ไลฟ์สไตล์

อย่ามองข้าม สุขภาพ 'ตับ' ช่วงปาร์ตี้ฉลอง 'ปีใหม่ 2567'

อย่ามองข้าม สุขภาพ 'ตับ' ช่วงปาร์ตี้ฉลอง 'ปีใหม่ 2567'

30 ธ.ค. 2566

ข้อมูลงานวิจัยจาก QJM เผยว่า 95 เปอร์เซ็นต์ ของคนอ้วนที่ดื่มสุรา จะมีภาวะไขมันพอก 'ตับ' และมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเป็นตับอักเสบ และตับแข็ง

เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับ ปีใหม่ 2567 นี้ เชื่อว่าหลายคนคงมีแพลนไปร่วมงานปาร์ตี้ฉลองกับเพื่อนฝูงและครอบครัว แต่การเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ตับ ได้ด้วยเช่นกัน หากเราไม่ดูแลตัวเองให้ดี รู้หรือไม่ว่า 95% ของคนอ้วนที่ดื่มสุรา จะมีภาวะไขมันพอกตับและมีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเป็นตับอักเสบและตับแข็ง (ข้อมูลงานวิจัยจาก QJM : monthly journal of the Association of Physicians, 11/23; 96(10):699-709.) อย่ามองข้าม สุขภาพ \'ตับ\' ช่วงปาร์ตี้ฉลอง \'ปีใหม่ 2567\'

อันตรายจากการดื่มแอลกอฮอล์และการนอนดึก

 

การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิด โรคตับ เนื่องจากแอลกอฮอล์จะถูกเผาผลาญใน ตับ และสร้างสารพิษที่ทำลายเซลล์ตับ นอกจากนี้การดื่มแอลกอฮอล์ยังทำให้เกิดอาการตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน และตาแดงได้

 

อย่ามองข้าม สุขภาพ \'ตับ\' ช่วงปาร์ตี้ฉลอง \'ปีใหม่ 2567\'

 

การนอนดึกก็เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพตับและตา เมื่อเราอดนอนร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียด ฮอร์โมนนี้จะไปกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำตาลกลูโคสออกมาในกระแสเลือดมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะดื้อต่ออินซูลินและโรคเบาหวานได้ นอกจากนี้การนอนดึกยังทำให้ตาแห้ง ตาพร่ามัว และเห็นภาพไม่ชัดได้

 

 

ดังนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีควรลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเลือกรับประทานสารอาหารที่มีงานวิจัยว่าช่วยดูแล ตับ อย่าง เลซิติน ซึ่งประโยชน์ของเลซิตินจากงานวิจัยนั้น มีส่วนช่วยปกป้องและบำรุงตับ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ดีต่อหลอดเลือดและหัวใจ อีกทั้งยังช่วยลดดูดซึมโคเลสเตอรอล รวมไปถึงการลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีอีกด้วย นอกจากเลซิตินแล้ว สารต้านอนุมูลอิสระที่เหมาะสมจะสามารถยับยั้งการเกิดออกซิเดชั่นของไขมันในตับ จะช่วยป้องกัน ตับอักเสบ ตับแข็ง และมะเร็งตับได้

อย่ามองข้าม สุขภาพ \'ตับ\' ช่วงปาร์ตี้ฉลอง \'ปีใหม่ 2567\'

อย่ามองข้าม สุขภาพ \'ตับ\' ช่วงปาร์ตี้ฉลอง \'ปีใหม่ 2567\'

 

ในช่วงเทศกาล ปีใหม่ 2567 นี้อย่าลืมดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเอง ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อ ตับ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ ธัญพืช ปลา เป็นต้น รวมไปถึงการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และมั่นตรวจสุขภาพเป็นประจำ