'ผู้หญิงขนดก ไม่ต้องตกใจ'

 

                         การมีขนเยอะมากตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ซึ่งขนในบางส่วนนับว่าเป็นจุดเด่น คือ ใบหน้าที่คมเข้ม คิ้วหนา ขนตายาว แต่บางส่วนที่ “เกิน” พอดี คือ มีไรผมที่ทำให้หน้าสั้น หน้าผากดูแคบ โหงวเฮ้งไม่รับทรัพย์ ทั่วใบหน้ามีไรขน หนวดขึ้นเขียวครึ้ม ผิวหน้ามีรูขุมขนใหญ่ เกิดปัญหาไขมันและสิวอุดตัน แต่งหน้าแล้วเครื่องสำอางไม่ติด ทำให้ใบหน้าดูหมองคล้ำ เรื่อยลงมาจนถึงขนแขนและรักแร้ ทำให้ขาดความมั่นใจ มีไรขนขึ้นที่แผ่นหลัง ทำให้เกิดผดสิว ไม่กล้าใส่ชุดเว้าหลัง กระเถิบลงมาอีกหน่อย ที่เรียวขาและปลีน่อง ขนขายาวหยิก ดูแมนมากๆ ด้วยปัญหาหนักอกที่ว่านี่แหละ วันนี้มาทำความเข้าใจวิธีการกำจัดขนแบบต่างๆ 

 

                         วิธีกำจัดขนแบบต่างๆ เพื่อให้เห็นว่า การกำจัดขนบางวิธีเป็นการทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว บางวิธีใช้เวลานานมากกว่าจะเห็นผล หลายๆ วิธีเป็นการกำจัดขนแค่ชั่วคราว มีวิธีกำจัดขนด้วยวิธีไหนบ้าง

 

 

 

 

 

                         เป็นวิธีที่ใช้งบน้อย วิธีกำจัดขนยอดนิยมที่ถูก ง่าย สะดวก และทำได้เร็ว ต้อง "โกน" เท่านั้น แต่ขนงอกใหม่ไวมาก ที่สำคัญคือ ยิ่งโกนมากเท่าไหร่ยิ่งเสี่ยงกับอาการผิวหนังอักเสบจากการใช้ใบมีด หรือ razor burn มากเท่านั้น ทำให้ผิวเป็นตุ่มๆ เหมือนหนังไก่ แถมขนที่งอกใหม่ยังขึ้นเป็นตอสร้างความคันอีกต่างหาก บางคนเจอปัญหาขนคุด หรือขนขึ้นใหม่ดกดำหนากว่าเดิมด้วยซ้ำ 

 

 

 

 

 

                         คล้ายการถอนขนด้วยแหนบนี่แหละ แต่เปลี่ยนจากแหนบเป็นแผ่นหนีบสเตนเลสคู่ คล้ายแหนบสิบอัน ดึงขนออกพร้อมกัน ลองจินตนาการดูสิคะว่า แค่แหนบถอนขนหนึ่งเส้นก็น้ำตาเล็ดแล้ว นี่มีเป็นสิบ ดึงออกกพร้อมกัน จะขนลุกซู่ขนาดไหน 

 

 

 

 

 

                         การแวกซ์เป็นวิธีกำจัดขนคล้ายการถอน แต่ประหยัดเวลากว่า สามารถกำจัดขนได้ถึงราก ทำให้ผิวเรียบเนียนนาน โดยการทาขี้ผึ้ง นัยว่าเป็นการทำลายรากขน มีครั้งหนึ่ง ดันแอบมองแวกซ์เหนียวๆ ที่ทา เห็นเศษขนปนในแวกซ์ (แหวะ...ยี้...เข้าใจว่าเป็นขนของคนที่ทำก่อนหน้านี้) เท่านั้นแหละ เลิกเลยค่ะ 

 

 

 

 

 

                         วิธียอดฮิตของการกำจัดขนถาวรเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว เริ่มจากทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะรักษา ตามด้วยฉีดยาชา ยิ่งเป็นบริเวณเนื้ออ่อนๆ ตรงรักแร้ ขอบอกค่ะว่า เจ็บชนิดเล็บจิกเตียงกันเลยทีเดียว... แต่พอยาชาออกฤทธิ์ บอกตามตรงว่า ตอนทำไม่รู้สึกเจ็บเลย ทำไปคุยไป เห็นตัวเลขที่เขาเอาขนเราออกไปกี่เส้นๆ รู้สึกมันมาก แต่พอทำใกล้เสร็จ ยาชาเริ่มหมดฤทธิ์ คราวนี้แหละที่ดิฉันรู้สึกถึงอาการเหวิ่งๆ หน่วงๆ ยุบยิบๆ เนื่องจากผิวระคายเคืองจากการใช้ไฟฟ้าช็อตรากขน ทำเสร็จต้องเดินกางปีกกันทีเดียว หุบแขนไม่ได้ ด้วยความเจ็บ เป็นอย่างนั้น 2-3 ชั่วโมง อาการเหวิ่งๆ จึงหาย เหลือทิ้งไว้แต่จุดดำตกสะเก็ด ไม่สามารถใส่เสื้อแขนกุดได้ช่วงหนึ่ง 

 

                         "นวัตกรรมเลเซอร์กำจัดขน" สามารถกำจัดขนได้รวดเร็ว และครอบคลุมบริเวณกว้าง มีระบบทำความเย็นผิว ทำให้รู้สึกสบายขณะรักษา โดยเครื่องเลเซอร์ส่งผ่านพลังงานความร้อนและแสงเลเซอร์ ไปที่รากขน จากนั้นเซลล์เม็ดสีที่รากขนซึ่งดูดซับพลังงานแสง จะถูกทำลายอย่างรวดเร็ว ทำให้วงจรการเกิดขนงอกใหม่ช้าออกไป ขณะเดียวกันเส้นขนที่เกิดใหม่จะมีขนาดเล็กลง สีจางลง และค่อยๆ งอกใหม่น้อยลง จนหมดไปในที่สุด ทำให้ผิวเรียบเนียนเกลี้ยงเกลาบอกลาขนดกได้เลย เพราะคุณจะไม่ได้เจอกับมันอีกตลอดกาล

 

 

 

 

 

                         1.ใช้เวลาไม่กี่นาที ในการยิงเลเซอร์ เช่น รักแร้สองข้างใช้เวลาเพียง 10 นาที 

 

                         2.เส้นขนที่ถูกทำลายจะค่อยๆ ไหลหลุดออกไป ส่งผลให้วงจรการเกิดขนใหม่ช้า ขณะเดียวกันเส้นขนที่เกิดใหม่ก็มีขนาดเล็กลง สีอ่อนลง ขึ้นน้อยลงๆ และจะหายไปประมาณ 20-25 เปอร์เซ็นต์ของขนทั้งหมด กระทั่งหมดไปในที่สุด อีกทั้งยังช่วยให้ผิวเรียบเนียนเกลี้ยงเกลาด้วย

 

                         3.ในการรับบริการครั้งต่อไป ต้องทิ้งระยะห่างประมาณ 1 เดือน เพื่อให้ขนระลอกใหม่ เจริญเติบโตเข้าสู่ระยะที่ขนกำลังเติบโต เพื่อให้สามารถกำจัดได้อีก 20-25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งระหว่างรอรับบริการในเดือนถัดไป คุณสามารถโกนขนได้ตามปกติ (แต่อย่าถอนนะคะ เพราะจะดึงเอารากขนออกไปด้วย) ในการกำจัดขนให้หมดไป ควรรับบริการอย่างน้อย 5-8 ครั้ง จนเหลือแต่ขนอ่อน และค่อยๆ หมดไปในที่สุด ในบางรายอาจมีขนอ่อนๆ ขึ้นมาใหม่ได้บ้าง ขึ้นอยู่กับฮอร์โมนของแต่ละคน

 

                         เลเซอร์กำจัดขนถาวร เป็นวิธีที่สะดวกและปลอดภัย มีงานวิจัย ยืนยันผลตามหลักการทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์แล้วว่า สามารถกำจัดขนได้ดี ไม่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง การเลือกเลเซอร์กำจัดขนมีหลายระบบ หลายยี่ห้อ ด้วยคุณสมบัติและประสิทธิภาพแตกต่างกันไป แต่ละระบบเหมาะกับสีผิวที่แตกต่างกัน ถ้าเป็นคนเอเชียที่มีสีผิวค่อนข้างคล้ำ ควรเลือกระบบที่เหมาะกับสีผิวตัวเอง รวมทั้งเลือกยี่ห้อที่เป็นที่นิยมระดับโลก มีการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยาทั้งไทยและต่างประเทศ

 

                         ฉะนั้นคุณผู้หญิงทั้งหลายที่มีผิวนุ่มเนียนและเรียบลื่นไร้ขน ย่อมดีกว่าเป็นไหนๆ และนวัตกรรมความงามสมัยใหม่ช่วยเราได้ ตามคอนเซ็ปต์ที่ว่า "ลดสิ่งที่เกิน เติมสิ่งที่ขาด" ถึงจะตอบโจทย์คนรักบิวตี้ยุคนี้