
เตือนภัยสายสุขภาพดื่ม "น้ำกระเจี๊ยบ" มากไปเสี่ยง เลือดจาง-ไตวาย
เตือนภัยสายสุขภาพ! ดื่ม "น้ำกระเจี๊ยบ" มากไปเสี่ยง เลือดจาง-ไตวาย ถามหา! แพทย์ย้ำชัด "กรดออกซาลิก" คือตัวการสำคัญ
คมชัดลึก เจาะลึกความจริงกับกระแสเครื่องดื่มสมุนไพร: แม้น้ำกระเจี๊ยบจะเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรยอดนิยมที่มีสรรพคุณช่วยดับกระหายและมีสารต้านอนุมูลอิสระ แต่การบริโภคในปริมาณที่มากเกินไปและต่อเนื่อง อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อสุขภาพที่น่ากังวล โดยเฉพาะภาวะ "เลือดจางจากการขาดธาตุเหล็ก" และความเสี่ยงต่อ "ไตวาย" ในระยะยาว
โดยผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและสมุนไพรได้ชี้แจงถึงกลไกสำคัญที่ทำให้น้ำกระเจี๊ยบอาจส่งผลเสียต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง คือ ปริมาณ "กรดออกซาลิก" (Oxalic Acid) ที่มีอยู่ในกระเจี๊ยบแดงในระดับสูง กรดออกซาลิก มีคุณสมบัติในการขัดขวางการดูดซึม "ธาตุเหล็ก" (Iron) ในระบบทางเดินอาหาร เมื่อร่างกายได้รับกรดออกซาลิกในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง จะทำให้การนำธาตุเหล็กไปใช้ในการสร้างฮีโมโกลบินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงของภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (Iron Deficiency Anemia)
คำเตือนสำคัญสำหรับผู้มีภาวะโลหิตจาง
- ปริมาณจำกัด: ผู้ที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก หรือมีความเสี่ยงต่อภาวะนี้ ควรจำกัดการดื่มน้ำกระเจี๊ยบในปริมาณ ไม่เกิน 1 แก้วเล็กต่อวัน
- ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำกระเจี๊ยบในช่วงเวลาใกล้เคียงกับมื้ออาหารหลัก หรือช่วงที่รับประทานอาหารเสริมธาตุเหล็ก โดยควรรักษาระยะห่างอย่างน้อย 1 ถึง 2 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้อย่างเต็มที่
ความเสี่ยงต่อ "ไตวาย" ที่ต้องเฝ้าระวัง
- นอกจากปัญหาเลือดจางแล้ว สาร กรดออกซาลิก ยังมีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงต่อภาวะไตวายอีกด้วย เนื่องจากเมื่อกรดออกซาลิกเข้าสู่ร่างกายและรวมตัวกับแคลเซียม อาจเกิดการตกผลึกเป็น "ผลึกแคลเซียมออกซาเลต" ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิด นิ่วในไต (Kidney Stones) การมีนิ่วในไตบ่อยครั้งหรือมีปริมาณมาก อาจส่งผลให้เกิดการอุดตันและการทำงานของไตเสื่อมลงตามมาจนนำไปสู่ภาวะไตวายเรื้อรังได้
เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาว ควรยึดหลักการบริโภคเครื่องดื่มสมุนไพรอย่างสมดุลและรอบคอบ
- ดื่มสลับหมุนเวียน: ควรเลือกดื่มน้ำสมุนไพรชนิดอื่นสลับกันไป เช่น น้ำใบเตย น้ำตะไคร้ หรือน้ำอัญชัน เพื่อลดการสะสมของสารใดสารหนึ่งในร่างกาย
- หลีกเลี่ยงความหวาน: ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มสมุนไพรชนิดใด ควรหลีกเลี่ยงการเติมน้ำตาลในปริมาณมาก เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) อื่น ๆ
- เน้นสมดุลชีวิต: การดื่มสมุนไพรเป็นเพียงส่วนเสริม แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการบริโภคอาหารที่หลากหลายครบ 5 หมู่ การพักผ่อนให้เพียงพอ และการออกกำลังกายสม่ำเสมอ



