
กางหลักฐาน "ปราสาทตาเมือนธม" มรดกไทยแท้ที่กัมพูชาไม่อาจเคลมได้
ปราสาทตาเมือนธม ศักดิ์ศรีที่กัมพูชาไม่อาจเคลม! ไทยกางหลักฐานตอกกลับสุดเดือด ปราสาทแห่งนี้คือมรดกไทยแท้ กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเมื่อ 90 ปีที่แล้ว
ความขัดแย้งปราสาทตาเมือนธมร้อนระอุอีกครั้ง! ไทยยืนยันเป็นเจ้าของตามประวัติศาสตร์และหลักฐานทางกฎหมาย ในขณะที่กัมพูชา ยังคงพยายามอ้างสิทธิ์ผ่านเวทีโลกและปฏิบัติการเชิงรุกบริเวณชายแดน ปราสาทตาเมือนธม โบราณสถานขอมโบราณที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงเป็นประเด็นที่ถูกจับตาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับสถานะความเป็นเจ้าของ ปราสาทตาเมือนธม เป็นปราสาทขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่ม ตัวปราสาทอยู่บนเนินเขาสร้างคร่อมโขดหินธรรมชาติที่ศักดิ์สิทธิ์ในรูปของสยัมภูศิวลึงค์ และเป็นที่สำหรับประกอบพิธีกรรม อยู่ใกล้ดินแดนเขมรมากที่สุด
ปราสาทตาเมือนธมเป็นของประเทศไทย
ตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์และหลักฐานทางกฎหมาย ปราสาทตาเมือนธมตั้งอยู่ในอาณาเขตของประเทศไทยอย่างชัดเจน กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนปราสาทแห่งนี้เป็นโบราณสถานของไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 (ค.ศ. 1935) ซึ่งเป็นเวลากว่า 90 ปีมาแล้ว นอกจากนี้ แผนที่ที่จัดทำโดยนักสำรวจชาวฝรั่งเศส Etienne Aymonier ในปี ค.ศ. 1901 และสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1904 ยังยืนยันว่าปราสาทตาเมือนธมอยู่ในดินแดนของประเทศไทย การที่กรมศิลปากรดูแลพื้นที่และปราสาทมาอย่างต่อเนื่องก็เป็นเครื่องยืนยันถึงอธิปไตยของไทยเหนือพื้นที่ดังกล่าว
ไทยยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนปราสาทตาเมือนธมเป็นมรดกโลกกับยูเนสโกโดยตรง
จากการตรวจสอบข้อมูล ไม่พบว่าประเทศไทยได้ขึ้นทะเบียนปราสาทตาเมือนธมเป็นมรดกโลกกับองค์การยูเนสโกเป็นการเฉพาะ อย่างไรก็ตาม มีการกล่าวถึงปราสาทตาเมือนธมในเอกสารทางวิชาการและแผนที่ที่กัมพูชาจัดพิมพ์ร่วมกับยูเนสโก ซึ่งยืนยันว่าปราสาทตั้งอยู่ในเขตแดนประเทศไทยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1901 และได้รับการยอมรับตามอนุสัญญา ค.ศ. 1904 แม้จะไม่มีการขึ้นทะเบียนโดยตรง แต่สถานะของปราสาทตาเมือนธมในฐานะส่วนหนึ่งของประเทศไทยก็เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง
กัมพูชาพยายามเคลมปราสาทตาเมือนธมอย่างต่อเนื่อง
กัมพูชายังคงมีความพยายามที่จะอ้างสิทธิ์เหนือปราสาทตาเมือนธมมาโดยตลอด รวมถึงความพยายามที่จะนำประเด็นดังกล่าวเข้าสู่เวทีระหว่างประเทศอย่างยูเนสโก แม้หลักฐานจะชี้ชัดว่าปราสาทเป็นของไทย นอกจากนี้ ยังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะคารมหรือการเผชิญหน้าระหว่างพลเรือนกัมพูชาและทหารไทย ณ บริเวณปราสาท ซึ่งสะท้อนถึงความพยายามของกัมพูชาในการสร้างสถานการณ์บริเวณชายแดน การกระทำเหล่านี้รวมถึงการผลิตบทเพลงที่อ้างสิทธิ์เหนือปราสาท ยิ่งตอกย้ำความตั้งใจของกัมพูชาในการเคลมโบราณสถานแห่งนี้
"ความเคลื่อนไหวของกัมพูชาที่พยายามเคลมปราสาทตาเมือนธมยังคงเป็นประเด็นที่ฝ่ายความมั่นคงและกระทรวงวัฒนธรรมของไทยต้องเฝ้าระวังและชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่อง เพื่อปกป้องอธิปไตยและมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ"