'แพ้ยารุนแรง' อย่าเพิกเฉย ปล่อยทิ้งไว้ อันตรายถึงเสียชีวิต
ภาวะ 'แพ้ยารุนแรง' มีอาการอย่างไร และหากเกิดภาวะดังกล่าวขึ้นกับตัวเองหรือคนใกล้ตัว ควรจะปฏิบัติอย่างไรเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้ทันท่วงที
การ แพ้ยา อาจเกิดได้ในผู้ป่วยทุกโรคส่วนใหญ่มักพบเฉพาะอาการทางผิวหนัง หรือมีอาการในระบบอื่นๆ ร่วมด้วย ซึ่งสามารถพบได้หลังจากรับประทานยาเพียงไม่กี่มื้อ จนถึงรับประทานยาต่อเนื่องเป็นเวลานาน ตั้งแต่ 2 สัปดาห์จนถึง 6 เดือน แต่เนื่องจากในปัจจุบันคนไทยเกิดภาวะ แพ้ยารุนแรง (steven johnson syndrome หรือ SJS) และท็อก-ซิก อีพิเดอร์มัล เนโครไลซิส (Toxic Epidermal Necrolysis หรือ TEN) จำนวนมาก และมีการใช้ยากลุ่มที่มีความเสี่ยงจะแพ้สูง ระบบประกันสุขภาพแห่งชาติจึงมีการเพิ่มสิทธิในการตรวจยีนส์หาว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้ยารุนแรงก่อนจ่ายยาบางชนิดหรือไม่
วันนี้ คมชัดลึก จะพาไปดูกันว่า ภาวะแพ้ยารุนแรง มีอาการอย่างไร และหากเกิดภาวะดังกล่าวขึ้นกับตัวเองหรือคนใกล้ตัว ควรจะปฏิบัติอย่างไรเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้ทันท่วงที
อาการที่พบในผู้ป่วยแพ้ยาทางผิวหนังรุนแรง
อาการนำ ได้แก่ เจ็บคอ มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดข้อ หลังจากนั้นผู้ป่วยจะเริ่ม มีผื่นขึ้นบริเวณลำตัวแขนขา หน้าบวม ตาบวม เจ็บผิว เจ็บตามตัว มีอาการเจ็บเคืองตา เจ็บปาก กลืนเจ็บ ปัสสาวะแสบขัด ผื่นอาจมีลักษณะพองเป็นตุ่มน้ำหรือเกิดการหลุดลอกของผิวหนัง และมีการหลุดลอกของเยื่อบุต่างๆ ร่วมด้วย ผู้ป่วยที่มีอาการแพ้ยารุนแรงอาจมีอาการแทรกซ้อนของอวัยวะภายใน เช่น มีแผลในทางเดินอาหาร ตับอักเสบ และอาจทำให้เสียชีวิตได้
ยาที่มักทำให้เกิดการแพ้ทางผิวหนังอย่างรุนแรงในประเทศไทย ได้แก่
- ยารักษาโรคเกาต์ เช่น allopurinol
- ยากันชัก เช่น carbamazepine, phenobarbital, phenytoin และlamotrigine
- ยาแก้ปวด/ต้านการอักเสบกลุ่ม NSAIDs เช่น ibuprofen, meloxicam, piroxicam และ tenoxicam
- ยาต้านไวรัส HIV เช่น nevirapine, abacavir
- ยากลุ่มซัลฟา เช่น co-trimoxazole, sulfasalazine
- ยากลุ่มเพนนิซิลิน เช่น amoxicillin
- ยารักษาวัณโรค เช่น rifampicin, isoniazid pyrazinamide, ethambutol
- Dapsone
ข้อควรปฏิบัติหากเกิดอาการแพ้ยา
- หากได้รับยาใดๆ และเริ่มมีอาการเจ็บคอ มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียนปวดข้อหรือ มีผื่นผิวหนัง ผิดปกติ
- ให้หยุดยาทันที
- ถ่ายรูปผื่นในระยะแรก
- นำยาที่ใช้ทั้งหมดพร้อมฉลากและชื่อยามาพบแพทย์และเภสัชกร
หากท่านมีประวัติแพ้ยา
- จดจำชื่อยา และอาการที่ท่านแพ้ยา
- พกบัตรแพ้ยาติดตัว และยื่นแสดงบัตรหรือ
- แจ้งชื่อยาที่แพ้แก่แพทย์และเภสัชกรทุกครั้ง
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือกลุ่มยาที่เคยแพ้
การ แพ้ยา ไม่ได้เกิดกับผู้ป่วยทุกราย และไม่สามารถทราบได้ว่าใครจะแพ้ยาอะไรแต่สามารถสังเกตอาการนำได้ก่อนที่จะ แพ้ยารุนแรง ปัจจุบันการตรวจทางเภสัชพันธุศาสตร์ สามารถตรวจยีนเพื่อทำนายความเสี่ยงต่อการเกิดผื่นแพ้ยารุนแรงทางผิวหนังได้ ทั้งนี้ยังไม่สามารถตรวจได้กับยาทุกชนิด จึงขึ้นกับการพิจารณาของแพทย์ และเภสัชกร
ข้อมูล : คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลฝ่ายเภสัชกรรม