Lifestyle

รู้หรือไม่ ปวดหัว "ไมเกรน" บ่อย ร่างกายอาจขาด "แมกนีเซียม"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 ปวดหัว "ไมเกรน" อาจจะเรียกได้ว่าเป็นโรคยอดฮิตของคนในวัยทำงานทั่วโลก อาการนี้อาจเกิดจากร่างกายขาด "แมกนีเซียม" และการบริโภคแมกนีเซียมช่วยป้องกันอาการปวดหัวได้

 ปวดหัว "ไมเกรน" อาจจะเรียกได้ว่าเป็นโรคยอดฮิตของคนในวัยทำงานทั่วโลก ถึงขนาดที่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ให้ความสำคัญของโรคนี้ ถึงขนาดที่ให้ถือเป็นโรคที่ทำให้เกิดความทุพพลภาพ เป็นอันดับต้นๆ ของคนทั่วโลก

 

อาการปวดหัว "ไมเกรน"  ก็คือ อาการปวดหัวเรื้อรังประเภทหนี่งที่มีลักษณะเฉพาะตัวคือ เป็นอาการปวดหัวเพียงข้างเดียว ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง ส่งผลให้เกิดอาการปวดบริเวณขมับ กระบอกตา และท้ายทอย บางคนที่เริ่มปวดข้างเดียวแล้วลามไปปวดทั้งศีรษะ ลักษณะอาการปวดจะปวดตุ๊บๆ เป็นระยะ โดยส่วนใหญ่ระดับการปวดจะปวดขั้นปานกลางไปจนถึงขั้นรุนแรง

 

เมื่อเกิดอาการ ความปวดจะค่อยๆ ทวีความรุนแรงจากปวดระดับกลางๆ จนกลายเป็นปวดมาก และจะเริ่มบรรเทาเมื่ออาการผ่านไป โดยในการปวดแต่ละครั้งจะกินเวลานานหลายชั่วโมง ส่วนใหญ่หากได้นอนพักผ่อนเป็นเวลานานก็จะหาย แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่อาการปวดกินเวลานาน 1-2 วัน และก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ในในขณะปวดไมเกรนก็สามารถมีอาการไข้ ตาแดง คลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย

สาเหตุของอาการปวดหัว "ไมเกรน" 

 ถึงแม้ว่าไมเกรนจะเป็นอาการปวดหัวที่มีสถิติว่าคนทั่วโลกเป็นมากที่สุดประเภทหนึ่ง แต่เชื่อหรือไม่... อาการปวดหัวชนิดนี้ยังเป็นที่ถกเถียงและหาข้อสรุปถึงสาเหตุที่ชัดเจนยังไม่แน่ชัด บางทฤษฎีก็เชื่อกันว่าเกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง หรือการทำงานที่ไม่ปกติของหลอดเลือดภายในสมองทำให้เกิดการหดเกร็ง นอกจากนี้ยังมีทฤษฎีที่เชื่อว่าอาจจะเกิดจากกรรมพันธุ์ รวมถึงปัจจัยแวดล้อมทั้งภายใน และภายนอกร่างกายมากระตุ้นสมองให้เกิดอาการปวดหัวได้

 

ทั้งนี้อาการปวดหัว "ไมเกรน" อาจเกิดจากร่างกายขาด "แมกนีเซียม" และการบริโภคแมกนีเซียมช่วยป้องกันอาการปวดหัวได้ มีการศึกษาเรื่องอาการปวดหัวไมเกรนและแมกนีเซียม พบว่าผู้ป่วยไมเกรนมักมีปริมาณของแมกนีเซียมในร่างกายต่ำกว่าคนทั่วไป การกินอาหารที่มีแมกนีเซียมสูง หรือกินยาแมกนีเซียม เชื่อว่าลดอาการปวดหัวไมเกรนได้

ทำไมแร่ธาตุ "แมกนีเซียม"  ถึงช่วยอาการปวดหัว "ไมเกรน" ได้ ?

อาการปวดหัว "ไมเกรน" เกิดจากการขยายและหดของหลอดเลือดที่กะโหลกศีรษะซึ่งแร่ธาตุ "แมกนีเซียม" มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องบรรเทาอาการหดเกร็งกล้ามเนื้อของหลอดเลือดเมื่อร่างกายได้รับแมกนีเซียมเพียงพอในแต่ละวัน จึงสามารถเป็นตัวช่วยในการป้องกัน และบรรเทาความรุนแรง รวมทั้งลดความถี่ของการเกิดไมเกรนได้

 

จริงๆ แล้วการนำเอาแร่ธาตุ "แมกนีเซียม"  มาใช้ป้องกันอาการปวดหัวไมเกรนมีมาตั้งแต่อดีต แต่ในปัจจุบันแพทย์ทั่วโลกมากมายหันมาให้ความสนใจกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เนื่องจากมีประสิทธิภาพและเห็นผลจริง  นอกจากนี้ยังเป็นการลดปริมาณการรับประทานยาไมเกรน

 

โดยไม่จำเป็น เพราะการใช้ยารักษาในคนที่ปวดหัวไมเกรน จะเกิดอาการข้างเคียง เช่น  ยากลุ่ม ergotamine ทำให้เกิดการหดรัดตัวของหลอดเลือด อาจทำให้เกิดเนื้อตายจากภาวะที่เลือดไม่สามารถไปเลี้ยงอวัยวะส่วนปลายได้  หรือยาในกลุ่ม Tryptan ที่มีผลข้างเคียงทำให้เวียนหัว ปวดท้อง อ่อนเพลีย ง่วงซึม คลื่นไส้  รู้สึกเจ็บหรือแน่นที่หน้าอกหรือลำคอ ปากแห้ง ปวดท้อง รู้สึกเหนื่อย และหน้าแดง เป็นต้น 

 

นอกจากนี้ยากลุ่มป้องกันไมเกรนบางตัว เช่น กลุ่มยากันชัก หรือยาขยายหลอดเลือด ก็ทำให้ ง่วงซึม เหนื่อยล้า ปวดหัว เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่า เห็นภาพซ้อน เป็นต้น ดังนั้นจึงทำให้แมกนีเซียม (Magnesium) ในรูปแบบอาหารเสริมมีความปลอดภัยมากกว่าและสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่อง

 

มีผลวิจัยการใช้แร่ธาตุแมกนีเซียม เพื่อรักษาอาการปวดหัวไมเกรน ถูกเผยแพร่ไว้ในวารสารทางการแพทย์ The Journal of Headache and Pain เมื่อ ปี 2015 หลังจากมีการทดลองโดยแบ่งผู้ป่วยปวดหัวไมเกรนจำนวน 130 คน ซึ่งมีความถี่ในการปวดมากกว่าเดือนละ 3 ครั้ง ออกเป็น 2 กลุ่ม

 

โดยกลุ่มแรกใช้แร่ธาตุแมกนีเซียมในรูปแบบของอาหารเสริม (ร่วมกัน Co Q10 และ Riboflavin) เปรียบเทียบกับอีกกลุ่มที่ให้อาหารเสริมแบบหลอกๆ (ไม่มีแร่ธาตุใดๆ) นำมาทดลองเป็นเวลา 3 เดือน และติดตามผลอีก 4 สัปดาห์ ผลปรากฎว่ากลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับแมกนีเซียมในรูปแบบอาหารเสริมมีความถี่และระดับการปวดลดลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับกลุ่มอาหารเสริมหลอก

 

 อีกทั้งยังมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพของแมกนีเซียมในการป้องกันไมเกรนที่ไม่มีอาการออร่า โดยแบ่งผู้ป่วยปวดหัวไมเกรนจำนวน 30 คน ช่วงอายุ 20-55 ปี ที่มีความถี่ในการปวดอยู่ที่ 2-5 ครั้ง/เดือน ออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกรับประทาน แมกนีเซียม (Magnesium) วันละ 600 มิลสิกรัม เป็นเวลา 3 เดือน และอีกกลุ่มรับประทานยาหลอก ผลพบว่ากลุ่มที่รับประทานแมกนีเซียมสามารถลดความถี่และความรุนแรงของไมเกรนได้อย่างมีนัยสำคัญ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ