
หมอชี้ 5 อาชีพเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง (สโตรก) มากที่สุด
หมอชี้ 5 อาชีพเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง (สโตรก) มากที่สุด เผยพฤติกรรมเสี่ยงที่คนทำงานชอบมองข้าม พร้อมวิธีป้องกันก่อนจะสายเกินไป
ช่วงนี้หลายคนอาจได้ยินข่าวคนดังจากวงการบันเทิง ทั้งนักร้อง นักดนตรี และตลก ป่วยด้วยโรค สโตรก หรือ โรคหลอดเลือดสมอง กันมากขึ้น ทำให้หลายคนเริ่มสงสัยว่าอาชีพที่เราทำอยู่ทุกวันมีความเสี่ยงเหมือนกันหรือไม่? ทางด้าน นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ซึ่งเป็นรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เจ้าของเพจหมอเจดออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ "โรคสโตรก" ที่ไม่ได้เกิดขึ้นแบบกะทันหัน แต่เป็นผลจากการสะสมความเสี่ยงจากวิถีชีวิต ความเครียด และการใช้งานร่างกายหนักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งงานบางอาชีพก็มีปัจจัยที่ทำให้มีความเสี่ยงสูงกว่าปกติ วันนี้เรามาดูกันว่า 5 อาชีพที่ต้องระวังเป็นพิเศษมีอะไรบ้าง
1. งานที่ต้องนั่งนาน ๆ ไม่ค่อยได้ขยับ
อย่างคนทำงานออฟฟิศที่นั่งหน้าคอมทั้งวัน หรือคนขับรถทางไกลที่แทบไม่ได้ลุกเลย ร่างกายเราไม่ชอบการ “นิ่ง” นาน ๆ ครับ เพราะมันทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี เสี่ยงเกิดลิ่มเลือดอุดตัน อีกทั้งยังพาเพื่อนอย่างโรคอ้วน เบาหวาน ความดันสูง มาด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้คือปัจจัยตัวแรงของสโตรก อันนี้ลดความเสี่ยงง่ายๆคือ พยายามลุกเดิน ยืดเส้นยืดสายทุก 1–2 ชั่วโมง จะลุกไปหาน้ำ เข้าห้องน้ำ หรือเดินไปคุยกับเพื่อนร่วมงานแทนการส่งแชทก็ยังดี
2. งานที่เครียดและกดดันสูง
อย่างหมอเอง ครู ผู้บริหาร ทนาย หรือนักการเงิน ความเครียดที่สะสมทุกวันมันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยครับ เพราะเวลาที่เรากดดัน ฮอร์โมนความเครียด (คอร์ติซอล) จะพุ่งขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้ความดันสูง หลอดเลือดเสื่อมเร็วขึ้น และสุดท้ายก็เพิ่มความเสี่ยงสโตรกลองแบ่งเวลาสัก 5–10 นาทีต่อวันมาพักใจ หายใจลึก ๆ ฟังเพลงเบา ๆ หรือออกกำลังกายเบา ๆ ให้ร่างกายได้รีเซ็ตบ้าง จะช่วยลดความเสี่ยงได้เยอะเลย
3. งานที่ต้องทำกะดึก หรือนอนน้อย
อาชีพอย่าง รปภ., พนักงานโรงงาน, แอร์โฮสเตส หรือคนที่ขับรถข้ามคืน ร่างกายเราออกแบบมาให้ทำงานกลางวันและพักกลางคืนครับ การนอนผิดเวลา นอนไม่พอ ทำให้ฮอร์โมนรวน ความดันสูงขึ้น และร่างกายอักเสบเรื้อรังได้ง่าย ซึ่งทั้งหมดนี้ก็โยงไปสู่สโตรกได้เหมือนกัน แต่ถึงจะทำงานกะดึก ก็อยากให้พยายามหาช่วงนอนให้พอ จัดห้องให้มืด เงียบ ปิดมือถือก่อนนอนสักครึ่งชั่วโมง และตรวจสุขภาพประจำปีบ้างเพื่อเช็กค่าความดันและน้ำตาลในเลือด
4. งานที่ต้องเจอฝุ่นหรือสารพิษ
เช่น คนงานก่อสร้าง ช่างเชื่อม เกษตรกรที่ต้องใช้สารเคมี งานเหล่านี้ทำให้ร่างกายได้รับฝุ่นหรือมลพิษสะสม ซึ่งมีผลต่อหลอดเลือดโดยตรง เพราะมันทำให้เกิดการอักเสบและหลอดเลือดแข็งตัวเร็วขึ้น ความเสี่ยงโรคหัวใจและสโตรกเลยเพิ่มขึ้นตามมา อย่าลืมดูแลตัวเองด้วย ใช้หน้ากากป้องกันฝุ่นอย่าง N95 ให้สม่ำเสมอ ล้างตัวให้สะอาดหลังเลิกงาน และที่สำคัญตรวจสุขภาพทุกปีเพื่อติดตามว่าหลอดเลือด ความดัน และไขมันยังปกติดีอยู่หรือไม่
5. งานที่พ่วงพฤติกรรมเสริมความเสี่ยง
บางอาชีพอาจไม่ได้เสี่ยงโดยตรงจากตัวงาน แต่เสี่ยงจาก “ไลฟ์สไตล์” รอบตัว เช่น บาร์เทนเดอร์ที่ต้องดื่มเหล้า นักดนตรีกลางคืนที่นอนดึกสูบบุหรี่บ่อย หรือพ่อครัวที่อยู่ใกล้กับอาหารมัน ๆ เค็ม ๆ ตลอดเวลา พฤติกรรมเหล่านี้ถ้าสะสมไปนาน ๆ ความดัน ไขมัน และหลอดเลือดก็จะแย่ลงเรื่อยๆ
วิธีดูแลง่ายๆ คือ เลือกที่จะ “ลด” ให้ได้ เช่น ลดเหล้า เลิกบุหรี่ ปรับอาหารให้มีผักผลไม้เพิ่มขึ้น ถึงจะทำงานดึกก็ยังพอช่วยบาลานซ์ความเสี่ยงได้ครับ ก็ยังต้องย้ำนะครับ อาชีพไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่าใครจะต้องป่วยสโตรก แต่ “พฤติกรรมและสภาพแวดล้อมที่มากับงาน” ต่างหากที่เป็นตัวแปรสำคัญ ถ้าเรารู้ตัวว่าทำงานอยู่ในกลุ่มเสี่ยง ก็ไม่ต้องตกใจ เพียงปรับพฤติกรรม เช่น ขยับตัวมากขึ้น คุมอาหาร ออกกำลังกาย จัดการความเครียด และตรวจสุขภาพประจำปี ก็ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมากเพราะสุดท้ายแล้ว สโตรกไม่ใช่โรคที่ป้องกันไม่ได้ ถ้าเรารู้ทันและเริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้