Lifestyle

ฝ้า กระ จุดด่างดำ ไม่อันตราย แต่กระทบความมั่นใจ และบุคลิกภาพ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นหนึ่งในปัญหาผิวหน้าที่พบได้บ่อยทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ถึงแม้จะไม่ใช่โรคที่ก่อให้เกิดอันตราย แต่เป็นเรื่องของความสวยงาม จึงส่งผลต่อความมั่นใจ และบุคลิกภาพ

พญ.ดวงกมล ทัศนพงศากุล แพทย์ประจำศูนย์ผิวหนังและความงาม โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า ฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นปัญหาผิวหน้าที่พบบ่อยในคนไทย พบได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย ซึ่งตำแหน่งที่พบฝ้า กระ ได้บ่อย คือ บริเวณใบหน้าที่มีโอกาสสัมผัสกับ  แสงแดด มากๆ เช่น โหนกแก้ม หน้า ผาก จมูก เหนือคิ้ว และบริเวณเหนือริมฝีปาก

 

พญ.ดวงกมล ทัศนพงศากุล

 

ฝ้า เกิดจากการที่เม็ดสีเมลานินทำงานมากเกินไป จึงทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ โดย แสงแดด เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดฝ้า และความหมองคล้ำบนใบหน้า ผู้ที่ตากแดดเป็นประจำ เช่น ทำงานกลางแจ้ง เล่นกีฬากลางแดด มีโอกาสที่จะเป็นฝ้าได้มาก, รังสีอันตรายในแสงแดด ไม่ว่าจะเป็น UVA, UVB, แสงที่มองเห็นได้ และรังสีอินฟาเรด หรือแสงจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ล้วนแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้า ความหมองคล้ำ และ จุดด่างดำ บนใบหน้าได้

 

นอกจากนี้การใช้เครื่องสำอางบางชนิด การกินยาบางตัว เช่น ยาคุมกำเนิด ฮอร์โมนสำหรับวัยทอง ยากันชักกลุ่มฟีไนโทอิน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนระหว่างตั้งครรภ์ พันธุกรรม ล้วนส่งผลต่อการเกิด ฝ้า เช่นกัน

 

ฝ้า กระ จุดด่างดำ ไม่อันตราย แต่กระทบความมั่นใจ และบุคลิกภาพ

 

ประเภทของฝ้า

 

  • ฝ้าชนิดตื้น จะอยู่ในระดับชั้นผิวกำพร้า (ผิวหนังชั้นนอก) ฝ้าชนิดนี้จะเป็นสีน้ำตาล หรือดำ ขอบเขตชัดเจน เกิดขึ้นได้ง่าย ใช้เวลาไม่นานในการรักษา
  • ฝ้าแบบลึก จะอยู่ในระดับที่ลึกกว่าชั้นผิวกำพร้า อยู่ในชั้นหนังแท้ ฝ้าชนิดนี้มีขอบเขตไม่ชัดเจน มักเป็นสีน้ำตาลอ่อน น้ำตาลเทา สีน้ำตาลอมม่วง ฝ้าชนิดนี้รักษาได้ยาก
  • ฝ้าผสม คือมีการผสมกันทั้งฝ้าชนิดตื้น และชนิดลึก เป็นชนิดที่พบมากที่สุด

 

ฝ้า กระ จุดด่างดำ ไม่อันตราย แต่กระทบความมั่นใจ และบุคลิกภาพ

 

กระ มีลักษณะการเกิดคล้ายกับฝ้าคือ เม็ดสีเมลานิน ทำงานผิดปกติ จึงทำให้สีผิวบริเวณนั้นมีสีน้ำตาลหรือสีดำเป็นจุดเล็กๆ พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีผิวขาว ส่วนใหญ่จะพบในบริเวณที่ผิวสัมผัสแสงแดดบ่อยๆ เช่น ใบหน้า หลังมือและแขน

 

ประเภทของกระ

 

  • กระตื้น มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาล ขนาดเล็กไม่เกิน 0.5 เซนติเมตร กระจายอยู่ทั่วใบหน้า และร่างกาย
  • กระลึก มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเทา ขนาดประมาณ 2-3 มิลลิเมตร เกิดขึ้นบนชั้นผิวหนังชั้นแท้ ซึ่งอยู่ลึกกว่ากระตื้น
  • กระเนื้อ มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ สีน้ำตาลไปจนถึงสีดำ สามารถเกิดขึ้นได้บนทุกส่วนของร่างกาย เช่น ใบหน้า ลำคอ ไปจนถึงลำตัว
  • กระแดด มีลักษณะเป็นวงกลมสีน้ำตาล และเรียบแนบกับผิว

 

ฝ้า กระ จุดด่างดำ ไม่อันตราย แต่กระทบความมั่นใจ และบุคลิกภาพ

 

การรักษา ฝ้า กระ และรอยดำบนใบหน้ามี 5 วิธีดังนี้

 

1. การรักษาด้วยยา ได้ผลดีในฝ้าตื้นมากกว่าฝ้าลึก การใช้ยาอย่างต่อเนื่องถึง 6 เดือน จะเห็นผลชัดเจนขึ้น ส่วนฝ้าลึกนั้นรักษาค่อนข้างยาก โดยมากต้องรักษาด้วยวิธีการอย่างอื่นร่วมด้วย สำหรับยาทาที่ใช้ในการรักษาฝ้า เช่น

  • ยากลุ่มไฮโดรควินโนน เป็นยาที่ใช้ในการรักษาฝ้าเป็นหลัก โดยยาชนิดนี้ จะเป็นตัวลดการสร้างเม็ดสีของเซลล์สร้างเม็ดสีใต้ผิวหนัง โดยไปยับยั้ง เอนไซม์ที่ช่วยในการสร้างเม็ดสี แต่มีผลข้างเคียงคือ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ การใช้ยากลุ่มฮโดรควิโนนต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เท่านั้น
  • ยาทากลุ่มกรดวิตามินเอ สามารถทำให้ฝ้าจางลงได้ดี แต่สามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ เช่น ผิวแห้งลอก แดง จึงควรเริ่มด้วยการใช้ยาในปริมาณน้อยๆ หรือใช้คืนเว้นคืนก่อน
  • ยากลุ่มทรานซามิก ซึ่งมีทั้งแบบรับประทาน และยาทา โดยออกฤทธิ์ผ่านกลไกลดการอักเสบใต้ผิวหนัง ทำให้การสร้างเม็ดสีของผิวหนังลดลง ฝ้าจึงจางลดลง
  • ยาทาในกลุ่มกรดผลไม้ เช่น Glycolic Acid และ Whitening cream เช่น กรดอะเซเลอิก, อาร์บูติน, วิตามิน C, Licorice , วิตามิน B3, Kojic Acid

 

2. การลอกผิวด้วยสารเคมี ต้องทำด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะสามารถก่อให้เกิดแผลเป็นถาวรได้ จากการลอกชั้นผิวที่ลึกเกินไป หลังการลอกผิวควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด

 

3. การผลัดเซลล์ผิว ทั้งจากการใช้แรงดันจากผงคริสตัล การผลัดเซลล์ผิวด้วยการใช้หัวขัดผิว Diamond รวมถึงการผลักยาเข้าสู่ชั้นผิวหนังด้วยการใช้คลื่นเสียง หรือกระแสไฟฟ้า

 

4. การใช้เทคโนโลยีในเรื่องของเลเซอร์ และแสงที่มีความเข้มข้นสูง ที่ช่วยในการรักษา กระ ฝ้า รอยดำ และรอยแดง เช่น Q-switched Nd: YAG laser, Q-switched ruby laser, Picosecond Laser และแสงที่มีความเข้มข้นสูง IPL  เป็นเทคโนโลยีเพื่อความงามด้านผิวพรรณ ด้วยการใช้แสงที่มีความเข้มข้นสูง ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวสวยใส ดูอ่อนวัย พร้อมทำลายเฉพาะเม็ดสีส่วนเกินในชั้นหนังกำพร้า เราสามารถใช้ IPL ในการรักษากระ กระแดด รอยดำ และรอยแดงหลังหายจากสิว ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ทำให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น

 

การจะเลือกใช้เลเซอร์ชนิดใดควรได้รับการตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์ผิวหนังเพื่อวินิจฉัยโรค และเลือกเลเซอร์ชนิดที่เหมาะกับปัญหามากที่สุด เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดี และมีประสิทธิภาพมากที่สุด

 

5. การทาครีมกันแดด เราควรทาครีมกันแดดที่สามารถป้องกันได้ทั้ง UVA, UVB, แสงที่มองเห็นได้ และรังสีอินฟาเรด ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิด ฝ้า กระ รอยดำ และริ้วรอยต่างๆ ควรทาครีมกันแดดทุกวัน และทาก่อนออกโดนแดดอย่างน้อย 30 นาที การทาครีมกันแดดควรทาให้ปริมาณที่เพียงพอ โดยมีหลักง่ายๆ คือทาทั่วหน้าจะใช้ครีมกันแดดประมาณ 1 ข้อนิ้วมือ แต่หากทาทั่วหน้า และลำคอ จะใช้ครีมกันแดดประมาณ 2 ข้อนิ้วมือ

 

ในกรณีที่เป็นฝ้า หรือต้องโดน แสงแดด มาก ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อยประมาณ 30 ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลา 10.00-16.00 น.เพราะเป็นเวลาที่แสงแดดแรงที่สุด แต่หากจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากการทาครีมกันแดดเพื่อการปกป้องผิวแล้ว ควรใส่หมวกปีกกว้าง ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ใช้ร่มกันแดด และสวมใส่แว่นกันแดด ในการป้องกันผิวจากแสงแดดให้ได้มากที่สุด

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ