ไลฟ์สไตล์

กินลูกเนียงดิบ เสี่ยงไตวาย แนะวิธีการลดพิษในลูกเนียงให้น้อยลง

กินลูกเนียงดิบ เสี่ยงไตวาย แนะวิธีการลดพิษในลูกเนียงให้น้อยลง

14 เม.ย. 2568

"ลูกเนียง" พืชผักอร่อยเด็ดภาคใต้ แต่รู้ไหมว่าหากกินลูกเนียงดิบ เสี่ยงไตวายได้ แนะวิธีการลดพิษในลูกเนียงให้น้อยลง

 

ลูกเนียง (Djenkol bean) เป็นผักที่นิยมกินโดยเฉพาะภาคใต้ของไทย ส่วนที่นำไปรับประทาน คือ เมล็ดข้างในเปลือก มีกลิ่นฉุน รสชาติมัน รับประทานได้ทั้งผลอ่อนและแก่ ในด้านความเป็นพิษลูกเนียงมีสาร ที่เรียกว่า “กรดเจงโคลิค (djenkolic acid)” เป็นกรดอะมิโนที่มีกรดกำมะถันสูง สารพิษชนิดนี้จะทำลายระบบประสาทของไตให้เสื่อมลง หากอาการรุนแรงจะทำให้ไตล้มเหลวหรือไตวายจนถึงเสียชีวิตได้

 

กินลูกเนียงดิบ เสี่ยงไตวาย แนะวิธีการลดพิษในลูกเนียงให้น้อยลง

 

 

ความเป็นพิษจากลูกเนียงโดยทั่วไปพบได้น้อย โดยรายที่มีอาการมักสัมพันธ์กับการกินลูกเนียงดิบปริมาณมากร่วมกับการดื่มน้ำน้อย ปริมาณที่ทำให้เกิดพิษนั้นมีรายงานตั้งแต่ 1-20 เมล็ด พบว่ามีอาการทางไต ปวดเอว ปวดบริเวณขาหนีบ ปัสสาวะลำบาก น้ำปัสสาวะขุ่นเป็นสีน้ำนม และอาจปัสสาวะเป็นเลือด บางรายมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ในรายที่รุนแรงอาจปัสสาวะไม่ออก ซึ่งเรียกว่า นิ่ว และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็ก ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายได้เอง 3-4 วัน บางรายมีไข้ต่ำ ปัสสาวะน้อยและมีความดันโลหิตสูงได้

 

กินลูกเนียงดิบ เสี่ยงไตวาย แนะวิธีการลดพิษในลูกเนียงให้น้อยลง

ดังนั้นจึงแนะนำให้ระมัดระวังในการรับประทานลูกเนียง โดยวิธีการลดพิษในลูกเนียงให้น้อยลง คือ นำเมล็ดไปเพาะในทราย ให้มีหน่อต้นอ่อนงอกออกมา หรือนำเมล็ดไปต้มให้สุก หรือหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ แล้วนำไปตากแดดก่อนรับประทานโดยตรง หากมีอาการสงสัยอาหารเป็นพิษจากลูกเนียง หรือหลังกินแล้วมีอาการผิดปกติ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน มึนงง ให้รีบไปพบแพทย์และบอกประวัติการกินอาหารที่สงสัยให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อให้การรักษาถูกต้องและทันเวลา

 

กินลูกเนียงดิบ เสี่ยงไตวาย แนะวิธีการลดพิษในลูกเนียงให้น้อยลง