กฎหมายใหม่ "อายัดบัญชีม้า" ได้ 24 ชม. ไม่ต้องรอแจ้งความ แก้ปัญหามิจฉาชีพดูดเงิน บังคับใช้เกือบ 5 เดือน แต่ยังโดนธนาคารปฏิเสธ
ผู้เสียหายสามารถ "อายัดบัญชีม้า" ได้ทันที โดยไม่ต้องรอแจ้งความตั้งแต่ 17 มี.ค. 2566 หลังจากพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ประกาศใช้และมีผลบังคับ เพื่อคุ้มครองประชาชนจากการหลอกลวงผ่านโทรศัพท์ หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีผู้ถูกหลอกลวงจำนวนมากและมูลค่าความเสียหายสูงมาก
ใจความสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ คือ หากตกเป็นเหยื่อ สามารถโทรศัพท์แจ้งธนาคาร "อายัดบัญชีม้า" ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องไปแจ้งความให้ตำรวจออกหนังสือคำสั่ง
แต่หลังจากแจ้งอายัดกับทางธนาคารแล้ว ผู้เสียหายต้องไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใน 72 ชั่วโมง แม้ว่า ธนาคารจะยับยั้งธุรกรรมต้องสงสัยแล้วก็ตาม แต่เป็นการอายัดไว้ชั่วคราว
เกือบ 5 เดือนที่กฎหมายบังคับใช้ ทว่ายังมีเสียงสะท้อนจากผู้เสียหายผ่าน "สภาองค์กรของผู้บริโภค" โดย "โสภณ หนูรัตน์" หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาองค์กรของผู้บริโภค เล่าว่า พ.ร.ก.มีผลบังคับใช้แล้ว แต่ปัจจุบันยังพบปัญหาการบังคับใช้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการคุ้มครองผู้บริโภค เช่น ธนาคารปฏิเสธและขอหลักฐานใบแจ้งความจากผู้เสีย ธนาคารรับเรื่องแต่ไม่ได้อายัดบัญชีทันที และอ้างว่า ต้องรอหลักฐานการตรวจสอบจากตำรวจ ธนาคารแจ้งว่า ไม่เข้าเงื่อนไข เป็นต้น
ด้าน "ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะผู้ผลักดันกฎหมายฉบับนี้ บอกว่า ที่ผ่านมาการ "อายัดบัญชีม้า" ได้มีการแก้กฎหมายและออกเป็นพระราชกำหนดปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ให้อํานาจทางธนาคารสามารถระงับบัญชีได้เลยเมื่อมีเหตุอันสงสัยว่าเป็นบัญชีม้า หรือประชาชนที่โดนหลอกลวงสามารถแจ้งให้ธนาคารระงับบัญชีได้เลย
"เหตุการณ์ที่ไปร้องเรียนกับทางธนาคารแล้วไม่ยอมรับบัญชี เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องจะดำเนินการตรวจสอบต่อไป เพราะเมื่อเป็นบัญชีม้า และมีผู้เสียหายมาร้องเรียนธนาคารต้องปฏิบัติตามกฎหมายฉบับใหม่ทันที" "ชัยวุฒิ" อธิบาย
ขณะนี้เบื้องต้น "ดีอีเอส" ได้ประสานงานกับทางสมาคมธนาคารไทยอย่างต่อเนื่อง และทางธนาคารทุกแห่งรับทราบและได้มีการปรับปรุงระบบการทํางานให้มีการรับแจ้งความหรือรับเรื่องร้องเรียน เพื่อจะได้ "อายัดบัญชีม้า" ได้เลย โดยไม่ต้องมาดำเนินคดีหรือแจ้งตํารวจก่อนไประงับบัญชีที่ธนาคารก่อน เพื่อให้สามารถดึงเงินกลับมาได้มากที่สุด และไม่ให้บัญชีเหล่านี้ไปสร้างความเสียหายให้ประชาชนต่อไป
"ชัยวุฒิ" บอกอีกว่า ขอแจ้งเตือนให้ประชาชนที่ได้รับลิงก์ (Link) หรือ URL จากการส่งไลน์ หรือโทรมาคุยจากมิจฉาชีพที่อ้างตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐ เป็นตํารวจ หรือบางทีอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือส่งอีเมลมาก็ตามอย่าไปเชื่อ
"เจ้าหน้าที่และหรือหน่วยงานต่างๆ ไม่มีใครโทรหาประชาชนเพื่อให้ทําธุรกรรมต่างๆ ถ้ามีจะติดต่อไปเป็นเอกสารเป็นทางการ ส่วนการทำธุรกรรมต่างๆ ควรไปที่เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของธนาคารหรือของหน่วยงานนั้นโดยตรง" "ชัยวุฒิ" กล่าวในที่สุด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง