มาตรา 151 พ.ร.ป. เลือกตั้ง คืออะไร ในปมหุ้น ITV ของ ‘พิธา'

"มาตรา 151" ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คืออะไร ในปมหุ้น ITV เป็นคำถามที่หลายคนมีความสงสัย

 

ต่างชาติมึนงงกับประชาธิปไตยแบบไทยๆ ด้วยผิดวิถีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เมื่อจัดการเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อย ตามด้วยจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศ แต่ต้องยกเว้นประเทศไทยที่เต็มไปด้วยองค์กรอิสระ ทำหน้าที่จัดการเลือกตั้ง 2566 และตรวจสอบการเลือกตั้ง66 อย่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.

 

‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ถูกร้องเรียน ปมถือหุ้นไอทีวี 42,000 หุ้น อนาคตทางการเมืองเสี่ยงถูกพักยาว เพราะเข้าข่ายทำผิดกฏหมายเลือกตั้ง ท่ามกลางความทุกข์ร้อนใจของ ‘ด้อมส้ม’ หวั่น พ่อของส้มจะหมดโอกาสเป็น นายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย

 

กกต.แผลงฤทธิ์ บี้ ‘พิธา’ด้วย ม.151

9 มิ.ย. 2566 กกต. ตั้งกรรมการไต่สวนการถือหุ้น ITV ของ ‘พิธา’ ตาม มาตรา 151 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. เหตุรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งแต่ยังฝืน โดยมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี

 

11 มิ.ย. 2566 กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์ 6 เสียง ไม่รับคำร้องปม พิธาถือหุ้น ITV แต่ให้รับเรื่องไว้พิจารณาเป็นความปรากฏ โดยจะตั้งคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนต่อไป

 

มาตรา 151 พ.ร.ป. เลือกตั้ง คืออะไร

‘คมชัดลึก’ ตรวจสอบข้อมูล พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 แก้ไขเพิ่มเติม 2566 มาตรา 151 หรือ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. ม.151 ระบุใจความว่า 

 

"ผู้ใดรู้อยู่แล้วว่า ตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอม ให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อ เพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท 

 

และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี ในกรณีที่ผู้กระทำความผิดตามวรรค 1 เป็นผู้ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้นั้นคืนเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่ได้รับมาเนื่องจากการดำรงตำแหน่งดังกล่าวให้แก่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรด้วย"

 

ม.151 โทษอาญาหนัก จำคุก-ตัดสิทธิ์ 20 ปี

เมื่อ กกต.ไม่รับคำร้อง ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ปมถือหุ้นไอทีวีก็จริง แต่กกต. ตั้งกรรมการไต่สวน ตาม ม. 42 (3) และ ม.151 มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง รู้ว่าไม่มีสิทธิ์สมัคร สส. แต่ยังฝืนลงเลือกตั้ง สรุปว่า หนักกว่าเดิม ดังนี้

 

1.ไม่รับคำร้องของผู้ร้อง แต่รับเป็นความปรากฏแปลว่า กกต.รับเป็นเจ้าภาพเอง

 

2.ดำเนินคดีอาญา มาตรา 151 คือ หากกกต.พบว่า ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ สมัคร สส. โดยขาดคุณสมบัติ กกต. แจ้งความดำเนินคดีผ่านตำรวจ อัยการ ไปศาลอาญาได้เลย ไม่ต้องพึ่งศาลรัฐธรรมนูญ(รธน.) โทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท ตัดสิทธิการเมือง 20 ปี

 

3.การร้องคดีถือหุ้นสื่อITV  ยังร้องได้หลังมีการรับรอง สส.แล้ว ตามมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ โดย สส. 50 คน หรือ สว. 25 คน หรือ กกต.ร้องเองในฐานะความปรากฏ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพิกถอนการเป็น สส. และตัดการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้อีกรอบ

 

'พิธา' อาจจะหลุด คดีปมถือหุ้นไอทีวี หรือไม่?

หลังการเลือกตั้ง 2566 พิธา และแกนนำพรรคก้าวไกล พยายามเลี่ยงที่จะตอบคำถามสื่อถึงปมถือหุ้นไอทีวี  หรือหากเลี่ยงไม่ได้ก็พูดตามกฏหมาย จนถึงช่วงดึกของวันอาทิตย์ที่ 11 มิ.ย. 2566 หลังมีหลักฐานใหม่คลิปประชุมผู้ถือหุ้น จาก ‘ข่าว 3 มิติ’ ระบุว่า ‘ITV’ ไม่เป็นสื่อ อาจช่วยให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หลุดจากการถูกยื่นร้องปมถือหุ้นสื่อได้หรือไม่

 

เมื่อฝ่ายก้าวไกล แถลงพบพิรุธเอกสารงบการเงินไตรมาสแรกของปี 2566 และการเปลี่ยนแปลงในแบบ สบช.3 หลังสุดของ ITV ซึ่งไม่สอดคล้องกับคำตอบในที่ประชุมผู้ถือหุ้น และมองเป็นขบวนการ ‘ปลุกผี ITV’ หรือพยายามฟื้นไอทีวี หลังสถานีโทรทัศน์ไอทีวี แห่งนี้ได้หยุดการเผยแพร่มาตั้งปี 2550

 

นาทีนี้ยังชี้ชัดไม่ได้ว่า พิธา พ่อของส้ม และพรรคก้าวไกล จะรอดจาก ม.151 พ.ร.ป.เลือกตั้ง สส. หรือไม่ จะชวดตำแหน่ง นายกฯคนที่ 30 หรือ ก้าวไกล จะ ถูกยุบพรรค หรือไม่ กลเกมการเมืองสไตล์แบบไทยๆ ยังมีให้ลุ้นระทึก ยิ่งกว่า ‘แค้น’ ละครหลังข่าว ตราบใดที่ยังไม่มีข้อสรุป จนกว่า กกต. จะไต่สวนเสร็จ แต่อย่างน้อยคลิปเสียงที่ปล่อยออกมา เรียกได้ว่าเป็น ‘ไพ่ตาย’ พลิกเกม และทำให้พรรคก้าวไกล ถือไพ่เหนือกว่าหลายชั้น นะขอกบอก!