
“คิง เดอะวอยซ์” ป่วยสโตรก แพทย์เตือน! เวียนหัวแบบไหนคือสัญญาณอันตราย
ส่งกำลังใจ “คิง เดอะวอยซ์” ป่วยสโตรก! หมอเตือน! เวียนหัวแบบไหนคือสัญญาณเตือน อันตรายถึงชีวิต เวียนหัวแบบนี้อย่าชะล่าใจ เสี่ยงอัมพฤกษ์-อัมพาต
หลายคนคงได้ยินข่าวว่า “คิง เดอะวอยซ์” ล้มป่วยด้วยโรคสโตรก หรือโรคหลอดเลือดสมอง โดยภรรยาเล่าว่าช่วงแรก ๆ เจ้าตัวมีอาการ “เดินเซ เวียนหัว และหมดสติ” ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า แล้วอาการเวียนหัว เดินเซ ที่เราพบเจอบ้างในชีวิตประจำวัน เป็นสัญญาณอันตรายของ Stroke หรือเป็นเพียงภาวะ “น้ำในหูไม่เท่ากัน” ที่ไม่ร้ายแรงกันแน่?
นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา คุณหมออารมณ์ดีเจ้าของเพจ "หมอเจด" ออกมาเตือน เวียนหัวแบบไหนคือสัญญาณอันตราย การแยกความแตกต่างเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะหากเข้าใจผิดหรือปล่อยปละละเลย อาจทำให้การรักษาล่าช้าและเสี่ยงต่อการสูญเสียการทำงานของร่างกายอย่างถาวรได้ ไปดูวิธีสังเกตอาการเบื้องต้นว่าแบบไหนเข้าข่ายสโตรกที่ต้องรีบพบแพทย์ทันที และแบบไหนเป็นเพียงภาวะน้ำในหูไม่เท่ากันที่ไม่อันตรายร้ายแรง เพื่อให้ทุกคนรู้เท่าทันและป้องกันได้อย่างถูกวิธี
1. สโตรกคืออะไร ทำไมมันน่ากลัวกว่าเยอะ
สโตรกหรือที่หลายคนเรียก “เส้นเลือดสมองแตก-ตีบ” จริง ๆ คือการที่สมอง ขาดเลือดเฉียบพลัน อาจจะเพราะเส้นเลือดตีบ ตัน หรือแตก ทำให้สมองขาดออกซิเจนแล้วเสียหายเร็วมากอาการของ Stroke มักจะไม่ได้มีแค่เวียนหัวอย่างเดียว แต่จะมาพร้อมอย่างอื่น เช่น
•ปากเบี้ยว หน้ายกไม่ขึ้น
•แขนขาอ่อนแรง ยกไม่ขึ้น หรือชา
•พูดไม่ชัด พูดไม่ออก ฟังไม่เข้าใจ
•เกิดขึ้นแบบทันที อยู่ดี ๆ เป็นเลย
ที่สำคัญ บางคนถึงขั้น เดินไม่ได้จริง ๆ หรือหมดสติ แบบที่พี่คิงเจอเลยครับ
2. น้ำในหูไม่เท่ากัน จริงๆ มันคืออะไร
อันนี้หมอเรียกว่า เวียนศีรษะจากหูชั้นในผิดปกติ (Vertigo) หลัก ๆคือเวลาน้ำในหูเสียการทรงตัว จะทำให้รู้สึกเหมือนโลกหมุน ๆลักษณะเด่นๆ คือ
•เวียนหัว สัมพันธ์กับท่าทาง เช่น ลุก นั่ง หันหัว แล้วหมุนหนักขึ้น
•มักมีอาการหูอื้อ หรือได้ยินเสียงหึ่ง ๆ เสียงจิ้งหรีดในหู
•ไม่มีอาการปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง หรือพูดไม่ชัด
•ส่วนใหญ่ไม่หมดสติ แต่จะทรงตัวยาก คลื่นไส้อาเจียนแทน
สรุปคือ ถ้าเวียนหัวอย่างเดียว แบบขึ้น ๆ ลง ๆ ตามท่าทาง → มักเป็นเรื่องของหูครับ ไม่ใช่ สโตรก
3. วิธีแยกง่าย ๆ แvs น้ำในหู
เวลามีอาการเวียนหัว เดินเซ ให้นึกถึงแบบนี้ครับ
•สโตรก → อาการมาเร็วปุ๊บเลย + มีอาการอื่นร่วม (ปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด) + เดินไม่ได้/อาจหมดสติ
•น้ำในหูไม่เท่ากัน → เวียนหัวตามท่าทาง + มีอาการในหู (หูอื้อ เสียงดังในหู) + ไม่มีอาการแขนขาอ่อนแรง/พูดไม่ชัด
พูดง่ายๆ คือ
• ถ้าเวียนหัวเฉย ๆ แล้วขยับหัวแล้วแย่ลง แต่ไม่มีแขนขาชา ปากเบี้ยว พูดไม่ออก = ส่วนใหญ่เป็นหู
• แต่ถ้าอยู่ดี ๆ หนักมากทันที + ร่างกายครึ่งซีกทำงานแปลกไป = ให้คิดถึง Stroke ก่อนเลย
4. สูตรจำง่าย ๆ “BE FAST”
ถ้าเจอแบบนี้ต้องนึกถึงสโตรกนะครับ
•B – Balance : เดินเซ ทรงตัวไม่ได้
•E – Eyes : มองมัว เห็นภาพซ้อน
•F – Face : หน้าตก มุมปากเบี้ยว
•A – Arm : แขนขาอ่อนแรง ยกไม่ขึ้น
•S – Speech : พูดไม่ชัด พูดไม่ออก
•T – Time : รีบโทร 1669 ทันที
เพราะยิ่งรักษาเร็ว สมองเสียหายน้อย โอกาสกลับมาเป็นปกติก็มากขึ้น
5. สิ่งที่ทุกคนควรจำ
ถ้ามีอาหารเวียนหัว บ้านหมุน อย่าชะล่าใจ อย่ามองเป็นเรื่องเล็กนะยิ่งมี ปากเบี้ยว แขนขาอ่อนแรง พูดไม่ชัด ร่วมด้วยคิดถึง สโตรกก่อนเสมออย่านั่งรอดูนาน ถ้าอาการไม่หายภายใน 5 นาที → โทร 1669 ทันที น้ำในหูไม่เท่ากันส่วนใหญ่ไม่ถึงชีวิต แต่สโตรกพลาดทีเดียวอาจพิการถาวรหรือเสียชีวิตได้เลย ข่าวพี่คิง The Voice ทำให้หลายคนหันมาสนใจเรื่องสโตรกมากขึ้น ซึ่งจริงๆ แล้ว การแยกสโตรกกับน้ำในหูไม่เท่ากันไม่ยากครับ
ถ้ารู้หลักสังเกตง่ายๆ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ถ้าไม่ชัวร์ อย่าเสี่ยงเดาเอง ให้รีบไปโรงพยาบาล เพราะในโรคสโตรกนี่ เวลา = สมอง สมองที่เสียไปแล้ว เอากลับคืนไม่ได้ครับ แล้วอีกอย่างนะไม่ว่าอาการไหนก็ควรไปหาหมอ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้จนเป็นเรื่องใหญ่