ไลฟ์สไตล์

“รู้จัก 8 ชุดไทยพระราชนิยม” งดงามเหนือกาลเวลา มรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า

“รู้จัก 8 ชุดไทยพระราชนิยม” งดงามเหนือกาลเวลา มรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า

17 ส.ค. 2568

“รู้จัก 8 ชุดไทยพระราชนิยม” เครื่องแต่งกายที่สะท้อน ศิลปะ ความงาม และเอกลักษณ์ความเป็นไทย ที่สมเด็จพระพันปีหลวง  ทรงพระราชทานแนวทางไว้ กลายเป็นมรดกวัฒนธรรมล้ำค่า ที่สืบทอดความงดงามจากอดีตสู่ปัจจุบัน

 

ชุดไทยเป็นชุดประจำชาติที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนกับชาติอื่น ๆ ด้วยการออกแบบและการตัดเย็บที่ประณีต ผสมผสานด้วยการสร้างสรรค์ลวดลายบนผืนผ้าที่เกิดจากงานฝีมือของช่างไทยที่มีความโดดเด่น ชุดไทยพระราชนิยมเป็นชื่อเรียกเครื่องแต่งกายแบบไทยของสตรี ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงริเริ่มให้มีการศึกษาค้นคว้าเครื่องแต่งกายสตรีไทย สมัยต่าง ๆ และออกแบบเพื่อทรงใช้เป็นฉลองพระองค์ในโอกาสที่โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 พระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกาและประเทศยุโรปอย่างเป็นทางการ เมื่อปี พ.ศ. 2503  

 

“รู้จัก 8 ชุดไทยพระราชนิยม” งดงามเหนือกาลเวลา มรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า

 

ในส่วนของบุรุษ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทาน “ชุดพระราชทาน” หรือเสื้อไทยพระราชทาน เมื่อปีพุทธศักราช 2523 ให้เป็นเครื่องแบบข้าราชการ  และใช้แทนชุดสากลสำหรับบุรุษได้ เพื่อความประหยัดและเหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศไทยจนเป็นเอกลักษณ์ หลังจากนั้นชุดไทยพระราชนิยมทั้ง 8 แบบ และชุดพระราชทานของบุรุษได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจนกลายเป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติ มีการพัฒนาต่อมาทั้งรูปแบบและวัสดุ พัฒนาความรู้เกี่ยวกับการออกแบบ การตัดเย็บและการออกแบบลวดลายของผ้าในเทคนิคต่าง ๆ ไปทั่วประเทศ ทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชนอย่างกว้างขวาง

 

“รู้จัก 8 ชุดไทยพระราชนิยม” งดงามเหนือกาลเวลา มรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า

 

ชุดไทยพระราชนิยม 8 แบบ 

 

1. ชุดไทยเรือนต้น คือชุดไทยแบบลำลอง ใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าไหมมีลายริ้วตามขวางหรือตามยาวหรือใช้ผ้าเกลี้ยงมีเชิง ตัวซิ่นยาวจรดข้อเท้า ป้ายหน้า เสื้อใช้ผ้าสี   ตามริ้วหรือเชิง สีจะตัดกับซิ่นหรือเป็นสีเดียวกันก็ได้ เสื้อคนละท่อนกับซิ่น แขนสามส่วน กว้างพอสบาย  ผ่าอก ดุมห้าเม็ด คอกลมตื้นๆ ไม่มีขอบตั้ง เหมาะสำหรับใช้แต่งไปในงานที่ไม่เป็นพิธี และต้องการความสบาย เช่น ไปงานกฐินต้น หรือเที่ยวเรือ เที่ยวน้ำตก           

 

2. ชุดไทยจิตรลดา  คือชุดไทยพิธีกลางวัน ใช้ผ้าไหมเกลี้ยงมีเชิงหรือเป็นยกดอกทั้งตัวก็ได้ ตัดแบบเสื้อกับซิ่น ซิ่นยาว ป้ายหน้าอย่างแบบลำลอง เสื้อแขนยาว ผ่าอก คอกลม มีขอบตั้งน้อยๆ ใช้ในงานที่ผู้ชาย  แต่งเต็มยศ เช่น รับประมุขของประเทศที่มาเยือน เป็นทางการที่สนามบิน หญิงไม่ต้องประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ แต่เนื้อผ้าควรงดงามให้มากสมโอกาส        

 

 

3. ชุดไทยอมรินทร์ คือชุดพิธีตอนค่ำ ใช้ผ้ายกไหมที่มีทองแกม หรือ ยกทองทั้งตัว เสื้อกับซิ่น แบบนี้อนุโลมให้สำหรับ ผู้ที่ไม่ประสงค์คาดเข็มขัด ผู้มีอายุจะใช้คอกลมกว้างๆ ไม่มีขอบตั้งและแขน 3 ส่วน ก็ได้ เพราะความสวยงามอยู่ที่เนื้อผ้าและเครื่องประดับที่จะใช้ให้เหมาะสมกับงานเลี้ยงรับรอง ไปดูละครตอนค่ำ และเฉพาะในงานพระราชพิธี สวนสนามในวันเฉลิมพระชนมพรรษา หญิงประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์

 

 

4. ชุดไทยบรมพิมาน คือชุดไทยพิธีตอนค่ำที่ใช้เข็มขัด ใช้ผ้ายกไหมหรือยกทอง มีเชิงหรือยกทั้งตัวก็ได้   ตัดแบบติดกัน ซิ่นมีจีบยกข้างด้านหน้ามีชายพก ใช้เข็มขัดไทยคาด ตัวเสื้อแขนยาวคอกลมมีขอบตั้งผ่าด้านหลัง หรือด้านหน้าก็ได้ ผ้ามีจีบยาวจรดข้อเท้า แบบนี้เหมาะสำหรับผู้มีรูปร่างสูงบาง สำหรับใช้ในงานเต็มยศและครึ่งยศ เช่น งานอุทยานสโมสร หรืองานพระราชทานเลี้ยงอาหารอย่างเป็นทางการในคืนที่มีอากาศเย็น ใช้เครื่องประดับสวยงามตามสมควร        

5. ชุดไทยจักรี คือชุดไทยสไบ ใช้ผ้ายกมีเชิง หรือยกทั้งตัว ซิ่นมีจีบยกข้างหน้า มีชายยก ใช้เข็มขัดไทยคาด ส่วนท่อนบนเป็นสไบจะเย็บให้ติดกับซิ่นเป็นท่อนเดียวกัน หรือจะมีผ้าสไบห่มต่างหากก็ได้ เปิดบ่าข้างหนึ่ง ชายสไบคลุมไหล่ ทิ้งชายด้านหลังยาวตามที่สมควร ความสวยงามอยู่ที่เนื้อผ้า การเย็บ และรูปร่างของผู้สวม ใช้เครื่องประดับได้งดงามสมโอกาสในเวลาค่ำคืน              

 

 

6. ชุดไทยดุสิต เป็นเสื้อสำหรับงานพิธีตอนค่ำ ใช้ผ้ายกไหมหรือยกทอง อย่างเดียวกับไทยอมรินทร์ ไทยบรมพิมาน และไทยจักรี ตัวซิ่นยาว มีจีบยกข้างหน้า และชายพก ใช้เข็มขัด ผิดกันตรงตัวเสื้อ คือ เป็นเสื้อไม่มีแขน คอด้านหน้าและด้านหลังคว้านกว้าง และต่ำเล็กน้อย ผ่าด้านหลัง ตัวเสื้อปักเป็นลวดลายด้วยไข่มุก ลูกปัด และเลื่อม ฯลฯ ใช้ในงานพระราชพิธีที่กำหนดให้แต่งกายเต็มยศ

 

 

7. ชุดไทยจักรพรรดิ เป็นแบบไทยแท้แบบหนึ่ง ตัวซิ่นใช้ผ้าไหม หรือยกทองเอาจีบ ข้างหน้ามีชายพก ห่อแพรจีบแบบไทยสีตัดกับผ้านุ่งเป็นชั้นที่หนึ่งก่อน แล้วใช้ผ้าห่มปักอย่างสตรีบรรดาศักดิ์สมัยโบราณ  ห่มทับแพรจีบอีกชั้นหนึ่งใช้ในโอกาสพิเศษที่กำหนด ให้แต่งกายเต็มยศแบบไทยจักรี           

 

 

8. ชุดไทยศิวาลัย เป็นแบบไทยแท้ ซิ่นเป็นแบบไทยจักรพรรดิ ใช้ผ้ายกไหมหรือยกทอง เสื้อตัดแบบแขนยาวคอกลม ผ่าหลัง  เย็บติดกับซิ่น คล้ายแบบไทยบรมพิมาน ห่มผ้าปักลายไทยอย่างแบบไทยจักรพรรดิทับโดยไม่ต้องมีแพรจีบรองพื้นก่อน ใช้ในโอกาสพิเศษที่กำหนดให้แต่งกายเต็มยศ 

 

 

ชุดไทยพระราชทาน 3 แบบ ได้แก่

 

1. แบบแขนสั้น เป็นเสื้อคอตั้งสูงประมาณ 3.5-4 ซม. ตัวเสื้อเข้ารูปเล็กน้อย และผ่าอกตลอด มีสาบกว้างประมาณ 3.5 ซม. ขลิบรอบคอและสาบอก ปลายแขนลิบหรือพับแล้วขลิบที่รอยเย็บ ติดกระดุม 5 เม็ด กระดุมมีลักษณะเป็นรูปกลมแบนทำด้วยวัสดุหุ้มด้วยผ้าสีเดียวกัน หรือคล้ายคลึงกับเสื้อ กระเป๋าบนมีหรือไม่มีก็ได้ ถ้ามีให้เป็นกระเป๋าเจาะข้างละ 1 กระเป๋า อยู่สูงกว่าระดับกระดุมเม็ดสุดท้ายเล็กน้อย ขอบกระเป๋ามีขลิบ ชายเสื้ออาจจะผ่ากันตึง เส้นรอยตัดต่อมีหรือไม่มีก็ได้ ถ้ามีให้เดินจักรทับตะเข็บ

                

 

 2. แบบแขนยาว เป็นเสื้อคอตั้งสูงประมาณ 3.5-4 ซม. ตัวเสื้อเข้ารูปเล็กน้อย ผ่าอกตลอด มีสาบกว้างประมาณ 3.5 ซม. ขลิบรอบคอและสาบอก ติดกระดุม 5 เม็ด กระดุมมีลักษณะเป็นรูปกลมแบนทำด้วยวัสดุหุ้มด้วยผ้าสีเดียวกัน หรือคล้ายคลึงกับเสื้อ กระเป๋าบนมีหรือไม่มีก็ได้ ถ้ามีให้เป็นกระเป๋าเจาะข้างซ้าย 1 กระเป๋า กระเป๋าล่างเป็นกระเป๋าเจาะข้างละ 1 กระเป๋า อยู่สูงกว่าระดับกระดุมเม็ดสุดท้ายเล็กน้อย ขลิบที่ขอบแขนเสื้อตัดแบบเสื้อสากล ปลายแขนเย็บทาบด้วยผ้าชนิดและสีเดียวกันกับตัวเสื้อ กว้างประมาณ 4-5 ซม. โดยเริ่มจากตะเข็บด้านในอ้อมด้านหน้า ไปสิ้นสุดเป็นปลายมนทับตะเข็บด้านหลังชายเสื้อ อาจผ่ากันตึง เส้นรอยตัดต่อมีหรือไม่มีก็ได้ ถ้ามีให้เดินจักรทับตะเข็บ

 

 

3. แบบแขนยาวคาดเอว ตัวเสื้อมีลักษณะเดียวกับแบบที่ 2 แต่มีผ้าคาดเอว ขนาดกว้างยาวตามความเหมาะสม สีกลมกลืน หรือตัดกับสีของเสื้อ ผูกเงื่อนแน่นทางซ้ายมือของผู้สวมใส่

ชุดไทยพระราชนิยมของสตรี และเสื้อไทยพระราชทานของสุภาพบุรุษ ได้กลายเป็นชุดไทยประจำชาติที่เป็นแบบแผน แสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของความเป็นไทยและเหมาะสมกับวาระโอกาสต่าง ๆ ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาช้านาน แสดงออกถึงคุณค่างานช่างฝีมือของคนไทยในท้องถิ่น และยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการสร้างสรรค์ชุดไทยในปัจจุบันและอนาคต   ชุดไทยพระราชนิยมได้รับการขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ปี พ.ศ.2566