
แพทย์เตือน สาวใส่ส้นสูง เสี่ยง "ภาวะนิ้วหัวแม่เท้าเอียง"
โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ เตือน ผู้หญิงที่ใส่รองเท้าส้นสูง ปลายรองเท้าแคบ เสี่ยงเกิดภาวะนิ้วหัวแม่เท้าเอียง เกิดปุ่มกลมนูน และมีอาการปวด อาจถึงขั้นต้องผ่าตัด
โรงพยาบาลเลิดสิน กรมการแพทย์ เตือน ภาวะนิ้วหัวแม่เท้าเอียง คือ ภาวะนิ้วหัวแม่เท้าเอียงชิดเข้าหานิ้วชี้ กระดูกหัวแม่เท้าด้านในจึงปูดบวมขึ้น ต่อมาข้อนิ้วหัวแม่เท้าจะมีปุ่มลักษณะกลมนูนออกมา ทางด้านข้างหัวแม่เท้า ซึ่งปุ่มที่นูนออกมานี้จะทำให้มีอาการปวด ใส่รองเท้าลำบาก มักจะเกิดขึ้นโดยเฉพาะในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะผู้หญิงที่ใส่ รองเท้าส้นสูง และพบมากเมื่ออายุมากขึ้น ส่วนมากจะพบที่เท้าทั้ง 2 ข้างมากกว่าพบที่เท้าข้างเดียว
นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีรายงานข่าวในสื่อออนไลน์ พบว่ามีภาวะนิ้วหัวแม่เท้าเอียง คือสภาวะหัวแม่เท้าผิดรูปที่เกิดจากกระดูกปูดออกมาจากบริเวณข้อต่อของโคนนิ้วหัวแม่เท้า เนื่องจากนิ้วหัวแม่เท้าถูกเบียดให้เอนไปชิดกับนิ้วชี้ทำให้ข้อต่อบริเวณโคนนิ้วหัวแม่เท้ายื่นออกมา โดยบริเวณที่มีอาการอาจมีลักษณะบวมแดงและทำให้รู้สึกเจ็บปวดทางด้านข้างหัวแม่เท้า ใส่รองเท้าลำบาก มักจะเกิดขึ้นจากการใส่รองเท้าส้นสูง ปลายรองเท้าแคบ บางท่านอาจเคยสังเกตเห็นความผิดปกติบริเวณเท้า และบางครั้งอาจมีสีแดงระเรื่อบริเวณกระดูกที่ปูดนูนขึ้นมาอีกด้วย
นายแพทย์อดิศักดิ์ งามขจรวิวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลิดสิน กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยกระตุ้นการเกิด ภาวะนิ้วหัวแม่เท้าเอียง เกิดจากการสวมใส่รองเท้าที่ไม่เหมาะสมเป็นประจำ เช่น รองเท้าส้นสูง รองเท้าหัวแหลม รองเท้าที่คับแน่นจนเกินไป การรักษามีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การรักษาเบื้องต้น ตั้งแต่พบอาการเริ่มแรก ไปจนถึงการผ่าตัดในผู้ที่มีอาการรุนแรง
นายแพทย์พิสิฏฐ์ บุญมา ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เฉพาะทางข้อเท้าและเท้า แนะนำว่า เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิด ภาวะนิ้วหัวแม่เท้าเอียง เบื้องต้นควรเลือกใส่รองเท้าที่เหมาะสม ขนาดพอดีกับเท้า ไม่คับ หัวรองเท้ากว้าง เมื่อสวมใส่แล้วสามารถขยับนิ้วเท้าได้ไม่บีบรัดนิ้วเท้า พื้นรองเท้านุ่ม ควรหลีกเลี่ยงรองเท้าที่มีหัวส่วนปลายที่แหลมและ รองเท้าส้นสูง มากกว่า 2 นิ้ว การรักษาด้วยการผ่าตัดขึ้นกับความรุนแรงของโรค มีทั้งการผ่าตัดแต่งกระดูก การผ่าตัดเชื่อมกระดูกเท้า มักแนะนำในผู้ที่มีนิ้วหัวแม่เท้าผิดรูปอย่างรุนแรง โดยหลังการผ่าตัดการเคลื่อนไหวของนิ้วหัวแม่เท้าจะทำได้น้อยลง และไม่สามารถใส่รองเท้าส้นสูงได้