่เหมาะสม (โดยเฉพาะเนื้อสัตว์และสัตว์ปีก) จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียอันตรายได้
• การเก็บรักษา: ควรแยกเก็บเนื้อสัตว์ดิบออกจากผักและอาหารที่ปรุงสุกแล้ว เพื่อป้องกันการปนเปื้อนข้าม (Cross-Contamination)

หากคุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับวิธีการเตรียมวัตถุดิบแปลกใหม่ ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนบริโภคทุกครั้ง