ไลฟ์สไตล์

รักสนุกต้องหัดป้องกัน รู้จัก 3 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อย

รักสนุกต้องหัดป้องกัน รู้จัก 3 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อย

17 มิ.ย. 2568

รักสนุกต้องหัดป้องกัน! หากไม่ใส่ถุงยางระวัง! เจอ 3 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สุดฮิต ชวนสังคมเข้าใจใหม่กับการกินยา PrEP พร้อมแนะวิธีป้องกัน และการรักษาที่ควรรู้

ในยุคที่การพบปะนัดพบกันทำได้ง่ายขึ้นผ่านแอปพลิเคชันมากมาย ความสัมพันธ์ใหม่ ๆ ก็เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่ตามมาคือความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่หลายคนอยากเข้าใจแต่ไม่กล้าถาม สถิติจากกรมควบคุมโรคพบว่า การติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ส่วนใหญ่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชายมากกว่า 60%แต่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STDs) ยังมีอีกหลายโรค และโรคเหล่านี้ไม่ได้เลือกรสนิยมทางเพศทุกคนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงล้วนมีความเสี่ยงเท่าเทียมกันเพื่อให้ทุกคนเข้าใจและสามารถป้องกันตนเองได้อย่างถูกต้องทางด้าน นพ.ประวัฒน์ จันทฤทธิ์ แพทย์ผู้ชำนาญการโรคติดเชื้อ รพ.วิมุต จะมาแชร์ความรู้เรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 3 โรคหลักที่พบบ่อย พร้อมทั้งวิธีป้องกันและการรักษาที่ทุกคนควรรู้เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ปลอดภัยและมีความสุขไม่ว่าเราจะเลือกรักใครหรือมีรสนิยมทางเพศแบบใดก็ตาม

 

รักสนุกต้องหัดป้องกัน รู้จัก 3 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อย

 

ชวนรู้จัก 3 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยที่สุด

นพ.ประวัฒน์ จันทฤทธิ์ อธิบายว่า "โรคหลักของการติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีอยู่ 3 โรค คือ เอชไอวี ซิฟิลิส และหนองใน ทั้ง 3 กลุ่มนี้สามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ในคราวเดียวกัน การเข้าใจโรคเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราป้องกันและดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

 

รักสนุกต้องหัดป้องกัน รู้จัก 3 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อย

เอชไอวี (HIV) โรคเงียบที่ยังอันตราย ไขข้อสงสัย ทำไมกลุ่ม LGBTQ+ จึงเสี่ยงสูง?

แน่นอนว่าในด้านพฤติกรรม คนทุกเพศที่มีความสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันและเปลี่ยนคู่นอนหลายคน ล้วนเสี่ยงต่อเอชไอวีทั้งสิ้น แต่ในกลุ่มชายรักชาย จะเสี่ยงติดเชื้อสูงขึ้นจากมิติเชิงชีววิทยา เพราะช่องทวารหนักมีโครงสร้างที่เอื้อต่อการติดเชื้อมากกว่าช่องคลอด เนื่องจากเยื่อบุบริเวณนี้ค่อนข้างบาง ไม่มีสารหล่อลื่นตามธรรมชาติ ทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ง่าย นอกจากนี้ บริเวณทวารหนักยังมีเซลล์ CD4 เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเซลล์ที่เชื้อเอชไอวีชอบไปจับและใช้เป็นตัวนำทางเข้าสู่ร่างกาย

 

สิ่งที่ทำให้เอชไอวีอันตรายคือ หลายคนหลังจากติดเชื้อแล้วอาจไม่มีอาการเลย หรือมีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา เช่น เจ็บคอ มีไข้ ซึ่งจะหายเองได้ ทำให้ไม่เกิดข้อสงสัย "ผู้ติดเชื้อสามารถอยู่โดยไม่มีอาการเป็นเวลา 5-7 ปี หรือบางคนอาจเร็วกว่านั้น 1-2 ปี จนกระทั่งภูมิคุ้มกันถดถอยลงไปเรื่อย ๆ" นพ.ประวัฒน์ เตือนว่า เมื่อภูมิคุ้มกันต่ำมาก จะเริ่มมีอาการไม่สบาย เบื่ออาหาร ผอมลง มีผื่นคัน ไข้ขึ้นตอนกลางคืน หรือติดเชื้อแปลก ๆ เช่น เป็นงูสวัด วัณโรคในปอด ซึ่งมักเป็นสัญญาณว่าเข้าสู่ระยะเอดส์แล้ว

 

รักสนุกต้องหัดป้องกัน รู้จัก 3 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อย

ชวนสังคมเข้าใจใหม่ “กินยา PrEP ไม่เท่ากับใส่ถุงยาง” 

หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อยา PrEP และยา PEP แต่ยังไม่เข้าใจกลไกการทำงานของตัวยา โดย นพ.ประวัฒน์ อธิบายว่า “ยา PrEP (Pre-Exposure Prophylaxis) เป็นยาป้องกันการติดเชื้อที่กินก่อนมีความเสี่ยง เหมาะสำหรับคนที่มีพฤติกรรมเสี่ยง มี 2 แบบ คือ Daily PrEP (กินทุกวัน) และ On-Demand PrEP (กินก่อนมีเพศสัมพันธ์ 2-24 ชั่วโมง และหลังจากนั้นอีก 2 วัน) ส่วนยา PEP (Post-Exposure Prophylaxis) เป็นยาที่กินหลังมีความเสี่ยงแล้ว ใช้เป็นเวลา 28 วัน ทั้งในบุคลากรทางการแพทย์ที่ถูกเข็มที่ใช้กับผู้ป่วย HIV ทิ่ม และคนทั่วไปที่เสี่ยง ซึ่งต้องเข้าใจก่อนว่า การกินยา PrEP ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องใส่ถุงยางแล้ว เพราะยาป้องกันเฉพาะเอชไอวี แต่ไม่ป้องกันโรคติดต่ออื่น ๆ ที่อันตรายเหมือนกัน โดยการใช้ถุงยางร่วมกับ PrEP จะให้ประสิทธิภาพการป้องกันเอชไอวีได้ 98-99% แต่หากไม่ใช้ถุงยาง ประสิทธิภาพการป้องกันก็จะลดลง”

 

รักสนุกต้องหัดป้องกัน รู้จัก 3 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อย

 

ซิฟิลิส ระบาดต่อเนื่อง ปล่อยไว้อันตรายถึงชีวิต

โรคซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งกำลังระบาดในกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มเสี่ยง โรคนี้นับเป็นอีกหนึ่งภัยเงียบเพราะอาจแฝงอยู่ในร่างกายเป็นเวลานานโดยไม่มีอาการ โดยอาการของซิฟิลิส จะแตกต่างกันในแต่ละระยะ ระยะแรก มักมีแผลที่อวัยวะเพศที่ไม่เจ็บ ซึ่งจะหายเองได้ ทำให้หลายคนอาจไม่ได้สังเกต ระยะที่ 2 จะมีผื่นขึ้นทั้งตัว มีไข้หรือไม่มีก็ได้ โดยเฉพาะผื่นที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของซิฟิลิส ระยะที่ 3 อาจมีอาการเช่น หูได้ยินน้อยลง หูดับ มองไม่ชัด หรือเชื้อขึ้นสมอง ซึ่งอันตรายมาก ซิฟิลิสสามารถลดการติดเชื้อซิฟิลิสได้ หากสวมถุงยางอนามัย โดยตัวถุงยางต้องครอบคลุมบริเวณแผล นพ.ประวัฒน์ เตือนว่า "ซิฟิลิสที่แฝงอยู่เป็นเวลานานสามารถทำให้เส้นเลือดสมองตีบ เกิดเป็นสมองขาดเลือดขึ้นมาตอนอายุมากขึ้นได้ แต่ข่าวดีคือซิฟิลิสสามารถรักษาหายได้ คนทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้ติดเชื้อ HIV รักษาหายได้ง่าย แต่โรคซิฟิลิสในผู้ติดเชื้อ HIV ก็รักษาหายได้เหมือนกัน แต่อาจช้ากว่าคนปกติ" นพ.ประวัฒน์ อธิบาย

 

รักสนุกต้องหัดป้องกัน รู้จัก 3 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อย

 

“หนองใน” ผู้ชายมีอาการชัด-ผู้หญิงอาการซ่อน แต่อันตราย

หนองในแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ หนองในแท้และหนองในเทียม ซึ่งเกิดจากแบคทีเรียคนละชนิดกัน อาการในผู้หญิงมักมีอาการที่ "หลบๆ ซ่อนๆ" มากกว่าผู้ชาย โดยจะมีสิ่งคัดหลั่งออกมาจากช่องคลอดซึ่งมีลักษณะผิดปกติ เช่น ตกขาวเป็นสีเหลืองหรือสีขาวที่ไม่ใช่ตกขาวปกติ อาจมีอาการปัสสาวะแสบ รู้สึกเจ็บผิดปกติเวลามีเพศสัมพันธ์ หรือมีเลือดออกตอนยังไม่ถึงรอบเดือน ในผู้ที่เป็นมานานอาจมีการปวดท้องหรือปวดท้องน้อยมากกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม หนองในในผู้หญิงบางคนอาจไม่มีอาการเลย ความอันตรายของหนองในในผู้หญิง คือหากปล่อยไว้ไม่รักษา จะลามไปสู่การอักเสบเรื้อรังในช่องท้องน้อย มดลูกติดเชื้อ หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย ส่วนผู้ชายมักมีอาการชัดเจนกว่าผู้หญิง ทำให้เข้ารับการรักษาเร็วกว่า โดยจะมีอาการหนองไหลออกมาเมื่อปัสสาวะหรือปัสสาวะแล้วเจ็บแสบมาก บางคนอาจเจ็บอัณฑะ หรืออัณฑะบวมได้ หากมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก อาจมีหนองที่ทวารหนัก และหากมี Oral Sex อาจมีอาการเจ็บคอ กลืนแล้วรู้สึกเจ็บ มีความรู้สึกระคายเคืองในคอ โดยหนองใน จะรักษาด้วยการใช้ยา ซึ่งจำเป็นต้องพาคู่นอนเข้ารับการรักษาด้วยกันเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ ส่วนวิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง”

 

รักสนุกต้องหัดป้องกัน รู้จัก 3 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อย

 

แพทย์ย้ำ “ชีวิตเรามีค่า” เลิกอายและมาหาหมอทันที ​เมื่อรู้ว่าเสี่ยง

นพ.ประวัฒน์ ให้ข้อคิดสำคัญว่า "แน่นอนว่าการป้องกันโรคที่ดีที่สุดคือ Safe Sex ซึ่งต้องตกลงกันทุกฝ่าย บอกคู่นอนเราให้ใส่ถุงยางทุกครั้ง ไม่ต้องกลัวหรือเกรงใจ เพราะป่วยไปไม่คุ้มกันอยู่แล้ว เมื่อรู้ตัวว่ามีความเสี่ยง มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน ต้องอย่าปล่อยไว้จนมีอาการรุนแรง การมาพบแพทย์เร็วจะช่วยให้รักษาได้ไวจนหายจากโรคได้ แต่หากปล่อยไว้จนเข้าระยะรุนแรง จะใช้ชีวิตยากขึ้น ไม่ต้องกลัวการพบแพทย์ ทุกสถานพยาบาลมีการปกป้องข้อมูลผู้ป่วยอย่างเข้มงวด หากอายแล้วไม่มาตรวจ พออาการรุนแรงและเจ็บป่วยไปจะไม่คุ้ม อยากย้ำว่า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ป่วยได้ก็หายได้ ควรพาคู่นอนมาตรวจและรักษาไปด้วยกัน อย่าไปแคร์ความรู้สึกหรือสายตาคนอื่น ให้โฟกัสว่าต่อจากนี้ เราจะทำยังไงให้กลับมาแข็งแรง และใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในอนาคตจะดีที่สุด"

 

รักสนุกต้องหัดป้องกัน รู้จัก 3 โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อย