Lifestyle

"วันนอนหลับโลก" เปิด 11 วิธี การนอน นอนยังไงให้มีคุณภาพ หลับไว สนิทตลอดคืน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

15 มีนาคม "วันนอนหลับโลก" (World Sleep Day) ตระหนักถึงความสำคัญและปัญหาของ "การนอนหลับ" เปิด 11 วิธีการนอนหลับ นอนยังไงให้มีคุณภาพ หลับง่าย หลับไว หลับสนิทตลอดคืน

"วันนอนหลับโลก" (World Sleep Day) ถูกตั้งขึ้นโดย สมาคมการแพทย์เพื่อการนอนหลับโลก (The World Association of Sleep Medicine หรือ MASM ) สมาคมได้กำหนดให้วันศุกร์ที่สองของเดือนมีนาคมในทุกๆ ปี เป็น "วันนอนหลับโลก" จุดประสงค์หลักเพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงความสำคัญและปัญหาของ การนอนหลับ ที่นับว่าเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้สุขภาพเราดีหรือแย่ลง โดย คำขวัญวันนอนหลับโลก ประจำปี 2567 คือ "นอนหลับสมดุล เป็นต้นทุนสุขภาพสากล Sleep Equity for Global Health”

 

 

การนอนหลับ พักผ่อนไม่เพียงพอเป็นประจำอาจส่งผลเสียต่อ สุขภาพ เช่น รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีสมาธิ เกิดอุบัติเหตุขณะทำกิจกรรมต่างๆ และอาจนำไปสู่โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคซึมเศร้า สาเหตุของการนอนไม่หลับอาจเกิดจากความเครียดในชีวิตประจำวัน สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการ นอนหลับ และพฤติกรรมการใช้ชีวิต การปรับเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ นอนหลับ ได้ง่ายและเร็วขึ้น

 

 

วิธีนอนให้หลับง่ายๆ หลับไวและหลับสนิทอย่างมีคุณภาพตลอดทั้งคืน ทำได้ด้วยตัวเอง มีดังนี้ 

 

1. เข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลา

 

กำหนดเวลาการเข้านอนและตื่นนอนให้ตรงกันทุกวัน ทั้งวันธรรมดาและวันหยุด เพราะจะช่วยให้วงจรจังหวะเซอร์คาร์เดียน (Circadian Rhythm) ซึ่งเป็นวงจรการทำงานของร่างกายที่ควบคุมการนอนหลับทำงานอย่างเป็นระบบและทำให้ร่างกายเคยชินกับเวลาเข้านอน ทำให้หลับง่ายขึ้น

 

 

2. จำกัดเวลาใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

 

ไม่ควรดูโทรทัศน์ ใช้โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ก่อนเข้านอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เช่น ถ้าเข้านอนเวลา 22.00 น. ให้งดใช้อุปกรณ์เหล่านี้ก่อน 21.00 น. เนื่องจากแสงสีฟ้าจากอุปกรณ์เหล่านี้รบกวนการทำงานของจังหวะเซอร์คาร์เดียน ซึ่งอาจทำให้นอนหลับได้ยาก

 

 

3. อาบน้ำอุ่นก่อนเข้านอน

 

การอาบน้ำอุ่นก่อนเข้านอนเป็นวิธีนอนให้หลับได้ง่ายขึ้น เพราะนอกจากจะช่วยร่างกายผ่อนคลายแล้ว อุณหภูมิของร่างกายจะลดลงขณะที่นอนหลับ เพื่อส่งสัญญาณบอกสมองว่าถึงเวลานอนหลับแล้ว การอาบน้ำอุ่นจะเร่งกระบวนการที่ทำให้อุณหภูมิร่างกายลดลงได้เร็วขึ้น จึงทำให้นอนหลับได้เร็วขึ้น

 

 

การนอนหลับ

 

4. ผ่อนคลายความเครียด

 

ความเครียดจากชีวิตประจำวันเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้นอนไม่หลับ ควรผ่อนคลายความเครียดด้วยการอ่านหนังสือ นั่งสมาธิ และเล่นโยคะก่อนเข้านอน ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและจิตใจสงบ 

 

นอกจากนี้ การฟังเพลงสบายๆ หรือฟังคลื่นเสียงที่ทำให้รู้สึกสงบและลดความวิตกกังวล เช่น เสียงที่มีคลื่นความถี่สม่ำเสมอ (White Noise) หรือคลื่นเสียงบำบัดสมอง (Binaural Beats) ซึ่งเป็นการนำคลื่นเสียงความถี่แตกต่างกัน 2 คลื่นมาผสมเป็นเสียงเดียวกัน ทำให้สมองปรับจูนให้เป็นโทนเสียงใหม่ที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย

 

 

5. ปรับพฤติกรรมการกิน

 

อาหารและพฤติกรรมการกินก่อนเข้านอนมีผลต่อการนอนหลับเช่นกัน ไม่ควรกินอาหารมื้อเย็นปริมาณมาก ควรกินอาหารก่อนเวลา 19.00 น. หรือก่อนเวลาเข้านอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต น้ำตาล และไขมันอิ่มตัวสูง และหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล์และคาเฟอีน ซึ่งทำให้นอนหลับยาก

 

 

6. ออกกำลังกายเป็นประจำ

 

นอกจากจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง การออกกำลังกายเป็นประจำยังช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น โดยทั่วไป ควรออกกำลังกายที่ความหนักระดับปานกลางสัปดาห์ละ 150 นาที หรือแบ่งเป็น 5 วัน วันละ 30 นาทีในช่วงเช้า ซึ่งจะช่วยให้วงจรจังหวะเซอร์คาร์เดียนทำงานอย่างเป็นระบบ ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายช่วงใกล้เวลาเข้านอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพราะอาจทำให้ร่างกายตื่นตัวจนนอนไม่หลับ

 

 

การนอนหลับ

 

 

7. จัดบรรยากาศให้เหมาะสมกับการนอน

 

การจัดบรรยากาศในการนอนหลับเป็นวิธีนอนให้หลับได้เร็วและหลับสนิทตลอดทั้งคืน โดยเลือกหมอนและที่นอนที่นุ่มสบายและรองรับกับสรีระ ซึ่งจะช่วยให้นอนหลับได้ดีและไม่ปวดเมื่อย ปรับอุณหภูมิในห้องนอนให้เหมาะสม ไม่ควรร้อนหรือเย็นจนเกินไป 

 

ใช้ผ้าม่านกันแสงหรือผ้าม่านสีทึบในห้องนอนเพื่อป้องกันแสงสว่างจากภายนอก ปิดไฟในห้องหรือเปิดโคมไฟดวงเล็กๆ ที่ให้แสงนวลตา หากมีเสียงรบกวนจากภายนอก เช่น เสียงรถ หรือเสียกรนจากคนข้างตัว ควรใช้ที่อุดหูกันเสียงเพื่อให้นอนหลับได้สนิท

 

 

8. การคลายกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นทีละส่วน (Progressive Muscle Relaxation)

 

การคลายกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นทีละส่วนเป็นวิธีนอนให้หลับที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลดความตึงเครียดและวิตกกังวล โดยการเกร็งและคลายกล้ามเนื้อตามร่างกายทีละส่วน ดังนี้

 

  • นอนลงบนเตียงในท่าทางที่สบาย หลับตา และหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกช้าๆ เพื่อทำสมาธิ
  • หายใจเข้าพร้อมเกร็งกล้ามเนื้อค้างไว้ 10 วินาที เริ่มจากบริเวณใบหน้า เช่น ขมวดคิ้ว เลิกคิ้ว หลับตาให้แน่นสนิท และค่อยๆ คลายกล้ามเนื้อพร้อมผ่อนลมหายใจออก
  • หยุดพักด้วยการหายใจเข้าออกช้าๆ 2-3 ครั้ง
  • เกร็งกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ เช่น คอ ไหล่ หน้าท้อง แขน และขา ด้วยวิธีการข้างต้น หากรู้สึกเจ็บปวดให้หยุดพัก

 

 

9. ฝึกหายใจตามหลัก 4-7-8

 

วิธีนอนให้หลับตามหลักการ 4-7-8 เป็นวิธีฝึกควบคุมลมหายใจที่มีแนวคิดจากโยคะ ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและทำให้หลับง่ายขึ้น มีขั้นตอนดังนี้

 

  • นอนหงายในท่าที่สบาย หลับตาลง ใช้ปลายลิ้นแตะเพดานปากบริเวณหลังฟันบนซี่หน้าค้างไว้
  • หายใจเข้าทางจมูก นับ 1-4 ในใจ
  • กลั้นหายใจและนับ โดยนับ 1-7 ในใจ
  • พ่นลมหายใจออกทางปากจนรู้สึกว่าลมออกจากปอดจนหมด พร้อมทำเสียง "ฟู่" และนับ 1-8 ในใจ
  • ทำขั้นตอนเหล่านี้ซ้ำอีก 3 ครั้ง 

 

 

10. ฝึกหายใจด้วยวิธีแบบทหาร

 

วิธีนอนให้หลับตามแบบทหารเป็นเทคนิคที่ใช้ในโรงเรียนฝึกทหารกองทัพสหรัฐอเมริกา ซึ่งช่วยให้นอนหลับได้ภายในเวลาอันสั้นแม้จะอยู่ในสงคราม ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ตึงเครียดและมีเสียงดัง ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

 

  • นอนและหลับตาลง ผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้า เริ่มจากหน้าผากไล่ลงไปยังแก้ม ปาก และลิ้นขณะที่หายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ
  • ปล่อยไหล่ลงสบายๆ ผ่อนคลายมือวางไว้ข้างลำตัว 
  • ผ่อนคลายกล้ามเนื้อไล่ลงไปทีละส่วน ตั้งแต่หน้าอก หน้าท้อง ต้นขา จนถึงเท้าทั้งสองข้าง
  • ทำสมองให้โล่ง ปล่อยวางความกังวล ตั้งสมาธิจดจ่อกับลมหายใจของตัวเอง หรือคิดถึงภาพทิวทัศน์เพื่อช่วยให้ผ่อนคลาย
  • เมื่อร่างกายและจิตใจผ่อนคลายแล้ว จะทำให้นอนหลับได้โดยไม่รู้ตัว

 

 

11. ไม่ฝืนหลับต่อหากนอนไม่หลับ

 

หากทำตามวิธีนอนให้หลับข้างต้นทั้งหมดแล้วยังนอนไม่หลับ ไม่ควรพยายามฝืนหลับต่อ และไม่ควรมองนาฬิกาบ่อยๆ เพราะจะยิ่งทำให้กังวลและนอนหลับยาก ควรลุกขึ้นนั่งและทำกิจกรรมที่ช่วยให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย เช่น อ่านหนังสือ หรือเปิดเพลงช้าฟังสบายๆ เมื่อรู้สึกง่วงค่อยเข้านอน

 

 

ข้อมูล : Pobpad

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ