'ผลไม้กินแล้วตัวหอม' มีอยู่จริง เปิดราคาที่ไม่ธรรมดา แต่มีคนยอมแลก

“ผลไม้กินแล้วตัวหอม” มีด้วยหรือ ต้องตอบว่า ผลไม้กินแล้ว ทำให้กลิ่นกายหอม มีอยู่จริง เมื่อรับประทานในระยะเวลาหนึ่ง จะช่วยให้มีกลิ่นกายที่หอมได้ เป็นผลไม้ที่หากินยาก จึงทำให้มีราคาที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว

 

 

 

 

 

ส่วน “ผลไม้” ชนิดที่ว่านี้ มีชื่อว่า “คีเปล” เรียกได้ว่าเป็นผลไม้มหัศจรรย์เลยก็ว่าได้ แล้ว คีเปล เป็นผลไม้ที่ปลูกในประเทศไทยหรือไม่ มีขายที่ไหน ราคาเท่าไร รวมทั้ง มีสรรพคุณอะไรถึงได้ชื่อว่าเป็น “ผลไม้กินแล้วตัวหอม” คมชัดลึก รวบรวมความรู้ มาให้ทุกคนได้รู้จักกับผลไม้ที่ชื่อว่า “คีเปล”

 

รู้จัก “คีเปล” ผลไม้กินแล้วตัวหอม

 

 

 

คีเปล เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ จัดเป็นพืชที่อยู่ในวงศ์เดียวกันกับกระดังงา มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย ในสมัยโบราณ ต้นไม้ชนิดนี้ จะปลูกได้เฉพาะในพระราชวังเท่านั้น บุคคลทั่วไปห้ามปลูกโดยเด็ดขาด ซึ่งพระเจ้าแผ่นดินจะให้มเหสี หรือนางสนม รับประทานผลของคีเปล เพื่อให้มีกลิ่นกายหอม นับได้ว่าเป็นพรรณไม้ที่แปลก และหายากอีกชนิดหนึ่ง

 

 

 

คีเปล ในภาษาท้องถิ่นของอินโดนีเซีย แปลว่า กำมือ เพราะว่าผลของต้นนี้จะมีขนาดเท่ากำมือพอดี ผลจะมีหลังจากออกดอก 3-4 เดือน ใน 1 ปี ก็ออกลูกประมาณ 2 ช่วง คือช่วงเดือน ธ.ค.- มี.ค. และ มิ.ย.- ก.ค.

 

 

 

ผลคีเปล จะออกตามลำต้นห้อยระย้าจำนวนมาก เปลือกผลสีน้ำตาลแก่ผิวหยาบ เมื่อผลแก่เปลือกจะมีผิวเรียบสีขาวอมเหลือง และจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเมื่อผลแก่จัด เนื้อสีเหลือง ฉ่ำน้ำ หอม หวาน จะส่งกลิ่นหอมมาก รสชาติหวานกลมกล่อม มีเมล็ดที่ใหญ่ ทำให้เนื้อน้อย ใน 1 ผล จะมีเมล็ด 3-6 เมล็ด

 

ประโยชน์ของคีเปล ที่ไม่ได้เป็นแค่ "ผลไม้กินแล้วตัวหอม"

 

 

ผลของคีเปล มีรสหวาน กลิ่นหอม เมื่อรับประทานเข้าไป จะทำให้เหงื่อและกลิ่นตัวหอมสดชื่น และยังมีสรรพคุณทางยา ที่ช่วยให้ถ่ายปัสสาวะได้คล่องไม่ติดขัด สิ่งที่ถูกขับถ่ายออกมาจากร่างกายไม่มีกลิ่นแรงจนเกินไป และยังสามารถปลูกเป็นไม้ประดับตามอาคารบ้านเรือนได้ เนื่องจากมีใบอ่อน สีแดงอมชมพู สวยงาม แถมยังให้ดอกสีเหลืองงดงาม ส่งกลิ่นหอมแรงไปตลอดทั้งวัน เมื่อให้ผลก็ใช้รับประทานได้ด้วย จึงควรอนุรักษ์ต้นไม้หายาก และมีประโยชน์ชนิดนี้ไว้ เพื่อไม่ให้สูญพันธุ์

 

 

“ผลไม้กินแล้วตัวหอม” แลกด้วยราคาเท่าไร

 

 

ด้วยความเป็นผลไม้ที่หากินยาก และมีสรรพคุณทางสมุนไพร จึงทำให้มีราคาที่สูง หลายปีที่ผ่านมา คีเปล ตกราคากิโลกรัมละ 3,500 บาท แม้ราคาจะสูง แต่ก็มีคนยอมจ่าย ปัจจุบันราคาลดลงมาบ้าง อยู่ที่กิโลกรัมละ 2,500 บาท ชาวสวนบอกว่า ยังได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค

 

 

 

แต่หากซื้อเป็นผล ไซส์ใหญ่เริ่มต้นที่ลูกละ 65 กรัมขึ้นไป (ขีดละ 390 บาท) ไซส์เล็ก ลูกละ 45 กรัม-60 กรัม (ขีดละ 250 บาท) ส่วนเมล็ดสามารถเก็บไว้เพาะได้

 

 

 

ปัจจุบัน คีเปล สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายตลาด ทั้งกลุ่มผลไม้พรีเมียม คนรักสุขภาพ ตลาดผลไม้ทั่วไป และผู้ที่ชื่นชอบในผลไม้แปลก อยากที่จะลิ้มลอง เกษตรกรก็สามารถสร้างอาชีพได้ เพราะปลูกเพียง 1 ต้น ก็ได้ผลเป็นจำนวนมาก กำไรดี และการดูแลไม่ยุ่งยากอีกด้วย

 

 

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลและภาพ : สวนเกษตร, เทคโนโลยีชาวบ้าน