
รู้เท่าทัน! โรคระบบทางเดินหายใจที่ควรระวังในช่วงนี้
ช่วงนี้อากาศชื้น ฝนตกบ่อย! โรคระบบทางเดินหายใจถือเป็นโรคที่แพร่ระบาดได้ง่าย เพียงแค่ไอ จามหรือหายใจรดกัน เชื้อโรคก็ถูกแพร่โดยปนมากับฝอยละอองน้ำลาย รู้เท่าทัน! โรคระบบทางเดินหายใจที่ควรระวังในช่วงนี้
โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากระบบทางเดินหายใจเป็นส่วนสำคัญของร่างกายที่ช่วยให้เราสามารถหายใจและได้รับออกซิเจนที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต อย่างไรก็ตาม มีหลายปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคที่เกี่ยวข้องกับปอด โรคหืด หรือโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำให้เกิดอาการหายใจติดขัดและปัญหาทางเดินหายใจอื่นๆ ได้ดังนั้น เพื่อให้เข้าใจและจัดการโรคระบบทางเดินหายใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้
โรคระบบทางเดินหายใจที่ควรระวัง
ไข้หวัด : เมื่อได้รับเชื้อไวรัสประมาณ 1-3 วัน จะมีอาการจาม คัดจมูก มีไข้ต่ำและไอ
ไข้หวัดใหญ่: จะมีไข้สูง ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย คัดจมูก มีน้ำมูกใส ไอแห้ง เบื่ออาหาร
โรคปอดอักเสบ: ผูัป่วยจะมีไข้ ไอ มีเสมหะ หายใจลำบาก หอบเหนื่อย เจ็บหน้าอกเวลาหายใจ
คออักเสบ: อาการคออักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มีอาการไข้ ปวดศีรษะ รู้สึกปวดเมื่อยไม่สบายตัว คอมีจุดสีแดงหรือรอยขาวหรือรอยสีเทาขึ้น
อาการคออักเสบจากการติดเชื้อไวรัส: มีอาการเสียงแหบ คอแดงและมีอาการคอแห้ง มีไข้แต่ต่ำกว่าการติดเชื้อจากแบคทีเรีย มีอาการน้ำมูกไหล
หลอดลมอักเสบ: ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส เมื่อเชื้อเข้าสู่หลอดลมจะทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุหลอดลมและบวมมากขึ้น ทำให้หลอดลมตีบแคบส่งผลให้หายใจลำบาก เนื่องจากอากาศไหลผ่านหลอดลมเข้าปอดได้ไม่ดี ในรายที่หลอดลมตีบมากๆจะหายใจดังวี้ดได้ ส่งผลให้เกิดอาการไอมากขึ้น อาจไอแห้งหรือไอมีเสมหะ
โควิด-19: ช่วงนี้โควิด-19 สายพันธุ์ JN.1 เป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดรวดเร็ว ผู้ป่วยจะแสดงอาการ ปวดศีรษะ ไอ มีเสมหะ ไข้สูง มีน้ำมูก ปวดเมื่อยตามร่างกาย
หากมีอาการผิดปกติหรืออาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม หรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
ที่มา- โรงพยาบาลศิครินทร์