
"หมอเจด" เปิดลิสต์โหด! 5 มะเร็งยอดฮิต คนไทยเป็นเยอะที่สุด แนะวิธีเช็กง่ายๆ
มะเร็งไม่เลือกเพศไม่เลือกวัย "หมอเจด" เปิดลิสต์โหด! 5 มะเร็งยอดฮิต คนไทยเป็นเยอะที่สุด แนะวิธีเช็กง่ายๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ หมอเจด ระบุว่า "คนชอบทักมาถามผมนะครับว่า “หมอคะ จะเริ่มตรวจมะเร็งตอนไหนดี” วันนี้เลยรวมมาให้นะครับ “5 มะเร็งที่เจอบ่อยๆ ตรวจยังไง ตรวจตอนไหนดี “ก่อนจะไปอ่านย้ำก่อนนะครับว่าว่าจริงๆเราไม่ต้องรอให้ป่วยก่อนถึงจะดูแลตัวเองมะเร็งหลายชนิดถ้ารู้ตัวไว รักษาทัน หายขาดได้"
1. มะเร็งเต้านม
ผู้หญิงไทยจำนวนมากที่ตรวจเจอมะเร็งเต้านมบอกว่า "ไม่เคยรู้สึกว่ามีก้อนเลย" มันเกิดเงียบ ๆ แบบไม่มีเสียงเตือน แล้วมารู้ตอนที่เริ่มโตแล้ว จริงๆอยากจะบอกนะว่า มะเร็งเต้านมเป็นโรคที่ตรวจคัดกรองได้ง่ายมาก แถมถ้าเจอตั้งแต่ระยะแรก อัตรารอดชีวิตสูงถึง 90% ขึ้นไป
สำหรับคนทั่วไปหมอแนะนำว่า อายุประมาณ 35 ปีขึ้นไป ควรเริ่มตรวจแมมโมแกรมทุก 1-2 ปีก่อนหน้านั้น ถ้ายังไม่ถึง 35 ปี อาจยังไม่ต้องแมมโมแกรมแต่แนะนำให้ คลำเต้านมเองทุกทุกวัน และพบแพทย์ตรวจเต้านมปีละครั้งส่วนใครที่มีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านมตั้งแต่อายุยังน้อย หรือรู้ตัวว่ามียีนผิดปกติ เช่น BRCA1 หรือ BRCA2หมออยากให้เริ่มตรวจเร็วกว่าคนทั่วไป อาจเริ่มตั้งแต่อายุ 30 หรือแม้แต่ก่อนหน้านั้น
แล้วแมมโมแกรมเจ็บมั้ย?
หลายคนบอกว่าตอนกดเต้านมรู้สึกหน่วง ๆ บ้าง เจ็บนิดหน่อยแต่บอกเลยว่าคุ้ม…เพราะมันอาจช่วยชีวิตคุณไว้ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
2. มะเร็งลำไส้ใหญ่
หลายคนเข้าใจผิด คิดว่ามะเร็งลำไส้ต้องมีเลือดออก ต้องปวดท้อง ต้องถ่ายผิดปกติก่อนความจริงคือ... ช่วงแรก ๆ มันอาจไม่มีอาการเลยสักอย่างเดียวสิ่งที่หมออยากให้ทำคือ "คัดกรองก่อนมีอาการ"ถ้าคุณอายุ 45 ปีขึ้นไป ถึงเวลาแล้วครับไม่ว่าจะชายหรือหญิง ตรวจได้เลย ไม่ต้องรอ
วิธีตรวจมีหลายแบบวิธีง่ายที่สุดคือ "ตรวจอุจจาระหาเลือดที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า"เรียกว่า FIT test หรือ FOBT ทำปีละครั้งก็พอสะดวก ไม่เจ็บ ไม่ต้องสวนกล้องแต่ถ้าอยากรู้ชัวร์ หรือคุณเป็นคนที่มีประวัติมะเร็งในครอบครัว หมอแนะนำให้ “ส่องกล้องลำไส้” ไปเลยทุก 10 ปีเพราะถ้าตรวจแล้วปกติ สบายใจได้ยาว ๆ
ส่องกล้องเจ็บมั้ย?
บอกตรง ๆ ว่าตอนทำไม่เจ็บเลย เพราะมีการให้ยานอนหลับที่หลายคนกลัวคือ “การเตรียมตัวก่อนตรวจ” ที่ต้องดื่มน้ำยาระบายแต่ลองคิดง่าย ๆ ว่าแค่ล้างลำไส้ครั้งเดียว แลกกับการรู้ว่าไม่มีมะเร็ง หมอว่าโอเคนะ
3. มะเร็งตับ
อันนี้ก็เป็นอีกมะเร็งที่เจอบ่อย มะเร็งตับเป็นโรคที่มาแบบเงียบ ๆหลายคนรู้ตัวอีกทีคือตอนที่มันลุกลามไปเยอะแล้วเพราะตับไม่มีเส้นประสาท จะเริ่มมีอาการก็ตอนที่มะเร็งใหญ่จนดันอวัยวะอื่นแต่ถ้ารู้ทันตั้งแต่ตอนยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นโอกาสรักษาหายก็ยังมีเยอะมาก
กลุ่มที่ควรคัดกรองทันทีเลยคือ
•คนที่เป็น ไวรัสตับอักเสบบี หรือซี
•คนที่มี ตับแข็ง จากแอลกอฮอล์ หรือไขมันพอกตับ
•ใครที่เคยมีคนในบ้านเป็นมะเร็งตับ
การตรวจง่ายมากครับคือ อัลตราซาวนด์ตับทุก 6 เดือน และตรวจเลือดดูค่าชื่อว่า AFPการอัลตราซาวนด์ ซึ่งใช้เวลาไม่นาน แล้วก็ไม่เจ็บแค่ทาเจลแล้วใช้หัวเครื่องวน ๆ บนท้องคล้ายตรวจครรภ์เลยครับถ้าตรวจไว เจอไว รักษาได้หมอเจอหลายเคสที่ตรวจเพราะไม่มีอาการอะไรเลย แต่บังเอิญเจอก้อนเล็กๆสุดท้ายผ่าตัดได้ทัน และไม่ต้องให้เคมีบำบัดเลย
4. มะเร็งปอด
คำถามที่หมอเจอบ่อยมากคือ "ไม่สูบบุหรี่เลย ต้องกลัวมะเร็งปอดมั้ย?" คำตอบคือต้องระวังครับ มะเร็งปอดเคยเป็นโรคของ "คนสูบบุหรี่จัด"แต่ยุคนี้มีคนไม่สูบเลย แต่ได้กลิ่นควันจากคนอื่นทุกวันหรือทำงานในที่ที่มีฝุ่น สารเคมี ควันเยอะ ๆ ก็เสี่ยงได้เหมือนกันแต่ในแง่ของ "การคัดกรอง" ตอนนี้แนะนำเฉพาะคนที่เสี่ยงสูงจริง ๆ เท่านั้น
•คนอายุ 50–80 ปี ที่สูบบุหรี่จัดมาก่อน
•หรือเลิกสูบได้ไม่เกิน 15 ปี
กลุ่มนี้ควรตรวจด้วย เอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบรังสีต่ำ (Low-dose CT) ปีละครั้งไม่เจ็บ ใช้เวลาสแกนไม่กี่นาที และช่วยเจอก้อนขนาดเล็กก่อนมันจะลุกลามส่วนคนทั่วไปที่ไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ยังไม่มีแนวทางแนะนำให้ตรวจ แต่สิ่งที่ควรทำคือ หลีกเลี่ยงการอยู่กับควันบุหรี่ ฝุ่น PM2.5 และสารพิษต่าง ๆ ให้มากที่สุด
5. มะเร็งปากมดลูก
ต้นเหตุหลักๆของโรคนี้คือ “เชื้อ HPV”ที่ติดต่อกันผ่านการมีเพศสัมพันธ์สิ่งที่ผู้หญิงทุกคนควรทำคือเริ่มตรวจ Pap smear หรือ HPV DNA test ตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป ทำทุก 3–5 ปี ก็เพียงพอแล้วถ้าผลปกติ การตรวจไม่เจ็บมาก แค่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อยหมอใช้ไม้หรือแปรงเล็ก ๆ ป้ายเซลล์จากปากมดลูก ส่งไปตรวจ
ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีที่สำคัญคือ วัคซีน HPV ช่วยป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้กว่า 90%ถ้าฉีดตั้งแต่อายุยังน้อย ยิ่งได้ผลดีแต่คนโตแล้วก็ยังฉีดได้ โดยเฉพาะก่อนอายุ 26 ปีถ้าเลยอายุนี้ ปนึกษาหมอก่อนก็ได้ครับมะเร็งหลายตัวไม่มีสัญญาณเตือนนะแต่พอรู้ตัวอีกที ก็อาจสายเกินไปแล้วผมอยากให้ทุกคนคิดว่า“การตรวจคัดกรอง” มันไม่ใช่เรื่องน่ากลัว
ถ้าไม่รู้จะเริ่มยังไงแค่เริ่มจากคำถามนี้ก่อนก็พอ ปีนี้เราเคยนัดตรวจอะไรบ้าง?
1.เรารู้มั้ยว่าคนในบ้านเราเป็นมะเร็งอะไร?
2.เราอายุเท่าไหร่แล้ว…ควรเริ่มยัง?