อยากกู้เงินออนไลน์ต้องรู้! เช็กข้อมูลได้ที่นี่! ระวังโดนหลอกได้ง่ายๆ
อยากกู้เงินออนไลน์ต้องรู้! เช็กข้อมูลได้ที่นี่! เพราะหากทำสัญญาเงินกู้โดยไม่ตรวจสอบ คุณก็อาจจะโดนหลอกได้ง่ายๆ พร้อมแนะแนวการแก้ปัญหาหนี้สิน และ เงินกู้ทั้งในระบบ และนอกระบบ
แอปกู้เงินคืออะไร?
ในปัจจุบันหลายคนมองหาตัวช่วยที่ทำให้สามารถกู้เงินได้เร็วมากขึ้น อย่างเช่น แอปกู้เงิน เป็นแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนหรืออุปกรณ์พกพาที่ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการขอสินเชื่อส่วนบุคคลระยะสั้น โดยผู้ใช้งานสามารถสมัครกู้ยืม ยื่นเอกสาร และได้รับการอนุมัติสินเชื่อผ่านทางแอปได้เลย การทำงานของแอปเงินกู้จะคล้ายกับการกู้ยืมสินเชื่อส่วนบุคคลปกติ โดยมีขั้นตอนที่รวดเร็วและสะดวกสบายเพื่อให้บริการ ซึ่งแอปเงินกู้นั้นก็มีทั้งแบบถูกและผิดกฎหมาย การมีแอปกู้เงินออนไลน์อาจเป็นโอกาสให้มิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาหลอกล่อเหยื่อด้วยโฆษณาชวนเชื่อ พร้อมคิดดอกเบี้ยเงินกู้น้อยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเอาไว้เพื่อจูงใจ แต่หากว่าอยากจะกู้เงินออนไลน์ต้องตรวจสอบให้ดีเดี๋ยวจะเสียทั้งเงินทั้งเวลาและความรู้สึก
แยกแยะตัวปลอมออกจากตัวจริง
- ผู้ให้กู้ในระบบหรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต จะให้เงินกู้เราเต็มจำนวน และอัตราดอกเบี้ยไม่เกินที่ทางการกำหนด
- ตัวปลอมจะให้เงินกู้เราไม่เต็ม อ้างว่า เป็นค่าดำเนินการเอกสาร และถ้าเป็นแอปพลิเคชันเงินกู้ปลอม ที่เนียน ๆ ว่า ให้เรากู้ได้เยอะ แต่ไม่ได้ให้กู้จริง ซึ่งมักจะให้แอดไลน์มาคุยกันหลังจากที่ดาวน์โหลดแอปฯ
ตามหาผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต
สามารถหารายชื่อและเบอร์ติดต่อผู้ให้กู้ที่ได้รับอนุญาตได้จากเว็บไซต์ของแบงก์ชาติและกระทรวงการคลัง และหากเป็นแอปพลิเคชันให้สังเกตข้อมูลของแอป อ่านรีวิว ดูชื่อผู้พัฒนาระบบ อีเมลของผู้พัฒนาระบบ หรือลองโทรติดต่อไปยังผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อสอบถามว่าเป็นผู้ให้บริการแอปพลิเคชันนี้จริง ๆ หรือไม่
อย่าลืมอ่านเงื่อนไขก่อนกู้
อ่านรายละเอียดที่จำเป็น เช่น อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลา จำนวนเงิน วิธีการคืนเงินกู้ ที่สำคัญ ต้องคำนึงถึงความสามารถในการผ่อนชำระของเราโดยควรกู้เท่าที่จำเป็น และรวมภาระผ่อนชำระหนี้ทุกก้อนของเราต่อเดือนไม่ควรเกิน 1 ใน 3 ของรายได้ต่อเดือน
เงินกู้ และหนี้นอกระบบที่เกิดขึ้นในวันนี้ จนกลายเป็นเรื่องบานปลาย กลายเป็นปัญหาสังคมที่หลายคนมีความวิตกกังวล อย่างหนัก หากไม่แก้ไข ก็จะยิ่งกลายเป็นปัญหาสังคมที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ คุณพชรกฤษฏิ์ ชื่นชม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พชรกฤษฏิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงิน และการลงทุน เปิดมุมมองถึงเรื่องการกู้หนี้ ยืมสิน วงจรหนี้สิน ที่เกิดขึ้นมีอยู่ด้วยกันหลายแบบ ทั้ง หนี้นอกระบบ และ หนี้ในระบบ แต่ไม่ว่าจะเป็นหนี้แบบใด ก็ไม่มีใครอยากกู้เงิน หากไม่จำเป็น ดังนั้น การที่จะจบวงจรกู้เงินมาเพื่อไปใช้หนี้ได้นั้น ก็ต้องเริ่มจากการหยุดสร้างภาระหนี้สินขึ้นก่อน
ส่วนใครที่เป็นหนี้นอกระบบ แล้วต้องการปิดหนี้ แนะนำว่า ก่อนอื่นจะต้องรู้ก่อนว่าตัวของเราเป็นหนี้อยู่เท่าไรกับใครบ้าง “จากนั้น รวมหนี้ทั้งหมด เพื่อวางแผนใช้หนี้ได้อย่างถูกต้อง ด้วยการคุยกับเจ้าหนี้ หากรู้สึกว่า เริ่มจะชำระหนี้ไม่ไหว โดยอาจจะขอยืดระยะเวลาชำระหนี้กับทางเจ้าหนี้ออกไป เพื่อหาเงินมาปิด ด้วยการขอให้คงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม หรือขอลดดอกเบี้ยบางส่วนลงมาเมื่อพร้อมปิด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การคุยกับเจ้าหนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่เรามีกับเจ้าหนี้ แต่อยากบอกตามตรงว่า เจ้าหนี้ส่วนใหญ่ไม่ค่อยรับฟังลูกหนี้สักเท่าไร และ สุดท้ายควรหาเงินก้อนมาโปะ ด้วยการดูว่า เรามีสินทรัพย์ หรือ ทรัพย์สินมีค่าอะไรบ้าง เช่น เครื่องประดับ กระเป๋า หรือ รองเท้าแบรนด์เนม นาฬิกา”
หากยังคงต้องการใช้เงิน ก็ให้ดูว่า สามารถกู้หนี้ในระบบจากที่ใดได้บ้าง โดยแนวทางที่มักเลือกใช้กัน คือ ขอกู้สินเชื่อส่วนบุคคล แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลจะสูงพอสมควร แต่ก็ยังถือว่าถูกกว่าดอกเบี้ยของเงินกู้นอกระบบแน่นอน และการเป็นหนี้ในระบบ ก็ปลอดภัยกว่าเป็นหนี้นอกระบบ นอกจากนี้ ยังอาจใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน หากเรายังพอมีบ้าน หรือที่ดิน อาจจะลองใช้วิธีกู้เงินแบบใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน เพราะจะได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่ามากและช่วยให้มีเวลาในการใช้หนี้ ที่สำคัญคือช่วยให้เราปิดหนี้นอกระบบได้นั้นเอง”
เมื่อได้เงินก้อนมาแล้ว ให้วางแผนการใช้หนี้ และนำไปปลดหนี้ทันที หากปิดไม่ได้ทั้งหมดก็ช่วยลดภาระหนี้สิน และภาระดอกเบี้ยที่สูงให้เบาลงได้บ้างก็ยังดี “ให้จำไว้ว่า หากมีหนี้นอกระบบหลายก้อน ให้เลือกชำระหนี้ ก้อนที่มีดอกเบี้ยสูงสุดก่อน ที่เหลือค่อย ๆ ทยอยชำระ ตามอัตราดอกเบี้ยลดหลั่นกันไป และควรเลือกปิดหนี้ทีละก้อน อย่ากระจายเงินใส่หลายๆ ก้อน เพราะจะไม่ช่วยให้ภาระดอกเบี้ยที่เราต้องแบกในแต่ละเดือนลดลงเลย”