29 มกราคม พ.ศ. 2518 "แดนเนรมิต" สวนสนุก ในความทรงจำ ก่อกำเนิดขึ้น เป็นตำนาน 48 ปี พลิกที่ดินกว่า 30 ไร่ กลายเป็น ทำเลทอง
ภาพของปราสาทเทพนิยาย ที่ตั้งตระหง่านอยู่ ริมถนนพหลโยธิน ฝั่งลาดพร้าว เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่า ครั้งหนึ่งตรงนี้เคยเป็นดินแดนแห่งความสุขของเด็ก ๆ มากมายหลายรุ่น ที่มีชื่อว่า “แดนเนรมิต”
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ตลอดเวลา 25 ปี ที่สวนสนุก แดนเนรมิต ก่อตั้งขึ้นมา ก่อนปิดตัวลง ก็กลายเป็นดินแดนแห่งความฝัน ที่เด็ก ๆ ในยุคนั้น อยากมาเยือนเพื่อสัมผัสความสนุกสักครั้งในชีวิต
เปิดตำนานแดนเนรมิต
แดนเนรมิตเริ่มต้นเมื่อกลางปี 2518 หลังจาก ไมตรี กิติพราภรณ์ เจ้าของโรงหนังพาราเมาท์-ฮอลลีวู้ด-โคลีเซียม เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น และเห็นกิจการสวนสนุก บวกกับทราบมาว่า สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ของสหรัฐอเมริกา มีนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกเข้าเยี่ยมชม สร้างรายได้มหาศาล จึงเกิดไอเดียอยากสร้างสวนสนุกแบบนี้ในเมืองไทยบ้าง
วันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2519 แดนเนรมิต จึงได้เปิดดำเนินการ บนเนื้อที่ 33 ไร่ ริมถนนพหลโยธิน และใช้เงินลงทุนกว่า 70-80 ล้านบาท ในวันนั้น ผู้คนกว่า 70,000 ชีวิต ต่างมุ่งตรงมายังถนนพหลโยธิน เพื่อร่วมงานเปิดตัวแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่ชื่อ แดนเนรมิต ทำให้รถติดหนักมาก ถึงขั้นคนที่จะไปดอนเมือง ตกเครื่องกันเป็นแถว
ภายในแดนเนรมิต มีเครื่องเล่นจากต่างประเทศกว่า 30 ชนิด ทั้ง เครื่องเล่นรถไฟรางเดี่ยว เรือไวกิง ส่วนจัดแสดงสัตว์โลกล้านปี เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีพาเหรดแฟนตาซี ซึ่งออกเดินไปตามถนนโดยรอบบริเวณ เครื่องเล่นชิ้นแรกที่เรียกเสียงฮือฮาสุดคือ รถไฟเหาะ หรือ Roller Coaster ซึ่งถือเป็นของแปลกในยุคนั้น ว่ากันว่าคนสมัยนั้น ต้องต่อคิวเป็นร้อย ๆ เมตรกว่าจะได้ขึ้น
และที่โดดเด่น จนกลายเป็นสัญลักษณ์ของแดนเนรมิต ก็คือปราสาทเทพนิยาย ซึ่งตั้งอยู่ส่วนหน้าของพื้นที่ สร้างขึ้นตามแบบที่ผสมผสานจากปราสาทเทพนิยาย ของสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ กับปราสาทนอยส์ชวานสไตน์ของเยอรมนี
ความสนุก ความสุข ความฝัน ดับลง
วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2543 แดนเนรมิตได้ปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ เนื่องจากหมดสัญญาเช่า ระยะเวลา 25 ปี โดยไม่สามารถต่อสัญญาได้ เนื่องจากในปัจจุบัน พื้นที่ของแดนเนรมิตกลายเป็นพื้นที่ในเมือง ไม่เหมาะกับการทำกิจการสวนสนุก รวมถึงต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการบำรุงรักษาเครื่องเล่นเดิม และการจัดหาเครื่องเล่นใหม่
ที่สำคัญ ก่อนหน้านั้น 7 ปี ผู้บริหารได้ลงทุนซื้อที่ดินย่านคลองสาม เพื่อพัฒนาสวนสนุกแห่งใหม่ คือ ‘ดรีมเวิลด์’ ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2536 จึงตัดสินใจไม่ต่อสัญญา เท่ากับว่าตำนานสวนสนุกกลางแจ้งแห่งแรกของเมืองไทยต้องปิดฉากลงโดยปริยาย หลังจากนั้นเครื่องเล่นที่มีอยู่จึงถูกรื้อถอนไป คงเหลือปราสาทเทพนิยายตั้งอยู่เพียงเดียว
ย้อนกลับไปในค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคม 2543 ผู้คนกว่า 40,000 ชีวิต มารวมตัวกันที่ ‘แดนเนรมิต’ เพื่อร่วมส่งท้ายดินแดนแห่งความทรงจำนี้ตลอดกาล
ต่อจากนั้น พื้นที่กว่า 30 ไร่ ก็ได้เปิดให้เช่าเป็นสนามแข่งขันรถ มอเตอร์ สปอร์ต แลนด์ โกคาร์ต (Motor Sport Land Go Cart) และกิจกรรมชม และเชียร์การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในนัดสำคัญ เช่น ศึกแดงเดือด
ปี 2565 อปท.เรียกเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตราเต็ม 100% เท่ากับว่าจากที่เคยเสียภาษีเพียง 10% กลับพุ่งพรวดเป็น 100% ทันที หรือควักจ่ายภาษี 10 เท่า ดังนั้น บนแปลงที่ดินเนื้อที่กว่า 30 ไร่ จึงถูกเปลี่ยนการใช้ประโยชน์จากสนามแข่งโกคาร์ท เป็นสวนเกษตรแบบผสมผสาน
ที่ดินตรงนี้ ถือเป็นทำเลทอง โดยเฉพาะเป็นแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ส่วนต่อขยายสายสีเขียว( หมอชิต-คูคต ) ทำให้าคาที่ดินขยับไปไกลตารางวาละไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท แต่เจ้าของที่ดิน คือคนในตระกูลขุนนางเก่า “เสรีเริงฤทธิ์” ไม่ต้องการขาย แม้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจะมีนักลงทุน บริษัทพัฒนาที่ดิน เข้าเจรจาขอซื้อเพื่อขึ้นโครงการคอนโดมิเนียมก็ตาม ด้วยความที่ที่ดินแปลงนี้ถูกตกทอดเป็นมรดกเก่าแก่ มีมูลค่าสูง ทำให้ต้องการเก็บรักษาไว้
ปัจจุบัน แดนเนรมิต 48 ปี ในตำนาน ถูกเนรมิตเป็นสวนเมล่อน และไร่สตอเบอร์รี่สายพันธุ์ญี่ปุ่น ตั้งอยู่บริเวณ ด้านหน้าของแปลงที่ดิน ยาวไปจรดที่ดินด้านใน นอกจากมีผลผลิตไว้เก็บเกี่ยวแล้วยัง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวกลางเมืองไปในตัวได้อย่างดีอีกด้วย
ที่มาข้อมูล : วิกิพีเดีย,thecloud
ข่าวที่เกี่ยวข้อง