Lifestyle

โรค "ท้องผูก" ไม่ใช่แค่ไม่ถ่าย แต่เป็นสัญญาณอันตรายนำไปสู่โรคร้ายของลำไส้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โรค "ท้องผูก" ไม่ใช่แค่ระบบขับถ่ายไม่ดี แต่หาก ท้องผูกเรื้อรัง อาจจะเป็นสัญญาณบอกอันตรายนำไปสู่โรคร้ายเกี่ยวกับลำใส้ เช็คพฤติกรรมและสาเหตุทำ ท้องผูก แบบไม่รู้ตัว

เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนคงต้องเคยเจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินอาหารอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นโรคยอดฮิตของคนวัยทำงานอย่าง กรดไหลย้อน โรคกระเพาะอาหาร และรวมไปถึงอาการท้องอืด แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย แต่ยังมีอีกโรคหนึ่ง ที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ โรคที่ว่านี้ก็คือโรค "ท้องผูก" นั่นเอง เพราะหลายครั้งอาการ "ท้องผูก" อาจนำไปสู่โรคอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายได้ และหากปล่อยให้ อาการท้องผูก อยู่กับเราไปนาน ๆ จนถึงขั้น ท้องผูกเรื้อรัง ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องอาศัยการรักษาที่ซับซ้อนกันเลยทีเดียว
 

นพ. กุลเทพ รัตนโกวิท แพทย์ผู้ชำนาญการโรคระบบทางเดินอาหาร ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ โรงพยาบาลวิมุต ชวนทุกคนมาทำความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับโรค "ท้องผูก" (Constipation) ที่อาการเป็นได้มากกว่าการไม่ขับถ่าย โดยสามารถพบในคนอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นภายใต้ปัจจัยหลากหลาย 

 

"ท้องผูก"  ไม่ใช่แค่ถ่ายไม่ออก
หลายคนยังเข้าใจผิด นึกว่าอาการท้องผูก ต้องเท่ากับถ่ายไม่ออกหรือถ่ายน้อยครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว อาการของโรคท้องผูก ยังมีอะไรมากกว่าแค่การไม่ถ่าย เช่น ถ่ายไม่สุด ทำให้ต้องเข้าห้องน้ำหลายครั้งในหนึ่งวัน ถ่ายออกยาก ต้องนั่งนานหรือเบ่งเยอะ หรือถ่ายแล้วรู้สึกเจ็บ เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้ล้วนเข้าข่ายโรคท้องผูกทั้งสิ้น นพ. กุลเทพ อธิบาย “บางคนบอกว่า ต้องขับถ่ายทุกวันสิถึงจะดี แต่ที่จริงแล้ว การมีระบบขับถ่ายที่ดี หมายความว่าคุณถ่ายออกทั้งหมดได้แบบสบาย ๆ ไม่ต้องเบ่ง แม้จะถ่ายเพียงสัปดาห์ละ 5 ครั้งก็ถือว่าไม่ผิดปกติ

โรคท้องผูก

สาเหตุและพฤติกรรมเสี่ยง "ท้องผูก" ที่หลายคนคาดไม่ถึง
ท้องผูกเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน แน่นอนว่าการรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย การกลั้นอุจจาระ หรือไลฟ์สไตล์ที่ไม่แอ็กทีฟขาดการออกกำลังกาย เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้เราท้องผูก แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยทราบว่า บางครั้งอาการท้องผูกอาจเกิดจากความผิดปกติของส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย ได้แก่ 1) การรับรู้ความรู้สึกของลำไส้ส่วนปลายผิดปกติ ซึ่งทำให้เราไม่ปวดถ่ายเมื่อถึงเวลาที่ต้องถ่าย 2) กล้ามเนื้อที่ใช้ในการขับถ่ายทำงานไม่สัมพันธ์กัน หมายถึงกล้ามเนื้อหูรูดไม่คลายเมื่อเบ่งอุจจาระและอาจพบร่วมกับกล้ามเนื้อที่ใช้ในการเบ่งทำงานไม่สมบูรณ์ จึงทำให้ถ่ายไม่ออก และ 3) ลำไส้ใหญ่เคลื่อนตัวช้า ทำให้อุจจาระออกมาได้ไม่หมด” นพ. กุลเทพ เล่าถึงสาเหตุที่หลากหลายของท้องผูก พร้อมย้ำว่าเมื่อใดก็ตามที่ร่างกายเริ่มมีการขับถ่ายที่ผิดปกติไปจากเดิม เราต้องสังเกตอาการและรีบหาสาเหตุ

โรคท้องผูก

"ท้องผูก" ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ รีบพบแพทย์ก่อนโรคอื่นถามหา
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารูปแบบการใช้ชีวิตที่เร่งรีบของคนในปัจจุบัน ทำให้บางครั้งเราต้องอั้นหรือขับถ่ายไม่เป็นเวลา จนหลาย ๆ คนเผลอมองว่าเป็นเรื่องปกติไม่น่ากังวล “เมื่อใดก็ตามที่พฤติกรรมการขับถ่ายเราเปลี่ยนไป แสดงว่าร่างกายกำลังบอกอะไรเราอยู่ บางคนมีปัญหาเรื่องการขับถ่ายมานานเกิน 3 เดือนหรือที่เราเรียกว่าท้องผูกเรื้อรังแล้วเพิ่งมาพบแพทย์ ก็อาจทำให้รักษาได้ยากขึ้นได้” นพ. กุลเทพ เตือนว่าหากอาการท้องผูกไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์เพราะอาการท้องผูกอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ เช่น ริดสีดวง ลำไส้เป็นแผล นอกจากนี้ท้องผูกยังอาจเป็นสัญญาณของโรคอื่น ๆ ได้เหมือนกัน เช่น มะเร็งลำไส้ ภาวะลำไส้อุดตัน ซึ่งยิ่งเจอเร็วก็ยิ่งมีโอกาสหาย “จริง ๆ แล้วแนะนำว่าหากท้องผูกติดกันหลายวันควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ ยิ่งถ้ามีอาการปวดท้องรุนแรง หรืออุจจาระมีเลือดปน ต้องมาพบแพทย์ทันทีเพื่อรักษาให้ทันท่วงที”

 

ยาระบาย จึงเป็นเพียงการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
ยาระบายออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของลำไส้และทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มขึ้น ซึ่งทำให้เราขับถ่ายได้เป็นครั้ง ๆ ไปเท่านั้น ซึ่งการรักษาที่ปลายเหตุ และไม่ใช่วิธีรักษาในระยะยาว เนื่องจากท้องผูกเกินจากหลายสาเหตุซึ่งอาศัยวิธีรักษาที่แตกต่างกัน คือ 1) เกิดจากการที่ลำไส้ไม่ตอบสนองต่ออุจจาระที่ลงมา ทำให้ไม่รู้สึกปวดอุจจาระ เราก็ต้องใช้วิธีฝึกลำไส้ให้ความรู้สึกกลับมา 2) กล้ามเนื้อขับถ่ายทำงานผิดปกติ ในกรณีนี้ต้องใช้เครื่องมืออย่าง Anorectal Manometry เข้ามาช่วยวิเคราะห์การทำงานของกล้ามเนื้อโดยละเอียด ซึ่งมักช่วยรักษาอาการท้องผูกเรื้อรังให้หายขายได้เมื่อทำควบคู่ไปกับการปรับพฤติกรรมและฝึกขับถ่ายด้วยท่าที่ถูกต้อง (Biofeedback training) และ 3) ลำไส้เคลื่อนตัวช้า จะใช้วิธีวินิจฉัยที่เรียกว่า Colonic Transit Test ผ่านการรับประทานยาแคปซูลที่มีแถบทึบแสงขนาดเล็ก (Radiopaque Makers) ที่จะบอกการเคลื่อนไหวของลำไส้ว่าสามารถจำกัดของเสียได้เร็วหรือช้าเพียงใด โดยการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีล้ำสมัยเหล่านี้เป็นวิธีรักษาโรคท้องผูกให้หายขาดอย่างตรงจุด
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ