Lifestyle

'โรคลมชัก' น่ากลัวกว่าที่คิด ชักซ้ำๆ อันตราย ถึงขั้น 'สมองเสื่อม'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'โรคลมชัก' หรือที่หลายคนเรียกโรคนี้ว่า 'ลมบ้าหมู' เพราะมีอาการเกร็งชักกระตุก ชักทั้งตัว หมดสติหรือวูบล้มทันที

โรคลมชัก เป็นอาการที่เกิดจากความผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าในสมอง เช่น อาจมีจุดที่ไฟฟ้าในสมองช็อต หรือลัดวงจร อาการ ชัก มีได้หลายแบบซึ่งบางคนอาจมีอาการแค่เหมือนเหม่อ กระพริบตาไม่รับรู้โลกภายนอก ขยับเคี้ยวปากนิดหน่อย บางคนรับรู้มีสติอยู่เพียงแต่ควบคุมอาการกระตุกหรืออาการสั่นที่เกิดขึ้นไม่ได้ มีการกระตุกหรือสั่นเป็นจังหวะบางคนเดินพูดซ้ำๆ เบลอๆ หมุนไปหมุนมา หรือไม่ก็มีน้ำลายไหลอย่างรุนแรง หลายคนเรียกโรคนี้ว่า “ลมบ้าหมู” เพราะมีอาการเกร็งชักกระตุก ชักทั้งตัว หมดสติหรือวูบล้มทันที วันนี้ พญ.สุธิดา เย็นจันทร์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านสมองและระบบประสาท โรงพยาบาลรามคำแหง จะมาไขข้อข้องใจ เหตุใดถึงเป็นโรคลมชัก และหากคุณเจอคนเป็นโรคลมชักควรทำอย่างไร

 

พญ.สุธิดา เย็นจันทร์

 

 

ทำไมถึงเป็น โรคลมชัก

 

สาเหตุของอาการ ชัก นั้นมาจากหลายปัจจัย เช่น ปัญหาด้านสมอง บางคนมีโรคความพิการทางสมองมาแต่กำเนิด หรือเป็นโรคทางพันธุกรรม คนในครอบครัวเคยมีอาการชัก มีเนื้องอกในสมองหรือเคยมีเลือดออกในสมองหรือเกิดจากการติดเชื้อ เนื้อสมองอักเสบหรือเป็นฝีในเนื้อสมองก็ทำให้เกิดอาการชักได้

 

ส่วนคนที่ไม่มีความผิดปกติในเนื้อสมองโดยตรง แต่มีไฟฟ้าในสมองลัดวงจรก็เกิดอาการชักหรืออาจเกิดจากการมีตัวกระตุ้นเช่น ความเครียด อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือได้รับสารกระตุ้นบางอย่าง เช่น สารเสพติด ดื่มแอลกอฮอล์ ยาบางชนิด ก็ทำให้เกิดอาการชักได้เช่นกัน

 

ความอันตรายของ โรคลมชัก

 

สิ่งที่น่ากลัวของอาการชักคือ ผู้ป่วยจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ไม่รู้สึกตัว จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุแทรกซ้อนต่างๆ ตามมาได้ เช่น กำลังทำอะไรอยู่บนที่สูงและเกิดอาการชักก็อาจล้มหรือพลัดตก หรือ ชัก ขณะว่ายน้ำก็อาจทำให้จมน้ำหรือกำลังถือของร้อน ของแหลม ของมีคม แล้วชักก็อาจเกิดอันตรายตามมาได้

 

 

จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็น โรคลมชัก

 

แพทย์จะทำการตรวจร่างกายว่ามีสาเหตุที่เกิดจากเนื้อสมองโดยตรงหรือไม่โดยการเจาะเลือดไปตรวจ ตรวจคลื่นไฟฟ้าสมองเพื่อดูลักษณะว่ามีคลื่นที่แสดงถึงอาการชักหรือไม่ หรือในบางคนอาจต้องได้รับการวินิจฉัยด้วยการสแกนสมองด้วยเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ (CTScan) หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) และในบางคนอาจจำเป็นต้องเจาะหลังเพื่อตรวจน้ำไขสันหลังร่วมด้วย

 

\'โรคลมชัก\' น่ากลัวกว่าที่คิด ชักซ้ำๆ อันตราย ถึงขั้น \'สมองเสื่อม\'

 

โรคลมชัก รักษาอย่างไร

 

เมื่อตรวจพบสาเหตุที่ชัดเจน เช่น ในคนที่เป็นเนื้องอกในสมองเป็นฝีในสมองก็อาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด แต่ส่วนใหญ่ในการควบคุมอาการชักจะเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการดูแลตัวเอง หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความเครียดดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงสารกระตุ้น สารเสพติดต่างๆ รวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการชัก

 

** ในรายที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น โรคลมชัก ต้องได้รับยารักษา ซึ่งควรกินต่อเนื่องและปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และห้ามหยุดทานยาเองโดยเด็ดขาด

 

ชักบ่อยๆ อันตรายต่อสมอง

 

การชักแต่ละครั้งจะทำให้เกิดความเสียหายหรือการบาดเจ็บเกิดขึ้นกับเซลล์สมอง และในคนที่มีอาการชักซ้ำๆ บ่อยๆ ในระยะยาวจะเกิดผลเสียต่อสมองในเรื่องของความจำ ทำให้ความจำถดถอยช้าลง อาจทำให้พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง และในที่สุดเกิดภาวะสมองเสื่อมได้

 

 

เมื่อเจอคนเป็น โรคลมชัก ควรทำอย่างไร

 

การดูแลผู้ป่วยที่มีอาการชักที่สำคัญคือต้องเรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง หลีกเลี่ยงหรือห้ามเด็ดขาดสำหรับการใช้ของแข็งไม่ว่าจะเป็นไม้ ตะเกียบ ช้อน หรือส้อมงัดปากไม่ให้กัดลิ้น เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายบาดเจ็บที่ลิ้นหรือใบหน้าได้ อีกอย่างที่ต้องระวังคือ การสำลักหากมีเศษอาหารในปาก ให้พยายามเอาออกด้วยการจับนอนตะแคงเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยล้ม แล้วปล่อยสักพักเพราะปกติส่วนใหญ่อาการชักจะหยุดได้เองภายใน 1-2 นาที หากยังไม่ดีขึ้นให้รีบพาไปโรงพยาบาล

 

สายด่วนสุขภาพโทร.0-2743-9999 ต่อ 2999

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ