Lifestyle

"ตู้เป่าขนสัตว์" ซื้อดีไหม ต่างจากใช้ไดร์เป่าอย่างไร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ตู้เป่าขนสัตว์" เพราะการอาบน้ำและเป่าขน ให้น้อง ๆ ของเราอย่างสม่ำเสมอจะเป็นสิ่งที่ทำให้ทั้งน้องและทั้งเราอยู่ห่างจากเชื้อโรคและการไม่สบายต่าง ๆ

การทำความสะอาดอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงที่รักของเราเป็นสิ่งที่สำคัญ ยิ่งใครปล่อยให้น้องหมาหรือน้องแมวออกไปซุกซนนอกบ้าน ยิ่งต้องใส่ใจในเรื่องความสะอาดของสัตว์เลี้ยงเป็นพิเศษ เพราะเราไม่รู้เลยว่าขนตัวตามของพวกเขาและเท้าทั้งสี่ข้างจะไปสัมผัสกับเชื้อโรค หรือพาหะนําโรคอะไรที่จะส่งผลต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงและส่งต่อมาถึงเราได้บ้าง การอาบน้ำและเป่าขนให้น้อง ๆ อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งที่สำคัญในการทำให้ทั้งน้องและทั้งเราอยู่ห่างจากเชื้อโรค

 

 

แต่อย่างที่รู้กันว่าการอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงที่รักก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเมื่อถึงขั้นตอนที่ต้องเป่าขนของน้องแล้ว วิธียอดนิยมที่เราจะเป็นการ เป่าไดร์ หรือ เป่าพัดลม แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันใช้เวลานานอยู่ไม่น้อย และหากใครใช้พัดลมยังอาจทำให้เชื้อโรคตามตัวของน้องไม่หมดไปอีกด้วย  และหากเป่าสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์ขนยาวแล้วเผลอ ๆ อาจกินเวลานานเกือบชั่วโมง  อีกทั้งพวกไดร์เป่าผมยังสร้างเสียงดังจนทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณตกใจกลัวด้วย 

 

ทีมคมชัดลึกออนไลน์เลยจะมาช่วยแก้ปัญหาความไม่สะดวกสบายเหล่านี้ด้วย "ตู้เป่าขนสัตว์เลี้ยงอัตโนมัติ" เพราะเจ้าเครื่องนี้จะเป่าขนสัตว์เลี้ยงได้โดยที่คุณเอาเวลาไปทำงานอย่างอื่นได้ เพียงนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในตู้ จากนั้นกดทำงานตัวเครื่องก็จะเป่าขนอัตโนมัติได้ภายใน 30 – 45 นาที โดยที่คุณไม่ต้องออกแรงแต่อย่างใด มากไปกว่านั้นคือคุณ ๆ ที่เลี้ยงแมวยังไม่ต้องเสี่ยงเจ็บตัวจากโดนแมวข่วนอีกด้วย



ข้อดีของตู้เป่าขนสัตว์เลี้ยงอัตโนมัติ

  • ประหยัดเวลาในการเป่าขน - หากคุณใช้เครื่องเป่าขนอัตโนมัติรับรองได้ว่าคุณจะนำเวลาที่นั่งเป่าไปดูเน็ตฟลิกซ์ชิลล์ ๆ ได้เลย ทั้งยังไม่ต้องออกแรงใด ๆ 
     
  • กำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรียบางครั้งการเป่าขนด้วยไดร์ปกติอาจจะทำได้เพียงแค่เป่าขนแห้ง แต่มันไม่ช่วยกำจัดเชื้อโรค แต่สำหรับเครื่องเป่าขนแล้วมันจะช่วยในการกำจัดเชื้ิอโรคที่จะทำให้สัตว์เลี้ยงไม่เกิดปัญหาขนและผิวหนัง
     
  • ทำงานเสียงเบา หากตู้เป่าขนที่คุณเลือกแล้วมันจะทำงานได้เงียบมาก ไม่ทำให้รำคาญทั้งคนและสัตว์
     

"ตู้เป่าขนสัตว์" ซื้อดีไหม ต่างจากใช้ไดร์เป่าอย่างไร

วิธีการเลือกตู้เป่าขนสัตว์เลี้ยงอัตโนมัติ

1. ขนาด

ด้วยสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวจะมีขนาดต่างกัน ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่เราจะต้องพิจารณาคือ ขนาด ของตู้หรือเครื่องเป่าขน ว่ามันมีขนาดใหญ่พอที่จะให้สัตว์เลี้ยงของเราเข้าไปใช้งานหรือไม่ เพราะถ้าหากมันมีขนาดที่พอดีตัวเกินไปหรือแคบมากเกินไป มันจะทำให้สัตว์เลี้ยงของเราอึดอัดและอยู่ได้ไม่นาน

2. มีฟังก์ชันในการปรับอุณหภูมิ

ฟังก์ชันการปรับอุณหภูมิถือว่าสำคัญมากสำหรับสินค้าชนิดนี้ เพราะเราจะได้ปรับให้ความร้อนพอดีหรือเหมาะสมสำหรับขนของสัตว์เลี้ยง ทั้งนี้บนตัวเครื่องควรจะมีหน้าจอที่คอยบอกอุณหภูมิแบบ Real Time ให้กับเราด้วยว่ามันทำความร้อนในเวลานั้น ๆ ที่ประมาณเท่าไหร่ เพราะหากเกิดปัญหา เราจะได้รีบนำสัตว์เลี้ยงออกมาได้ทันเวลา

 

3. การเชื่อมต่อกับมือถือ

สำหรับส่วนนี้ถือเป็นฟังก์เสริมที่ช่วยให้เจ้าของสะดวกสบายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งปกติแล้วการเชื่อมต่อตู้เป่าขนกับมือถือจะใช้ WIFI หรือแอปพลิเคชันของทางแบรนด์นั้น ๆ โดยข้อดีตรงนี้จะช่วยทำให้เราสามารถควบคุมและรู้สถานะของเครื่องได้จากระยะไกล ไม่จำเป็นที่จะต้องนั่งเฝ้าตลอดการเป่าขนสัตว์เลี้ยง อย่างไรก็ดีฟังก์ชันตรงนี้จะมีหรือไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของเจ้าของว่าอยากได้ความสะดวกเพิ่มขึ้นหรือไม่

 

4. วัสดุของตัวเครื่อง

ตู้เป่าขนเป็นดั่งเครื่องทำความร้อนชนิดหนึ่ง ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยงของเรา วัสดุของตัวเครื่องจะต้องสามารถทนความร้อนได้เป็นอย่างดี ทั้งยังต้องมีความทนทานสูง สามารถรองรับน้ำหนักของสัตว์เลี้ยงได้มีประสิทธิภาพ

 

5. เสียงระหว่างการทำงาน

หากคุณเลือกลงทุนในเครื่องที่เสียงการทำงานค่อนข้างเงียบนอกจากจะไม่ทำให้สัตว์เลี้ยงไม่ตระหนก และ ดีต่อหูคุณแล้ว เสียงที่เบายังไม่ไปรบกวนคนภายในบ้านให้รู้สึกรำคาญด้วย ดังนั้นทางที่ดีคุณควรเช็กรายละเอียดส่วนนี้ให้ดีครับ

 

6. มีกระจกใสและช่องระบายอากาศ

การที่ตู้เป่าขนมีกระจกใสจะทำให้เราสามารถเช็กสัตว์เลี้ยงของเราได้ว่าเขายังคงปลอดภัยในระหว่างอยู่ภายในตู้ ทั้งยังช่วยลดความเครียดของสัตว์ได้ด้วย นอกจากนี้ตู้เป่ายังจะต้องมีช่องระบายอากาศ ที่ปล่อยความร้อนและทำให้น้องหมาน้องแมวสามารถหายใจได้อย่างสะดวก

 

7. ประกันสินค้า

ตู้เป่าขนคุณภาพส่วนใหญ่จะราคาแรงอยู่ ดังนั้นถ้าหากเครื่องเกิดพังขึ้นมา เราอาจจำเป็นจะต้องจ่ายเพื่อซ่อมค่อนข้างเยอะ ยิ่งถ้ามาเสียหลังจากซื้อไปไม่นานคงทำให้ใครหลายคนหัวร้อนได้ ดังนั้นเพื่อความมั่นใจว่าสินค้าของเราจะมีประสิทธิภาพ เราควรเช็กให้ชัวร์ว่าเครื่องที่เราจะซื้อนั้นมีประกัน เพื่อให้เรานำไปเคลมได้เมื่อมีปัญหาตามมา

"ตู้เป่าขนสัตว์" ซื้อดีไหม ต่างจากใช้ไดร์เป่าอย่างไร

 

ที่มารูปภาพและข้อมูล :
bestreview.asia/best-pet-hair-drying-box

logoline