ไลฟ์สไตล์

ไม่กินเหล้าก็เมาได้ รู้จัก 'โรคหายาก' ร่างกายกลั่นสุราเองได้ อันตรายแค่ไหน

ไม่กินเหล้าก็เมาได้ รู้จัก 'โรคหายาก' ร่างกายกลั่นสุราเองได้ อันตรายแค่ไหน

04 มิ.ย. 2567

ไม่กินเหล้าก็เมาได้? รู้จักโรคหายาก ร่างกายกลั่นสุราเอง Auto-brewery syndrome อันตรายแค่ไหน สาเหตุเกิดจากอะไร และมีวิธีป้องกันอย่างไร?

4 มิ.ย.2567 จากกรณีสำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเคสสุดแปลกทำแพทย์งงหนัก สาวใหญ่วัย 50 ปี โผล่ห้องฉุกเฉินด้วยอาการมึนเมาถึง 7 ครั้ง ในระยะเวลา 2 ปี อึ้งทั้งๆ ที่เธอไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอออล์

 

โดยสาวรายนี้มาห้องฉุกเฉินด้วยอาการมึนเมา เวียนศีรษะ และเป็นลมหมดสติขณะกำลังให้นมลูก แพทย์ตรวจเช็ก ลมหายใจของเธอมีกลิ่นแอลกอฮอล์ เมื่อตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ดูพบว่ามีปริมาณสูง

แต่หมอถึงกับงง เพราะทุกครั้งที่มาหาหมอธอยืนยันว่าไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งนี้สามีของเธอยังช่วยยืนยันอีกด้วย หลังการเข้ารับการรักษาหลายต่อหลายครั้ง แพทย์ระบุว่าเธอป่วยเป็นโรคหายาก คือ โรคร่างกายกลั่นสุราได้เอง Auto-Brewery Syndrome

 

 

โดยข้อมูลจาก หาหมอ ให้รายละเอียดเกี่ยวกับโรคร่างกายกลั่นสุราได้เอง Auto-brewery syndrome ว่า คือ โรคที่ร่างกายหมักและกลั่นสุรา หรือ แอลกอฮอล์ ชนิดเอธธานอล (Ethanol หรือ เอธธิลแอลกอฮอล์ Ethyl alcohol) ได้เอง ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยโรคนี้ มีอาการคล้ายคนดื่มสุราหรือคล้ายอาการเมาค้างตลอดเวลา ทั้งๆ ที่ไม่มีประวัติดื่มสุรา

 

 

ซึ่งสาเหตุโรคนี้เกิดจากขาดสมดุลของเชื้อรา หรือของแบคทีเรีย ในลำไส้เล็กจึงส่งผลให้เชื้อราหรือแบคทีเรียประจำถิ่นในลำไส้เล็ก ชนิดที่สามารถหมักและกลั่นสุราได้ เจริญเกินปกติมากจนสามารถหมักกลั่นสุราได้ จากอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล (คาร์โบไฮเดรต) ที่ผู้ป่วยบริโภคในปริมาณมากๆ และสุราจากลำไส้นี้ถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด

 

 

ร่างกายจึงส่งผลให้ผู้ป่วยมีปริมาณสุรา แอลกอฮอล์ในเลือดสูงเกินปกติ เช่นเดียวกับผู้ดื่มสุรา จึงเกิดเป็น "โรคกลุ่มอาการร่างกายกลั่นสุราได้เอง" ขึ้น

 

 

"โรคกลุ่มอาการร่างกายกลั่นสุราได้เอง" พบได้ทั่วโลก แต่พบน้อยมากๆ เป็นเพียงรายงานผู้ป่วยเป็นรายๆ เท่านั้น พบทุกอายุ และพบได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย

 

สาเหตุของโรค

ปัจจุบัน แพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่า อะไรเป็นสาเหตุให้เชื้อราหรือแบคทีเรียในลำไส้เกิดเจริญจนขาดสมดุลจนส่งผลให้ลำไส้ ร่างกายหมัก หรือ กลั่นสุราได้เอง แต่พบปัจจัยเสี่ยงหลายประการ เช่น

  • เป็นโรคเบาหวานที่มักควบคุมโรคไม่ได้
  • บริโภคอาหารแป้งและน้ำตาลปริมาณสูง เป็นประจำ ต่อเนื่อง
  • โรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน
  • โรคในระบบทางเดินอาหารที่เป็นโรคเรื้อรังบางโรค เช่น
  • โรคลำไส้สั้น (ในเด็ก มักพบเกิดจากสาเหตุนี้)
  • โรคโครห์น
  • โรคลำไส้แปรปรวน(โรคไอบีเอส)
  • มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคผิดปกติ
  • โรคตับบางชนิดที่ส่งผลให้ตับเสียการทำงาน ส่งผลให้ตับทำลายสารสร้างแอลกอฮอล์  หรือทำลายแอลกอฮอล์ที่เกิดในร่างกายได้ลดลง เช่น โรคไขมันพอกตับชนิดรุนแรง, โรคตับแข็ง
  • กินยาปฏิชีวนะยาวนานต่อเนื่อง หรือกินบ่อย ที่มักเป็นสาเหตุให้เกิดการไม่สมดุลของแบคทีเรียประจำถิ่นในลำไส้
  • อาจมีคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคนี้ หรือมีโรคทางพันธุกรรม เช่น ที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร หรือ ระบบภูมิคุ้มกันตานทานโรคผิดปกติ

 

 

 

อาการของโรค

มีอาการหลัก คือ อาการเหมือนคนเมาสุราทุกประการ หรือ เหมือนคนเมาค้าง เพราะเป็นอาการจากพิษสุรา (แอลกอฮอล์ชนิดเอธธานอล) เช่นเดียวกัน ได้แก่

 

  • สมองไม่แจ่มใส มึนงง คิดไม่ออก คิดช้า จำอะไรไม่ได้ชัดเจน
  • ขาดสมาธิ
  • ขาดสติ
  • พูดไม่ชัด พูดอ้อแอ้ เช่นเดียวกับคนดื่มสุรา
  • พูดวกไปเวียนมา
  • วิงเวียนศีรษะ
  • ปวดหัว
  • ปวดกล้ามเนื้อ
  • คลื่นไส้-อาเจียน
  • สับสน
  • เดินเซ เดินได้ไม่ตรง
  • เรอ หรือ สะอึกบ่อย
  • ผิวโดยเฉพาะใบหน้าแดง
  • ลมหายใจ กลิ่นปาก มีกลิ่นสุรา ซึ่งคือกลิ่นสารพิษ อะเซททัลดีไฮด์ (Acetaldehyde) ที่เกิดจากร่างกายสันดาปสุราเอธธานอล
  • ปากคอแห้ง
  • อ่อนเพลีย อ่อนล้า
  • ระงับอารมณ์ไม่ได้
  • มีภาวะขาดน้ำจากปัสสาวะบ่อยและปริมาณมาก
  • มีภาวะขาดอาหาร/ทุพโภชนา จากมีอาการมึนเมาตลอดเวลาที่ส่งผลถึงการบริโภค

 

 

 

แนวทางการรักษา

การรักษาระดับแอลกอฮอล์ในเลือดให้ลดลงด้วยการรักษาโรค หรือ ภาวะที่เป็นสาเหตุ เช่น

 

  • ปรับพฤติกรรมบริโภค พฤติกรรมการใช้ชีวิต ที่สำคัญ คือ ปรับเปลี่ยนอาหารให้เป็นอาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ, โปรตีนสูง, กรณีสปัจจัยเสี่ยงเกิดจากการบริโรคอาหารคาร์โบไฮเดรตสูง ซึ่งอาจจำเป็นต้องปรึกษาโภชนากรร่วมด้วย,จำกัดการบริโภคเครื่องดื่มทุกชนิดที่มีน้ำตาล,จำกัดปริมาณอาหารเพื่อไม่ให้เกิดโรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน.ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อฟื้นฟูสุขภาพและช่วยป้องกันโรคอ้วนและน้ำหนักตัวเกิน
  • ให้อาหารเสริมกลุ่ม วิตามิน แร่ธาตุ กรณีมีภาวะทุพโภชนาร่วมด้วย
  • ยกเลิก/ปรับเปลี่ยนการใช้ยาปฏิชีวนะ กรณีใช้ยานี้
  • ให้ยาต้านเชื้อรา กรณีตรวจพบว่าสาเหตุมาจากเชื้อรา
  • รักษา ควบคุม โรคต่างๆที่เป็นต้นเหตุ เช่น เบาหวาน, โรคโครห์น, โรคลำไส้แปรปรวน, ลำไส้สั้น (แนะนำอ่านรายละเอียดโรคเหล่านี้เพิ่มเติมที่รวมถึงวิธีดูแลรักษา จากเว็บhaamor.com)

 

 

รักษาอาการต่างๆที่เกิดจากภาวะที่มีแอลกอฮอล์ในเลือดสูงตามแต่ละอาการนั้นๆ เช่น แก้ไขภาวะขาดน้ำ, ภาวะขาดอาหารต่างๆ,ให้ยาแก้คลื่นไส้อาเจียน,ให้อาหารประเภทโปรไบโอติคเพื่อปรับสมดุลของเชื้อโรคต่างๆในลำไส้

 

ดูแลรักษาโรคต่างๆที่เป็นผลข้างเคียงของโรคนี้ เช่น โรคตับแข็ง, โรคซึมเศร้า, กลุ่มอาการความล้าเรื้อรัง

 

 

ผลข้างเคียง

  • มักมีปัญหาทางด้านกฎหมาย เมื่อมีปัญหา มักถูกประเมินว่าทำผิดเพราะเกิดจากเมาสุราเสมอ ถึงแม้จะปฏิเสธก็มักไม่มีใครเชื่อ เพราะการตรวจต่างๆจะบ่งชี้ว่าเกิดจากสุรา
  • ผู้ป่วยมักมีปัญหาครอบครัวและสังคม จากถูกเข้าใจว่าดื่มสุราเป็นประจำหรือดื่มฯระหว่างงานจนเสียงาน ถ้าเกิดโรคในวัยเรียนก็จะเกิดปัญหาทางการเรียน
  • การมีแอลกอฮอล์ในเลือดสูงตลอดเวลา อาจส่งผลให้เกิดโรคพิษสุราเรื้อรัง หรือ โรคติดสุรา
  • ถ้าไม่ได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ อาจเกิด โรคตับแข็ง, โรคพิษสุรา, โรคสมองเสื่อม เช่นเดียวกับผู้ติดสุราเรื้อรังได้
  • โรคนี้อาจก่อให้เกิดโรคเรื้อรังอื่นๆ หรือ ทำให้โรคนั้นๆอาการแย่ลงได้ เช่น กลุ่มอาการความล้าเรื้อรัง,โรคลำไส้แปรปรวน,โรคซึมเศร้า,โรควิตกกังวล,โรคสมองเสื่อม