
อาการ "ไส้ติ่ง" เริ่มต้นจะเป็นอย่างไร รู้ไว หาหมอทัน ปลอดภัยแน่
อาการไส้ติ่งอักเสบมักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันและอันตราย มาดูอาการเบื้องต้นปวดท้องแบบไหนคือเป็น "ไส้ติ่ง" หากเป็นแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย แล้วอาการไส้ติ่งอักเสบเกิดจากอะไร
อาการไส้ติ่ง ที่บ่งบอกว่า ร่างกายอาจกำลังเกิดอาการไส้ติ่งอักเสบ หรืออาจร้ายแรงได้ถึงอาการไส้ติ่งแตก ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้ ถ้าไม่สังเกตร่างกายให้ดีและพบคุณหมอเสียแต่เนิ่น ๆ อาการไส้ติ่ง พบได้กับทุกเพศทุกวัย ผู้ป่วยจะรู้สึกถึงความผิดปกติก็ต่อเมื่อเกิดโรคไส้ติ่งอักเสบ (Appendicitis) แล้ว ทำให้ร่างกายค่อยๆ แสดงอาการเมื่อไส้ติ่งเริ่มอุดตัน
อาการไส้ติ่ง เริ่มต้นเป็นอย่างไร
- มีไข้
- จุกแน่นท้อง
- คลื่นไส้ อาเจียน
- เบื่ออาหาร
- อาจเกิดอาการท้องเสีย ท้องผูก หรือท้องอืดร่วมด้วย
- ปัสสาวะบ่อยขึ้น เพราะการอักเสบที่มากขึ้นของไส้ติ่งไปกระตุ้นท่อไตของระบบทางเดินปัสสาวะใกล้ ๆ กัน
เบื้องต้นจะเริ่มปวดทั่วๆ ส่วนมากอาจจะปวดรอบๆ สะดือ อาจเป็นพักๆหรือตลอดเวลาก็ได้ แต่โดยทั่วไปมักเป็นแบบตลอดเวลา หลังจากนั้นประมาณ 6-10 ชม.อาการปวดจะย้ายมาที่ บริเวณท้องน้อยข้างขวา ต่ำกว่าสะดือ ปวดตลอดเวลา
อาการสำคัญของไส้ติ่งอักเสบ
ระยะแรก – ระยะไส้ติ่งเริ่มอุดตัน: จะมีอาการปวดท้องกะทันหัน และเป็นอาการที่เกิดก่อนอาการอื่นๆ โดยมักมีอาการเบื่ออาหาร จุกแน่นร่วมด้วยตามมา มักปวดตำแหน่งรอบสะดือ ปวดแบบที่ไม่เคยปวดมาก่อน
ระยะต่อมา – ระยะไส้ติ่งบวมโป่งขึ้น: เมื่อเชื้อโรคแพร่กระจายและลุกลามถึงชั้นนอกของไส้ติ่ง ผู้ป่วยจะปวดท้องมากขึ้นในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่เกิน 1-2 วัน และย้ายตำแหน่งมาปวดที่ท้องน้อยด้านขวา เมื่อการเคลื่อนไหว-ไอ-จามจะทำให้ปวดมากขึ้น และอาจเกิดอาการท้องเสียหรือท้องผูกในระยะนี้ได้
ระยะรุนแรง –ไส้ติ่งอักเสบแตกกระจายในช่องท้อง: เมื่อปล่อยไว้จนไส้ติ่งอักเสบแตก (พบได้บ่อยประมาณ 20%) หากไม่ได้รับการผ่าตัดรักษาจะเกิดผลข้างเคียงและมีภาวะแทรกซ้อนได้ 2 แบบ คือ
ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อห่อหุ้มไส้ติ่งที่แตกนั้นไว้ ทำให้คลำเจอมีก้อน เจ็บที่ท้องน้อย และมีไข้ หรือ เชื้อโรคและหนองกระจายไปทั่วท้อง (เยื่อบุช่องท้องอักเสบ) อาจเข้ากระแสเลือด (ภาวะพิษเหตุติดเชื้อ) ซึ่งอันตรายถึงชีวิต (ตาย) ได้