ไลฟ์สไตล์

เปลี่ยนสีผมบ่อย ผมขาดหลุดร่วง แพทย์แนะวิธีฟื้นฟูผม ทำเองได้ง่ายๆที่บ้าน 

เปลี่ยนสีผมบ่อย ผมขาดหลุดร่วง แพทย์แนะวิธีฟื้นฟูผม ทำเองได้ง่ายๆที่บ้าน 

13 พ.ค. 2567

ชอบทำสีผม เปลี่ยนสีผมบ่อย ทำให้ผมขาดหลุดร่วง แห้งแตกปลาย ต้องอ่านทางนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและหนังศีรษะแนะนำวิธีดูแลและฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะสำหรับคนรักการทำสีผม ที่ใครๆก็ทำได้ง่ายๆที่บ้าน

 

“การทำสีผม” อีกหนึ่งแฟชั่นที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ช่วยให้เราดูโดดเด่นได้อย่างที่ต้องการ แต่เส้นผมที่ผ่านการทำสีมานั้น หากไม่ได้รับการบำรุงอย่างถูกต้องมักจะพบปัญหาต่างๆ เช่น สีซีดจางหรือสีหลุดไว ผมแห้งเสีย แตกปลาย หยาบกระด้าง ชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก ขาดและหลุดร่วงได้ง่าย รวมถึงการทำสีผมยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของหนังศีรษะ

 

เปลี่ยนสีผมบ่อย ผมขาดหลุดร่วง แพทย์แนะวิธีฟื้นฟูผม ทำเองได้ง่ายๆที่บ้าน 

 

โดยทางด้าน แพทย์หญิงรมิดา เกษมสมพร แนะนำวิธีดูแลและฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะสำหรับคนรักการทำสีผมว่า “การทำสีผมหรือฟอกสีผมเป็นการทำลายเกล็ดผมชั้นนอกสุด เพื่อให้สารเคมีเข้าไปทำปฏิกิริยากับเม็ดสีที่อยู่แกนกลางของเส้นผม ทำให้โปรตีนในเส้นผมถูกทำลาย ส่งผลให้เส้นผมสูญเสียความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื้น ผมจึงแห้งเสีย ขาดความยืดหยุ่น และเปราะบาง สังเกตได้ว่าหลังการทำสี เส้นผมจะหยาบกระด้าง แตกปลาย ชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก และขาดง่าย

 

แพทย์หญิงรมิดา เกษมสมพร แนะนำวิธีดูแลและฟื้นฟูสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นอกจากนี้การทำสีผมยังส่งผลต่อสุขภาพหนังศีรษะ ทำให้เกิดอาการแสบคันที่เกิดจากสารเคมีกัดกร่อนหนังศีรษะ เกิดการแพ้ ผื่นแดง บางรายอาจมีอาการหนังศีรษะลอก เป็นรังแค หนังศีรษะมีความมันมากกว่าปกติ เนื่องจากต่อมไขมันสร้างน้ำมันมาเพื่อเคลือบหนังศีรษะมากเกินไป

 

 

เปลี่ยนสีผมบ่อย ผมขาดหลุดร่วง แพทย์แนะวิธีฟื้นฟูผม ทำเองได้ง่ายๆที่บ้าน 

ในน้ำยาเปลี่ยนสีผมจะประกอบด้วยสารเคมีสำหรับกัดสี และย้อมสีผมประกอบด้วยสาร ‘ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์’ (Hydrogen Peroxide), ‘พีพีดี’ (PPD; Para-Phenylene Diamine) และแอมโมเนีย (Ammonia) โดยสารเคมีเหล่านี้จะไปขจัดเม็ดสีตามธรรมชาติหรือ ‘เมลานิน’ (Melanin) ทำให้เส้นผมมีสีที่อ่อนลง และทำให้สีใหม่ติดเส้นผมได้ง่ายขึ้น แต่ในทางกลับกันสารเคมีเหล่านี้ก็ส่งผลโดยตรงต่อเส้นผมและหนังศีรษะด้วยเช่นกันดังที่กล่าวมาข้างต้น น้ำยาเปลี่ยนสีผมสามารถแบ่งป็น 3 ประเภท คือ

  • แบบชั่วคราว (Temporary hair dyes) ทำให้สีติดชั่วคราว ไม่คงทน สามารถล้างสีออกได้ด้วยการสระผมด้วยแชมพูเพียง 1-2 ครั้ง น้ำยาเปลี่ยนสีผมชนิดนี้จะใช้สีที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่ โดยเม็ดสีจะติดอยู่บนผิวของเส้นผมเท่านั้น ไม่ซึมเข้าไปชั้นในของ Cortex เส้นผม เช่น คัลเลอร์ รินส์ (Color rinse), ดินสอทาสีผม (Hair crayons) และสีพ่นเส้นผม (Color sprays) เป็นต้น

 

  • แบบกึ่งถาวร (Semi-permanent hair dyes) มีส่วนประกอบของสีที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก สามารถซึมลึกเข้าติดถึงชั้น Cortex ของเส้นผม โดยเกาะจับกับ Keratin ในเส้นผมได้ สามารถปิดหงอกได้ไม่เกิน 30% และสีจะมีความคงทนได้นาน 3 - 5 สัปดาห์ เช่น แชมพูย้อมสีผม, โลชั่น และโฟมย้อมสีผม เป็นต้น

 

  • แบบถาวร (Permanent hair dyes) สีประเภทนี้จะติดผมในเส้นผมค่อนข้างคงทนนานหลายเดือน สามารถปกปิดผมขาวได้ รวมถึงสามารถย้อมสีใหม่ได้ เม็ดสีมีความคงทนต่อการสระโดยไม่ทำให้สีลอก แต่ก็ส่งผลเสียต่อเส้นผมมากกว่าประเภทอื่นๆ ดังนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย ไม่ควรมีปริมาณไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เข้มข้นเกินกว่า 6% และต้องทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ทุกครั้ง

 

เปลี่ยนสีผมบ่อย ผมขาดหลุดร่วง แพทย์แนะวิธีฟื้นฟูผม ทำเองได้ง่ายๆที่บ้าน 

 

ส่วนวิธีการดูแลสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผมทำสีสามารถทำได้ดังนี้

  • ควรเตรียมผมให้พร้อมก่อนการทำสี ด้วยการทำแฮร์ทรีตเมนต์ อบไอน้ำ ร่วมกับหมักครีมบำรุงผมหรือแฮร์มาส์ก ประมาณ 1-2 สัปดาห์ก่อนทำสีผม หากเส้นผมเรามีสุขภาพดี แข็งแรง เมื่อเราไปทำสีผม สีก็จะติดง่าย และติดทนนาน

 

  • หากเพิ่งทำสีใหม่ๆ ควรงดสระผมหลังการทำสีผม 72 ชม. เพื่อให้เวลาเกล็ดผมปิดและลดการชะล้างเม็ดสีที่ย้อม หลังจากนั้นให้สระผมด้วยแชมพูและครีมนวดสูตรสำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ และหลีกเลี่ยงการสระผมด้วยน้ำอุ่น เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมสีซีดจางหรือสีหลุดไว และเป็นการช่วยให้สีผมเปล่งประกายคงทน พร้อมยังช่วยสร้างเกราะป้องกันไม่ให้ผมเสียถึงแกนผมชั้นในอีกด้วย

 

  • เน้นการบำรุงผมและหนังศีรษะเป็นพิเศษ เพราะการทำสีผมส่งผลให้เส้นผมและหนังศีรษะเกิดความอ่อนแอ เนื่องจากสารเคมีที่เป็นส่วนผสมของสีย้อม ดังนั้นขั้นตอนการบำรุงและฟื้นฟูสภาพเส้นผมและหนังศีรษะโดยการทำทำทรีตเม้นต์จึงเป็นสิ่งจำเป็นสิ่งสำคัญ อย่างการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะ (Scalp Tonic) หลังการสระผมทุกครั้ง เพื่อเป็นฟื้นบำรุงสภาพหนังศีรษะจากการทำสีผม รวมถึงการใช้แฮร์เซรั่มบำรุงเส้นผมเป็นประจำ เพื่อซ่อมแซมเส้นผมจากภายในให้กลับมาแข็งแรงและดูสุขภาพดี

 

  • ลดการใช้ความร้อนในการจัดแต่งทรงผม อย่าลืมว่าเส้นผมที่ผ่านการฟอกสีย่อมอ่อนแอกว่าปกติ ดังนั้นก่อนจัดแต่งทรงผมด้วยความร้อน จะต้องฉีดสเปรย์กันความร้อนก่อนทุกครั้ง และไม่ควรใช้ความร้อนสูง เพราะจะทำให้ผมแห้งเสียมากกว่าเดิม หากเป็นไปได้ก็ควรใช้ลมเย็นเป่าผมจะดีที่สุด

 

  • พักฟื้นเส้นผม ควรปล่อยให้ผมได้ฟื้นฟูตัวเองบ้าง อย่างน้อยที่สุดคือ 1 เดือน เพื่อให้เวลาผมกลับมาแข็งแรงมากพอ และมีความพร้อมที่จะทำสีหรือทำเคมีได้อีกครั้ง

 

  • รับประทานอาหารบำรุงเส้นผม พวกถั่ว ธัญพืช ผักใบเขียว นมสด ชีส โยเกิร์ต ปลาแซลมอน ไข่ หอยนางรม และหอยแมลงภู่ นอกจากนี้ยังสามารถรับประทานวิตามินจำพวกไบโอติน วิตามินบี วิตามินเอ แร่ธาตุสังกะสี หรือแร่ธาตุเหล็ก เพื่อเสริมความแข็งแรงให้เส้นผมได้

 

เปลี่ยนสีผมบ่อย ผมขาดหลุดร่วง แพทย์แนะวิธีฟื้นฟูผม ทำเองได้ง่ายๆที่บ้าน 

 

แม้ว่าปัจจุบันยังไม่มีรายงานการวิจัยที่ระบุได้อย่างชัดเจนว่า การทำสีผมบ่อยครั้งแค่ไหนถึงจะเป็นอันตรายต่อร่างกายจริงๆ แต่มีงานวิจัยในต่างประเทศให้ข้อมูลว่าโดยเฉลี่ยแล้วสามารถทำสีผมได้มากสุดปีละ 9 ครั้ง แต่ในทางปฏิบัติแล้วก็ไม่ควรทำสีผมบ่อยจนเกินไป เพื่อลดการรบกวนหนังศีรษะ และลดการทำลายเส้นผม รวมถึงหากเรามีวิธีการดูแลสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผมหลังการทำสีผมที่ดี ก็จะช่วยให้สีติดทนนาน เป็นเงางาม และไม่ต้องกังวลเรื่องผมขาดหลุดร่วงง่ายอีกด้วย