ไลฟ์สไตล์

แนะสาวยุคใหม่เรียนรู้การ 'ฝากไข่' ถึงสูงวัยก็มีลูกได้

15 มี.ค. 2567

ปัจจุบันมีเทคโนโลยีมาตอบโจทย์สาวๆ ยุคใหม่ที่อยากมีลูกในเวลาที่พร้อม และลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ ด้วยการ 'ฝากไข่' ไว้ก่อน และในอนาคตเมื่อพร้อมและเวลาที่เหมาะสม ค่อยนำไข่ที่ฝากมาวางแผนมีลูกต่อไป

สาวๆ ยุคนี้แต่งงานช้า เรียกว่าทำงานก่อน เก็บเงินแล้วค่อยมีลูก จนเมื่อคิดจะมีลูก ก็อายุมากขึ้น ความเสี่ยงก็มากขึ้น ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีมาตอบโจทย์สาวๆ ยุคใหม่ที่อยากมีลูกในเวลาที่พร้อม และลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ ด้วยการฝากไข่ไว้ก่อน และในอนาคตเมื่อพร้อมและเวลาที่เหมาะสม ค่อยนำไข่ที่ฝากมาวางแผนมีลูกต่อไป

 

แล้วการ ฝากไข่ มีความจำเป็นแค่ไหน และเหมาะกับใครบ้าง? วันนี้ พญ.รุ่งทิวา กมลเดชเดชา จากศูนย์การแพทย์นวบุตร ชั้น 2 ไลฟ์เซ็นเตอร์ (อาคารคิวเฮ้าส์) ได้มาให้ข้อมูลเป็นความรู้เตรียมความพร้อมก่อนตัดสินใจจะฝากไข่

 

พญ.รุ่งทิวา กมลเดชเดชา

 

พญ.รุ่งทิวา อธิบายว่า การ ฝากไข่ คือ การนำไข่ ซึ่งเป็นเซลล์สืบพันธุ์ของผู้หญิงออกมาเก็บรักษาโดยการแช่แข็งไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม เพื่อนำมาใช้สำหรับการตั้งครรภ์ในอนาคต ทั้งนี้ไม่ได้มีข้อจำกัดของอายุที่ชัดเจน ขึ้นอยู่กับความพร้อมและปริมาณไข่ของแต่ละคน โดยอายุที่เหมาะสมในการฝากไข่คือ 28-35 ปี 

 

 

แล้วใครที่มีความจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีการ ฝากไข่ บ้าง

  • มีความต้องการมีบุตรในอนาคต หลังอายุ 35 ปี
  • มีโรคทางพันธุกรรมที่ส่งผลต่อการทำงานของรังไข่ (Tumer Syndrome, Fragile X Syndrome)
  • มีประวัติครอบครัวหมดประจำเดือนเร็ว
  • เคยได้รับการผ่าตัดรังไข่ หรือถุงน้ำรังไข่
  • มีความจำเป็นที่ต้องใช้ยาที่มีผลทำลายเซลล์ไข่ เช่น ยาเคมีบำบัด การฉายแสง

 

แนะสาวยุคใหม่เรียนรู้การ \'ฝากไข่\' ถึงสูงวัยก็มีลูกได้

ข้อดีของการ ฝากไข่ คือ เพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ในอนาคต ซึ่งเป็นเวลาที่พร้อมตั้งครรภ์ แต่รังไข่ไม่พร้อม คือเหลือไข่ปริมาณน้อย และคุณภาพไม่ดี ซึ่งปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพไข่ขึ้นกับปัจจัยต่างๆ ทั้งอายุ ความเครียด การดูแลสุขภาพ การรับประทานอาหาร การดื่มสุรา การสูบบุหรี่ การออกกำลังกาย หรือโรคต่างๆ เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่

 

 

สำหรับสาวๆ ที่ต้องการ ฝากไข่ ควรเตรียมตัวดังนี้

  1. ควรเตรียมสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และรับประทานกรดโฟลิคล่วงหน้าก่อนเก็บไข่อย่างน้อย 1 เดือน
  2. พบแพทย์เพื่อตรวจความพร้อม ตรวจเลือด และอัลตราซาวด์
  3. เริ่มกระบวนการของการกระตุ้นไข่ในวันที่ 1-3 ของรอบประจำเดือน โดยตรวจฮอร์โมน และอัลตราซาวด์นับจำนวนไข่
  4. ฉีดยากระตุ้นไข่ 8-10 วัน และตรวจอัลตราซาวด์เพื่อดูการตอบสนองของไข่
  5. นัดเก็บไข่ เมื่อไข่ได้ขนาดที่เหมาะสม

 

แนะสาวยุคใหม่เรียนรู้การ \'ฝากไข่\' ถึงสูงวัยก็มีลูกได้

 

การ ฝากไข่ สามารถแช่แข็งไว้ได้นานมากกว่า 10 ปี ปัจจุบันมีรายงานการตั้งครรภ์จากไข่ที่แช่แข็งไว้นานถึง 14 ปี แต่แนะนำให้นำไข่มาใช้ก่อนอายุ 50 ปี เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงขณะตั้งครรภ์ โดยเด็กที่เกิดจากไข่แช่แข็ง ไม่ได้มีความผิดปกติมากกว่าเด็กที่เกิดจากการตั้งครรภ์โดยธรรมชาติ

 

 

ทั้งนี้ข้อจำกัดในการ ฝากไข่ คือ

  • การกระตุ้นไข่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากภาวะที่ไข่ถูกกระตุ้นมากเกิน(Ovarian Hyperstimulation Syndrome) ซึ่งพบได้ในกรณีที่มีปริมาณไข่มีจำนวนมากกว่าปกติ
  • ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นขณะเก็บไข่ เช่น เลือดออกในช่องท้อง ท้องอืด ปวดหน่วงท้องน้อย
  • ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ค่าใช้จ่ายในการฝากไข่ประมาณ 150,000-200,000 บาท ต่อรอบ (ขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่ใช้) และค่าแช่แข็งไข่รายปี = 1,000 บาท/ใบ
  • หากการกลับมาใช้ไข่ทำเด็กหลอดแก้วในอนาคต จำเป็นต้องมีทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายด้วย

 

...หากอยากมีลูกในอนาคต เมื่อพร้อม การ ฝากไข่ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของสาวๆ ในยุคนี้ ที่สำคัญควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้การฝากไข่มีประสิทธิภาพด้วยนะคะ.....