
เปิด 5 จังหวัดป่วยโควิดมากที่สุด ในไทยสายพันธุ์ XEC กำลังระบาด
เปิด 5 จังหวัดป่วยโควิดมากที่สุด ในไทยสายพันธุ์ XEC กำลังระบาด อาการไม่รุนแรงเหมือนไข้หวัดทั่วไป หมอแนะหากติดเชื้อไม่ต้องหยุดพัก ใส่หน้ากากป้องกันได้
กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี มีการประชุมหารือถึงการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ โควิด นพ.สุทัศน์ โชตนะพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ได้เปิดเผยข้อมูลว่า โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบนจะเป็นไปตามฤดูกาล คือ เมื่อเข้าฤดูฝนและเปิดเรียนจะพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษาที่อยู่รวมกลุ่ม เกิดการแพร่กระจายได้ง่าย ทำให้ขณะนี้ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่และโควิด 19 สูงขึ้น โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 3 มิถุนายน 2568 พบผู้ป่วยโรคโควิด 19 จำนวน 324,692 ราย อัตราป่วยอยู่ที่ 500.20 ต่อประชากรแสนคน
จังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุดคือ
- กรุงเทพฯ
- ชลบุรี
- ระยอง
- ภูเก็ต
- นครปฐม
มีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในสถานศึกษา 12 เหตุการณ์ เรือนจำ 6 เหตุการณ์ ค่ายทหาร 4 เหตุการณ์ และโรงพยาบาล 2 เหตุการณ์ ภาพรวมแนวโน้มผู้ป่วยเริ่มเพิ่มขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่ 16 เป็นต้นมา และช่วงสัปดาห์ที่ 19-22 จำนวนผู้ป่วยสูงกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี และสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 โดยสัปดาห์ที่ 22 มีผู้ป่วยสูงสุด 93,621 ราย ส่วนสัปดาห์นี้พบ 28,392 ราย
สำหรับมาตรการควบคุมป้องกันโรค ยังเน้นย้ำมาตรการส่วนบุคคล คือ การเว้นระยะห่าง ล้างมือ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด และแม้อัตราเสียชีวิตค่อนข้างต่ำ แต่ต้องพึงระวังกลุ่ม 608 โดยมีข้อแนะนำเพิ่มเติม คือ ให้เข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลด้วย
"ขณะนี้การระบาดของโควิด 19 ในประเทศไทยเป็นสายพันธุ์ XEC ซึ่งติดเชื้อได้ง่าย แต่อาการไม่ได้รุนแรง เป็นเหมือนกับโรคไข้หวัดทั่วไป สะท้อนได้จากอัตราการนอนรักษาในโรงพยาบาลต่ำมาก ผู้ป่วยหลายรายหายได้เองโดยไม่ต้องรับประทานยา และเมื่อติดเชื้อยังไม่มีความจำเป็นต้องหยุดการเรียนการสอนหรือหยุดการทำงาน"
ป่วยโควิดสามารถดูแลรักษาเหมือนไข้หวัดทั่วไป คือ ใช้ยารักษาตามอาการ ไม่จำเป็นต้องใช้ยาต้านไวรัส ส่วนกลุ่มที่ควรรีบไปพบแพทย์คือมีอาการมากขึ้น ได้แก่ ไข้สูงมากกว่า 38.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป มีอาการหอบเหนื่อย ซึมลง หรือ ค่าออกซิเจนในเลือดต่ำกว่า 95% และกลุ่มเสี่ยงคือ ผู้สูงอายุ กลุ่มโรคเรื้อรัง 7 โรค เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี และหญิงตั้งครรภ์
ป่วยโควิดไม่มีคำแนะนำว่า ต้องหยุดงานเพื่อกักตัว อยู่ที่ดุลพินิจของแพทย์
"ขณะนี้ไม่ได้มีคำแนะนำว่าเมื่อป่วยแล้วต้องหยุดทำงานเพื่อกักตัว การลาหยุดให้เป็นไปตามดุลพินิจของแพทย์เหมือนโรคติดต่อทั่วไปอื่นๆ เพียงแต่ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอด โดยเฉพาะ 5 วันแรกของการป่วย ล้างมือบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มกับคนจำนวนมาก เช่น การนั่งประชุมร่วมกัน หรือรับประทานอาหารร่วมกัน หากเป็นไปได้ขอให้สวมหน้ากากอนามัยต่ออีก 3-5 วัน ส่วนโรงเรียนหากมีนักเรียนป่วยหลายคน ขอให้นักเรียนที่ป่วยหยุดเรียน โดยไม่จำเป็นต้องปิดชั้นเรียนหรือปิดโรงเรียน เนื่องจากเด็กวัยเรียนไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงที่มีอาการรุนแรง"