ไลฟ์สไตล์

"ผื่นแมลงกัด" เกิดการอักเสบใต้ผิวหนัง หากอาการหนักอย่าปล่อยทิ้งไว้!

"ผื่นแมลงกัด" เกิดการอักเสบใต้ผิวหนัง หากอาการหนักอย่าปล่อยทิ้งไว้!

08 ก.ย. 2567

อย่ามองเป็นเรื่องเล็กหากโดน "แมลงกัด" จนขึ้นผื่นอาจเป็นโรคผื่นแพ้แมลงกัด เกิดการอักเสบใต้ผิวหนัง ลักษณะคล้ายลมพิษ มักเจอบ่อยในคนที่เป็นภูมิแพ้ร่วมด้วย หากอาการหนักอย่าปล่อยทิ้งไว้! ต้องรีบไปพบแพทย์

 

แมลง ถือเป็นสัตว์ ที่มีการกระจายมากที่สุดในโลกใบนี้ และในยิ่งในช่วงนี้ฝนตกหนัก เกิดอุทกภัยในหลายจังหวัดในประเทศไทย ซึ่งอาจจะถูกแมลง กัดต่อย แหล่งที่มาชนิดของแมลงนั้นก็มีมากบางครั้งบางคราวก็ ไม่สามารถรู้ได้ทั้งหมดว่าแมลงชนิดไหนเป็นอัตราย เพราะแมลงบางชนิดสามารถปล่อยสารทำให้เกิดผิวหนังอักเสบ หรืออาจรุนแรงไปขึ้นขั้นเซลล์อักเสบ เช่น แมลงสังคมอย่างมดและผึ้ง เป็นตัวอย่างที่พบเห็นได้ง่ายที่สุดของสัตว์สังคม พวกมันอาศัยอยู่ร่วมกันเป็นอาณาจักรขนาดใหญ่ สามารถพบได้ทั่วไปได้ตามสถานที่ต่าง ๆไม่ว่าจะเป็นอาคาร บ้านเรือน สวนสาธารณะ หรือป่าเขา 

 

\"ผื่นแมลงกัด\" เกิดการอักเสบใต้ผิวหนัง หากอาการหนักอย่าปล่อยทิ้งไว้!

การป้องกันอัตรายจากแมลงนั้นสามารถทำได้หลายทาง คือควรสวมใส่เสื้อแขนขายาว รวมทั้งใช้ครีม หรือสเปรย์ เพื่อป้องกันแมลงกัด บางรายหากโดนแมลงกัดแล้วอาจทำให้เกิดพยาธิสภาพตามมา ชิ้นเนื้อที่บริเวณแมลงกัดมักจะเป็นเนื้อตายที่บริเวณผิวหนังชั้นบน จึงทำให้ผื่นมีลักษณะจุดดำๆ ตรงกลางและเซลล์อักเสบ โรคในกลุ่มนี้มักจะลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ เลยทำให้รอยโรคเหล่านี้เมื่อหายแล้วเกิดเป็นรอยดำตามมา

 

\"ผื่นแมลงกัด\" เกิดการอักเสบใต้ผิวหนัง หากอาการหนักอย่าปล่อยทิ้งไว้!

ลักษณะรอยโรคของผื่นเป็นตุ่มแดง ขนาด 2- 8 มิลลิเมตร เป็นกลุ่ม ๆ หรือกระจายทั่วตัว มีอาการคัน ปกติแล้วหายได้เองในระยะเวลา 5-10 วัน บางรายอาการหนักคล้ายลมพิษ เรียกว่า papular urticaria มักจะเจอได้บ่อยในคนไข้ที่มีโรคประจําตัวในกลุ่มภูมิแพ้ร่วมด้วย ในรายที่มีอาการมากอาจต้องได้รับการรักษา 

 

\"ผื่นแมลงกัด\" เกิดการอักเสบใต้ผิวหนัง หากอาการหนักอย่าปล่อยทิ้งไว้!

 

ผื่นแมลงกัดนั้น ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ แต่เกิดจากการอักเสบใต้ผิวหนัง การรักษาส่วนใหญ่จึงเน้นไปที่การรักษาตามอาการลดอาการคัน หรือในตุ่มที่มีการอักเสบ ให้ใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ ในรายที่เป็นมากอาจได้รับยากินกลุ่มสเตียรอยด์ร่วมด้วยได้ หากไม่ได้รับการรักษาแต่เนิ่น ๆ การเกามาก ๆ ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนในชั้นผิวหนังแท้ได้ ซึ่งการรักษาต้องมีการให้ยาทา และยากิน กลุ่มยาฆ่าเชื้อ Antibiotic ร่วมด้วย การรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อจะต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้ง

 

\"ผื่นแมลงกัด\" เกิดการอักเสบใต้ผิวหนัง หากอาการหนักอย่าปล่อยทิ้งไว้!