
จับตา! โควิดสายพันธุ์ใหม่ 'XFG' ระบาดเร็ว แต่อาการไม่รุนแรง!
กรมวิทย์ฯ เตือนจับตา! โควิดสายพันธุ์ใหม่ 'XFG' ระบาดเร็ว แต่ยังไม่พบอาการรุนแรง! แม้ไม่แรงเท่าสายพันธุ์เดิม แต่ยังต้องป้องกันตัว!
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันการเฝ้าระวังโรคโควิด19 ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีสายพันธุ์ใหม่ XFG หรือ “Stratus” ที่องค์การอนามัยโลกจัดให้อยู่ในกลุ่มสายพันธุ์ที่ต้องจับตา Variant Under Monitoring (VUM) ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2568 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน มีการกลายพันธุ์โปรตีนหนามหลายตำแหน่ง ทำให้แพร่ได้เร็วและอาจหลบภูมิคุ้มกัน อย่างไรก็ตามข้อมูลปัจจุบันยืนยันว่า ยังไม่มีหลักฐานว่าทำให้เกิดอาการรุนแรงมากขึ้น
สำหรับประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ XFG ครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2568 – 4 ตุลาคม 2568 พบผู้ติดเชื้อสะสม 34 ราย ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ และน้ำมูกจากการถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อก่อโรคโควิด 19 เพื่อเฝ้าระวังการกลายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง ระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 4 ตุลาคม 2568 จำนวน 613 ราย
- สายพันธุ์ NB.1.8.1* ร้อยละ 73.4
- สายพันธุ์ XEC* ร้อยละ 8.6
- สายพันธุ์ JN.1* ร้อยละ 6.5
- สายพันธุ์ XFG* ร้อยละ 5.5
- สายพันธุ์อื่นๆ ร้อยละ 5.9
ขณะเดียวกันประเทศไทยได้ถอดรหัสพันธุกรรมไวรัสโควิด 19 และเผยแพร่ข้อมูลเข้าสู่ฐานข้อมูลสากล GISAID รวมกว่า 48,870 ตัวอย่าง ตั้งแต่เริ่มต้นสถานการณ์ระบาด ซึ่งแสดงถึงศักยภาพและความเข้มแข็งของเครือข่ายห้องปฏิบัติการไทย
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ขอให้ประชาชนมั่นใจ แม้สายพันธุ์ XFG จะแพร่เร็ว แต่ยังไม่รุนแรง การป้องกันตนเองยังสำคัญ ได้แก่ การสวมหน้ากากในที่แออัด ล้างมือบ่อย ๆ ตรวจ ATK หากมีอาการ เป็นต้น