กางแผนที่! "ปราสาทตาเมือนธม" เป็นของไทย 100% กัมพูชาเคลมไม่ได้! | คมชัดลึก

 

จากกรณีที่ คลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและทหารขึ้นไปบนปราสาทตาเมือนธมและร้องเพลงปลุกใจ ได้จุดประกายความกังวลใจให้กับคนไทยจำนวนมาก โดยเฉพาะประเด็นเรื่องพื้นที่ทับซ้อนและอธิปไตยเหนือปราสาทแห่งนี้ ซึ่งทำให้หลายคนหวนนึกถึงกรณีพิพาทปราสาทพระวิหารในอดีต  หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทางการไทยได้ส่งจดหมายประท้วงไปยังกัมพูชา เพื่อแสดงจุดยืนและปกป้องอธิปไตยของไทย แก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี

 

 

 

ทำไมสังคมถึงยังกังวล?

ความกังวลของสังคมไทยไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจยาก เพราะประสบการณ์จากกรณีปราสาทพระวิหารที่เคยเป็นข้อพิพาทอันยาวนาน ทำให้คนไทยจำนวนมากเรียนรู้ที่จะระมัดระวังและติดตามสถานการณ์บริเวณแนวชายแดนอย่างใกล้ชิด [7] การที่ปราสาทตาเมือนธมตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เคยมีประเด็นความละเอียดอ่อน ยิ่งทำให้ทุกความเคลื่อนไหวถูกจับตามองเป็นพิเศษ ประเด็นเรื่องการตีความแผนที่และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของทั้งสองฝ่าย ก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจในหมู่ประชาชน

 

 

กางแผนที่! "ปราสาทตาเมือนธม" เป็นของไทย 100% กัมพูชาไม่มีสิทธิ์เคลม?

ท่ามกลางประเด็นร้อนที่หลายคนยังคงจับตา กรณีปราสาทตาเมือนธม ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ได้กลายเป็นที่ถกเถียงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะหลังจากที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่สร้างความไม่สบายใจให้กับคนไทยจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทยแล้ว ข้อมูลและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตลอดจนสนธิสัญญาที่เกี่ยวข้อง ล้วนยืนยันชัดเจนว่า ปราสาทตาเมือนธมตั้งอยู่ในอาณาเขตอธิปไตยของประเทศไทย 100% โดยที่กัมพูชาไม่มีสิทธิ์เรียกร้องกรรมสิทธิ์ใด ๆ เหนือพื้นที่นี้

 

 

 

 

หลักฐานยืนยัน "ตาเมือนธม" เป็นของไทยไร้ข้อโต้แย้ง

ตามข้อมูลของกรมศิลปากรและผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์และกฎหมายระหว่างประเทศ ระบุชัดเจนว่า ปราสาทตาเมือนธม ตั้งอยู่ในเขตอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยสถานะของปราสาทแห่งนี้ถูกกำหนดอย่างชัดเจนตาม แผนที่แนบท้ายอนุสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ. 1907 (พ.ศ. 2450) ซึ่งเป็นสนธิสัญญาที่ใช้ปักปันเขตแดนระหว่างสยาม (ไทยในขณะนั้น) กับอินโดจีนของฝรั่งเศส (ซึ่งรวมถึงกัมพูชาในปัจจุบัน)   ในแผนที่ดังกล่าว เส้นเขตแดนได้ถูกกำหนดให้ลากผ่านสันปันน้ำของเทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งเป็นไปตามหลักสากลของการปักปันเขตแดนในพื้นที่ภูเขา และปราสาทตาเมือนธมนั้นตั้งอยู่ฝั่งประเทศไทย โดยอยู่ห่างจากเส้นเขตแดนที่ลากตามสันปันน้ำอย่างชัดเจน  

 

 

 

 

ความแตกต่างจากกรณี "เขาพระวิหาร" ที่เคยเป็นบทเรียนสำคัญ

เป็นที่น่าสังเกตว่า สถานะของปราสาทตาเมือนธมมีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับกรณีปราสาทพระวิหาร ซึ่งศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ได้ตัดสินให้กัมพูชามีอธิปไตยเหนือตัวปราสาท สาเหตุหลักมาจากในกรณีเขาพระวิหาร ศาลได้พิจารณาจากแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่ฝ่ายฝรั่งเศสจัดทำขึ้น และไทยไม่ได้ทักท้วงอย่างเป็นทางการในขณะนั้น 

แต่สำหรับปราสาทตาเมือนธมนั้น สถานะของพื้นที่ได้รับการยืนยันอย่างต่อเนื่องจากฝ่ายไทย และไม่มีข้อโต้แย้งทางกฎหมายระหว่างประเทศที่สามารถนำมาอ้างสิทธิ์ได้เหมือนกรณีเขาพระวิหาร การเคลื่อนไหวใด ๆ ของฝ่ายกัมพูชาบนปราสาทตาเมือนธมจึงถือเป็นการกระทำที่ล่วงละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศไทย  

 

รัฐบาลไทยยืนยันชัด ปกป้องอธิปไตยเต็มที่

จากเหตุการณ์ล่าสุดที่ปรากฏคลิปวิดีโอ ทางการไทยได้ออกจดหมายประท้วงไปยังรัฐบาลกัมพูชาทันที เพื่อแสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการปกป้องอธิปไตยเหนือดินแดนของตน และเน้นย้ำว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย และอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ [6] กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานความมั่นคงของไทยได้มีการหารือและประสานงานกับฝ่ายกัมพูชาเพื่อทำความเข้าใจและแก้ไขปัญหา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือเหตุการณ์ที่บานปลายในอนาคต

 

 

 

 

แม้ประเด็นการเมืองระหว่างประเทศจะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและต้องติดตามกันต่อไป แต่ในมุมมองของนักเดินทางและผู้ที่สนใจวัฒนธรรม ปราสาทตาเมือนธมยังคงเป็นขุมทรัพย์ทางประวัติศาสตร์ที่รอการค้นพบ ด้วยความสวยงามของสถาปัตยกรรมขอมโบราณ ที่สามารถเชื่อมโยงเราเข้ากับเรื่องราวในอดีตได้อย่างน่าอัศจรรย์

สิ่งที่น่าสนใจเมื่อไปเยือนปราสาทตาเมือนธม 

• ชมความยิ่งใหญ่ของสถาปัตยกรรม: สัมผัสความอลังการของปราสาทหินทรายอันวิจิตร ที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของอาณาจักรขอมในอดีต
• เรียนรู้ประวัติศาสตร์: ทำความเข้าใจบทบาทของปราสาทในฐานะอโรคยาศาลและจุดพักระหว่างเส้นทางคมนาคมโบราณ
• ถ่ายภาพสวย ๆ: เก็บภาพความประทับใจกับฉากหลังของปราสาทเก่าแก่ ที่จะทำให้รูปของคุณดูมีเรื่องราวและไม่เหมือนใคร
• สัมผัสบรรยากาศชายแดน: ได้เห็นวิถีชีวิตผู้คนในบริเวณชายแดน และสัมผัสถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม