ไลฟ์สไตล์

"กาแฟดำ"คอ กาแฟ ต้องรู้  มีประโยชน์อย่างไรกับร่างกาย กินเท่าไหร่ถึงจะดี

"กาแฟดำ"คอ กาแฟ ต้องรู้ มีประโยชน์อย่างไรกับร่างกาย กินเท่าไหร่ถึงจะดี

27 ก.ย. 2565

เรื่องนี้ คอ "กาแฟ" ต้องรู้ "กาแฟดำ" มีประโยชน์อย่างไรกับร่างกายบ้าง ในแต่ละวันดื่มได้เท่าไหร่ ถึงจะไม่เป็นโทษต่อสุขภาพ และผู้ใดที่ไม่สมควรดื่ม

"กาแฟดำ" (Black Coffee) หรือที่หลายคนเรียกว่า อเมริกาโน่ (Americano) เป็นเครื่องดื่มที่ผสม กาแฟ และน้ำเปล่า เพื่อเจือจางความเข้มและช่วยให้ดื่มได้ง่ายขึ้น ประโยชน์ของ "กาแฟดำ" ไม่เพียงช่วยกระตุ้นให้รู้สึกสดชื่นในตอนเช้า แต่ยังช่วยเสริมสุขภาพในด้านอื่นด้วย โดยทั่วไปแล้ว "กาแฟดำ" มีแคลอรีต่ำกว่า กาแฟ นมที่คนไทยคุ้นเคย แต่ด้วยกลิ่นและความเข้มข้นที่มากกว่า บางคนก็อาจพบอาการบางอย่างหลังดื่ม "กาแฟดำ" ได้เช่นกัน

 

ประโยชน์ของ "กาแฟดำ" ที่ไม่ได้มอบเพียงแค่ความสดชื่นเท่านั้น แต่ยังมอบประโยชน์ดีๆ ดังต่อไปนี้

 

1. "กาแฟดำ" แคลอรี่น้อยและดีต่อการ ลดน้ำหนัก

หากคุณกำลังลดน้ำหนักและควบคุมแคลอรี กาแฟดำอาจเป็นเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์ เพราะกาแฟดำมีส่วนผสมเพียงสองอย่าง ได้แก่ กาแฟ และน้ำ จึงให้พลังงานค่อนข้างต่ำ โดยกาแฟดำในปริมาณ 240 มิลลิลิตรอาจให้พลังงานแค่ 2 กิโลแคลอรีเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มอื่นๆ รวมถึง กาแฟ นมด้วย

 

ถ้าหากเติม นม หรือ น้ำตาล ลงไป ปริมาณพลังงานที่ได้รับก็จะเพิ่มสูงขึ้น คนไทยจำนวนไม่น้อยนิยมดื่มกาแฟเย็นที่เติมนมข้นหวาน นมข้นจืด และน้ำเชื่อมกลิ่นต่างๆ จึงทำให้ได้รับพลังงานมากกว่าการดื่มกาแฟดำ บางคนยังชอบดื่ม กาแฟ ปั่น ซึ่งจะต้องใส่ส่วนประกอบข้างต้นเพื่อรักษารสชาติ ทำให้ได้รับน้ำตาล ไขมัน และพลังงานเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เมื่อดื่มเป็นประจำก็อาจทำให้น้ำหนักขึ้นและเพิ่มความเสี่ยงของโรคบางชนิดได้

 

นอกจากนี้ คาเฟอีน ใน "กาแฟดำ" จะช่วยเร่งการทำงานของระบบเผาผลาญ ซึ่งเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงานส่วนเกินและนำไขมันสะสมไปใช้มากขึ้นเมื่อออกกำลังกาย ด้วยเหตุนี้ "กาแฟดำ" จึงมีประโยชน์สำหรับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ นักกีฬา และคนที่อยู่ระหว่างลดเปอร์เซ็นต์ไขมัน

 

2. "กาแฟดำ" ให้สารต้านอนุมูลอิสระที่มากกว่า

 

คนที่ไม่ดื่มกาแฟอาจมองว่า กาแฟ นั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ แต่ในทางกลับกัน หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ว่ากาแฟมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ค่อนข้างสูง ซึ่งสารชนิดนี้มีสรรพคุณชะลอการเสื่อมของเซลล์ ต้านการอักเสบ และอาจลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังบางชนิดได้

 

กาแฟ

 

การดื่ม "กาแฟดำ" ช่วยให้ร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าการดื่มกาแฟนม เพราะงานศึกษาชิ้นหนึ่งได้ทดลองเติมนมลงในชาที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ โพลีฟีนอล (Polyphenols) และพบว่าการดื่มชาที่มีส่วนผสมของนมลดการดูดซึมสารต้านอนุมูลอิสระโพลีฟีนอล จึงทำให้ร่างกายไม่ได้รับประโยชน์จากสารต้านอนุมูลอิสระอย่างเต็มที่

 

กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่มี คาเฟอีน และ สารต้านอนุมูลอิสระ คล้ายกับชา ดังนั้นการดื่ม กาแฟ ที่มีนมเป็นส่วนประกอบจึงอาจลดการดูดซึมสารต้านอนุมูลอิสระได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม สารต้านอนุมูลอิสระ ในชาและ กาแฟ เป็นคนละชนิดกัน จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพการดูดซึม "สารต้านอนุมูลอิสระ" ในกาแฟโดยตรงเพื่อยืนยันถึงข้อดังกล่าว

 

3. คาแฟอีน ใน "กาแฟดำ" ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกาย

 

หากคุณออกกำลังกายเป็นประจำ "กาแฟดำ" จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกายของคุณในแต่ละวัน ผลจากการทดลองที่แบ่งคนออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ คนดื่มเครื่องที่ไม่มี คาเฟอีน คนดื่มกาแฟดีแคฟหรือกาแฟคาเฟอีนต่ำ คนดื่ม กาแฟ แบบปกติ และคนดื่มเครื่องดื่มชนิดอื่นที่มี คาเฟอีน เพื่อวัดประสิทธิภาพการออกกำลังกาย ผลการทดลองชี้ว่ากลุ่มคนที่ดื่มกาแฟแบบปกติและคนที่ดื่มเครื่องดื่มชนิดอื่นที่มีคาเฟอีนมีประสิทธิภาพความทนทานในการออกกำลังกายสูงกว่าคนอีกสองกลุ่มที่เหลือ

กาแฟดำ

 

4. ช่วยเสริมสุขภาพในหลายด้าน

นอกจากความโดนเด่นเรื่องกลิ่นหอม รสชาติ และสรรพคุณในการกระตุ้นร่างกายให้สดชื่น ตื่นตัว และเผาผลาญได้ดีขึ้นแล้ว "กาแฟดำ" และ คาเฟอีน ยังส่งผลดีต่อระบบการทำงานของร่างกายและสุขภาพในด้านอื่น เช่น

 

ช่วยควบคุมระดับ น้ำตาล ในร่างกายให้เหมาะสม จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงของ โรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 ได้รักษาและยืดอายุการทำงานของระบบประสาท จึงอาจลดความเสี่ยงของโรคสมองและระบบประสาท อย่าง โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน และโรคสมองเสื่อมชนิดอื่นๆ

 

อย่างไรก็ตามควรดื่ม "กาแฟดำ" ในปริมาณที่เหมาะสมและรอผลการศึกษาเกี่ยวกับกาแฟดำในแง่มุมอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อยืนยันถึงประโยชน์ที่มีต่อสุขภาพและความปลอดภัยในการดื่ม

 

ความเสี่ยงจากการ "กาแฟดำ"

 

แม้ว่า "กาแฟดำ" จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายคนอาจเคยพบอาการผิดปกติหลังดื่มหรือได้กลิ่นกาแฟ รวมถึงคนที่ดื่ม กาแฟ มากเกินไปด้วย โดยอาจพบอาการปวดหัว เวียนหัว ใจสั่น คลื่นไส้ และอาเจียนได้ ซึ่งคนที่ไวต่อกลิ่นและไวต่อคาเฟอีนในกาแฟอาจเสี่ยงต่อผลข้างเคียงมากกว่าคนทั่วไป และอย่างที่ทราบกันดีว่า กาแฟทำให้ร่างกายตื่นตัว การดื่ม กาแฟ ในช่วงบ่ายหรือช่วงเย็นจึงอาจส่งผลให้นอนไม่หลับหรือนอนหลับไม่สนิทได้ โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาด้านการนอนหลับอยู่แล้ว

 

เพื่อสุขภาพที่ดีและป้องกันผลข้างเคียงจากการดื่ม "กาแฟดำ" ควรดื่ม กาแฟ ไม่เกิน 4 แก้วต่อวัน หรือ 945 มิลลิลิตร เพราะร่างกายคนเราไม่ควรได้รับ คาเฟอีน เกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะอาจส่งผลเสียได้ หากคุณชื่นชอบการดื่ม กาแฟ แต่เมื่อดื่มแล้วมักพบผลข้างเคียงอาจลองดื่มกาแฟดีแคฟที่มี คาเฟอีน ต่ำก็อาจช่วยบรรเทาและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงได้ อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชิ้นไหนสามารถยืนยันได้แน่ชัดว่ากาแฟดำดีต่อสุขภาพ หรือมีประโยชน์กว่ากาแฟหรือเครื่องดื่มชนิดอื่น

 

สำหรับใครที่มีภาวะสุขภาพ อย่าง โรคหัวใจ ภาวะความดันโลหิต โรคระบบทางเดินอาหาร ภาวะซึมเศร้า โรคความผิดปกติทางอารมณ์อื่นๆ รวมถึงคนท้องและคนที่อยู่ระหว่างการใช้ยาบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่ม กาแฟ และเครื่องดื่มที่มี คาเฟอีน ทุกชนิด

 

กาแฟดำ

 

ที่มา : Pobpad

 

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
Facebook : https://www.facebook.com/komchadluek/
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w

 

เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8 สาขา Popular Vote ได้ที่นี่

 

(https://awards.komchadluek.net/#)