'ทำตาสองชั้น' แต่ละเทคนิค เหมาะกับใคร ราคาต่างกันไหม? ต้องเตรียมงบเท่าไหร่

ปัจจุบัน โรงพยาบาลและคลินิกทำตาสองชั้นทั้งในไทย และเกาหลีนั้นมีเต็มไปหมด เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าควรเลือกทำคลินิกที่ไหนดี และเทคนิคแบบไหนที่เหมาะกับดวงตาของเรา โดยเบื้องต้น เราควรจะต้องประเมินค่าใช้จ่าย ในการทำตาสองชั้นราคาของแต่ละเทคนิคก่อนด้วยว่า ลักษณะดวงตาของตัวเอง ต้องทำด้วยวิธีไหน เพื่อที่จะวางแผน และเตรียมตัว ก่อนที่จะเข้าไปปรึกษากับศัลแพทย์ที่สนใจ เพื่อรับคำแนะนำในการผ่าตัดอย่างถูกวิธี

5 สาเหตุที่ต้องทำตาสองชั้น 

1. คนที่มีตาชั้นเดียว ต้องการมีตาสองชั้น โดยคนเอเชียส่วนใหญ่นั้น มักจะมีตาชั้นเดียว เป็นดวงตาแบบอาตี๋ อาหมวย ซึ่งมีลักษณะเปลือกตาหนา จากไขมันและหนังตาส่วนเกินเยอะ จนเบียดชั้นตา ทำให้มองไม่เห็นชั้นตา กลายเป็นตาชั้นเดียว จึงมักนิยมทำศัลยกรรมตาสองชั้น เพื่อให้ดวงตาเป็นสองชั้นสวยงาม ดูหน้าคมมากขึ้นกว่าเดิม

2. คนที่มีปัญหา ตาหลบใน ชั้นตาไม่เท่ากัน เกิดจากภาวะหนังตาตกทับชั้นตา หรืออาจเกิดจาก ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ตาไม่เท่ากัน ทำให้ไม่สามารถลืมตาได้เต็มที่ 

3. คนที่มีปัญหาตาสองข้างไม่เท่ากัน ซึ่งอาจเกิดจากโครงสร้างตาไม่เท่ากันตั้งแต่กำเนิด หรือมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จึงออกแรงยกเปลือกตาได้ลดลง การศัลยกรรมตาสองชั้น สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้ โดยทำร่วมกับการดึงกล้ามเนื้อตา จะช่วยให้ตาสองข้างดูเท่ากันมากขึ้น  

4. คนที่มีภาวะหนังตาตก หนังตาเกิน ไขมันเปลือกตาเยอะ อันเกิดจากชั้นหนังตาเกิน และมีไขมันเปลือกตาจำนวนมาก ทำให้ดวงตาดูเล็ก และชั้นตาหลบใน ตาไม่เท่ากัน บางกรณีที่ หนังตาตกมาก อาจบดบังการมองเห็น ทำให้ใช้ชีวิตยากขึ้น การทำตาสองชั้นพร้อมตัดหนังตา จะช่วยแก้ปัญหาหนังตาตกได้อย่างตรงจุด

5. คนที่มีกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ตาปรือ ตาดูง่วงนอน ภาวะเหล่านี้ส่งผลให้ตาดูอิดโรย ไม่สดใส หรืออาจทำให้ดูมีอายุได้ สามารถแก้ไขได้ ด้วยการทำตาสองชั้น ร่วมกับเทคนิคยกกล้ามเนื้อตาได้เช่นกัน

คุณมีอาการเหล่านี้หรือไม่ 

• ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

เป็นภาวะที่มีอาการลืมตาได้น้อย เกิดการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อตา ซึ่งไม่สามารถทำงานได้ไม่เต็มที่ เปลือกตาลงมาคลุมตาดำมากเกินไป จนทำให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิตประจำวัน ส่งผลต่อการมองเห็น และดูเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา ซึ่งภาวะนี้ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย โดยสามารถทำการแก้ไขได้ โดยการผ่าตัดศัลยกรรมตาสองชั้น ร่วมกับการปรับกล้ามเนื้อตา เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ตามปกติ และทำให้มีดวงตาที่โต และสดใสอย่างสมบูรณ์

• ปัญหาหนังตาตก

ความหย่อนคล้อยของผิวหนังเปลือกตา ทำให้ใบหน้าของเราดูไม่สวยงาม ดูเหมือนคนมีอายุ หน้าง่วงนอน ใบหน้าดูเหนื่อยอ่อนล้าตลอดเวลา ซึ่งอาการหนังตาตกสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เมื่อเรามีอายุที่เพิ่มมากขึ้น 

แนะนำเทคนิคการทําตาสองชั้น แบบฉบับเกาหลี

การทำตาสองชั้น หรือการแก้ไขกล้ามเนื้อตาต่าง ๆ มีด้วยกันหลากหลายวิธีมาก วันนี้เราจึงมาเจาะ 9 เทคนิคที่คนนิยมทำตาสองชั้นกันค่ะ

1. เทคนิคการทำตาสองชั้น โดยวิธีการเย็บจุด

เทคนิคการเย็บ 3 จุด เป็นเทคนิคการศัลยกรรมตา โดยคุณหมอจะทำการสร้างชั้นตา จากการกำหนดจุด 3 ตำแหน่งบนเปลือกตา เพื่อให้เกิดชั้นตาขึ้นมาใหม่ โดยไม่มีการกรีด แต่ใช้ไหมเย็บยึดระหว่างจุดเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดรอยพับชั้นตาที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ เทคนิคนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทำตาสองชั้น โดยไม่มีแผลผ่าตัดที่เกิดจากการกรีด คนที่มีตาชั้นเดียว ชั้นตาเล็ก ชั้นตาหลบในที่มีหนังตาบาง ไม่มีไขมันเปลือกตา และไม่มีหนังตาเกิน ซึ่งข้อดีของวิธีนี้คือ ไม่ทำให้เกิดแผลภายนอก ไม่บวมช้ำ และหลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แถมยังใช้เวลาพักฟื้นน้อยอีกด้วย

2. เทคนิคการทำตาสองชั้น แบบกรีด

เทคนิคกรีดตาสองชั้นแบบกรีดยาว คือการกรีดเพื่อตัดหนังตาส่วนเกินออกไป เพื่อแก้ไขขนาดของชั้นดวงตา ทำให้ดวงตาดูสวยคมมากขึ้น ช่วยแก้ไขภาวะหนังตาตกทับดวงตา หรือหนังตาหย่อนคล้อยบริเวณเปลือกตา และไขมันสะสมเยอะ เหมาะสหรับคนที่ตาชั้นเดียว ตาเล็ก ตาหลบใน คนที่มีลักษณะหางตาตก หรือคนที่ทำตาสองชั้นที่อื่นมาแล้วต้องการแก้ตา ข้อดีของวิธีการนี้คือ ใช้เวลาพักฟื้นอย่างน้อยเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น และให้ผลลัพธ์ที่ถาวรมากกว่าการเย็บแบบจุด

3. เทคนิคปรับกล้ามเนื้อตา  

เป็นการปรับกล้ามเนื้อตาแบบไม่กรีด เป็นการปรับรูปทรงของดวงตาโดยการปรับมัดกล้ามเนื้อ บริเวณบนเปลือกตาที่อ่อนแรงให้กลับมาสดใส และมีชีวิตชีวามากขึ้น ศัลยกรรมประเภทนี้ จะไม่ทิ้งรอยแผลเป็นบนเปลือกตา แต่จะทำให้ดวงตาจะดูโตขึ้นอย่างชัดเจน เหมาะสำหรับ ผู้ที่ต้องการมีตาสองชั้น ตากลมสดใส ผู้ที่หนังตาตกลงมาปิดลูกตาดำ ตาง่วงนอน ตาเหนื่อยตลอดเวลา ข้อดีคือ เทคนิคนี้ ไม่ทิ้งรอยกรีด และแผลเป็นบนเปลือกตา ดวงตาดูสดใสแบบเป็นธรรมชาติ

4. เทคนิคการเปิดหัวตา (Anterior Incision) 

การเปิดหัวตา คือ การผ่าตัดเพื่อเพิ่มความยาวของดวงตา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความยาวของดวงตา หรือมีพื้นที่ตาขาวบริเวณหัวตาแคบกว่าหางตา การเปิดหัวตาจะช่วยทำให้ดวงตาดูสดใสมากยิ่งขึ้น คืนพื้นที่ให้ตาขาว ซึ่งจะทำให้ดวงตากลมโตมากขึ้นด้วย

5. เทคนิคการเปิดหางตา (Posterior Incision)

ศัลยกรรมการเปิดหางตา หรือที่บางคนเรียกว่า การเปิดหางตาหงส์นั่นเอง ลักษณะคล้ายกับการเปิดหัวตาแต่แตกต่างกันที่ตำแหน่งเท่านั้น เทคนิคนี้เหมาะสำหรับคนไข้ที่ต้องการเพิ่มความยาวของดวงตา และต้องแก้ไขปัญหาหางตาตก

6. เทคนิคการแก้ไขหนังตาตก (Sub eyebrow surgery)

การแก้ไขปัญหาหนังตาตก สามารถทำได้โดยการยกหนังตาขึ้น และเย็บเพื่อให้ยึดติดกับกล้ามเนื้อช่วงหางคิ้ว โดยจะมีการซ่อนแผลไว้ บริเวณใต้หางคิ้ว ซึ่งสังเกตเห็นแผลได้ยาก แถมเป็นจุดที่ดูแลง่าย และหายเร็ว วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีตาสองชั้นสวยงามอยู่แล้ว แต่ต้องการการยกหนังตาขึ้น ทำให้ดวงตากลับมาดูสดใสกลมโตกว่าเดิม ช่วยลดอายุบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหนังตาหย่อนคล้อย มีเปลือกตาหย่อนปิดลูกตา มีไขมันเปลือกตาหนา ที่สำคัญให้ผลลัพธ์ถาวร และเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ

7. เทคนิคการเกลี่ยไขมันใต้ตา (Under eyes fat removal)

การเกลี่ยไขมันใต้ตาให้เรียบนั้น คือการกรีดเปิดเนื้อเยื่อใต้ตา จะทำการจัดเรียงใหม่ เกลี่ยไขมันใต้ตาให้พอดี อาจมีการตัดหรือเพิ่มไขมันในบางจุดเพื่อให้เรียบเนียนสวยงาม เทคนิคนี้เหมาะสำหรับ คนไข้ที่มีปัญหาถุงใต้ตา หรือคนที่มีใต้ตาลึก เป็นต้น วิธีนี้เป็นการแก้ไขโดยพื้นฐานของไขมันใต้ตา ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและอยู่ได้ยาวนานอีกด้วย

8. เทคนิคการยกกระชับใต้ตา (Re- Rotate under eyes)

สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาผิวรอบดวงตาหย่อนคล้อย มีถุงใต้ตา มีริ้วรอยรอบดวงตา การทำยกกระชับใต้ตา อาจจะเป็นคำตอบสำหรับคุณ วิธีการนี้ จะช่วยยกเปลือกตา และหางคิ้วให้ชั้นตาชัดขึ้น อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวรอบดวงตาให้เรียบเนียน ลดเลือนริ้วรอย และถุงใต้ตาให้น้อยลงได้อีกด้วย

9. เทคนิคการทำเอนโดไทน์ (Endotine)

การยกกระชับดวงตา ด้วยเทคนิคการทำเอนโดไทน์  เป็นวิธีการผ่าตัดผ่านกล้องเอนโดสโคป เปิดแผลเล็กมาก โดยไม่เกิดรอยเเผลเป็น เหมาะสำหรับคนสูงอายุที่ หรือคนที่ลักษณะกระบอกตาแคบ คนที่หางตาตก เปลือกตามีความหย่อนคล้อย วิธีการผ่าตัดเอนโดไทน์นี้ มีผลโดยตรงกับการเปลี่ยนรูปทรงของดวงตาเลย เนื่องจากจะทำให้ช่วยให้ดวงตาดูยกขึ้น เผยความสดใส และกลมโตกว่าเดิมอย่างมาก 

ทำตาสองชั้นทรงไหนดี ?

จะว่าไปการทำตาสองชั้น ก็มีทรงยอดฮิตที่เปลี่ยนแปลงกันไปตามเทรนด์ในแต่ละช่วง ทำให้มีหลายทรงให้เลือกทำกันมากมาย และเราก็ได้รวบรวมตาสองชั้นทรงต่าง ๆ มาไว้ให้แล้ว

1. ตาสองชั้นทรงสายฝอ (ฝรั่ง) ดวงตาจะมีลักษณะเห็นเส้นรอยพับของชั้นตาชัดเจน ตาดูคมมากขึ้น ชั้นตาโค้งรับกับดวงตา หัวตาเปิดกว้างขึ้น ดวงตากลมโตและเรียวยาว เหมาะกับคนที่มีโครงสร้างดวงตาค่อนข้างใหญ่ ซึ่งทำให้องค์ประกอบบนใบหน้าดูชัด หรือเหมาะกับคนที่ชอบแต่งหน้าแต่งตัวสไตล์สายฝอ

2. ตาสองชั้นทรงสายเกา (เกาหลี) ดวงตาสไตล์สาวเกาหลีได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทรงนี้จะมีชั้นตาที่ดูเป็นธรรมชาติ เส้นชั้นตามีความคมชัดเจน แต่ไม่เน้นความหนาของชั้นตามากนัก ออกแนวหมวยหวาน ขนาดชั้นตาดูพอดีกับขนาดดวงตา เหมาะกับคนที่มีโครงสร้างดวงตาไม่ใหญ่มาก และอยากให้องค์ประกอบใบหน้าดูหวานละมุน กลมกลืนไปกับใบหน้า และเหมาะกับคนที่ชอบแต่งหน้าแต่งตัวสไตล์สายเกาหลี

3. ตาสองชั้นสไตล์ไทย ลักษณะดวงตาสไตล์คนไทย แน่นอนว่าต้องเน้นไปที่เรื่องของความคมชัดของดวงตา รูปทรงดวงตามีความสมดุล เป็นทรงอัลมอนด์สวยงาม ดวงตาดูทรงพลังแต่ให้ความรู้สึกตาหวานไปพร้อมกัน เหมาะกับคนที่มีโครงสร้างใบหน้าค่อนข้างชัด ต้องการชั้นตาชัด มีความหน้าคม ดวงตาได้สัดส่วน ตากลมโต และดูหวาน

4. ตาสองชั้นทรงหางหงส์ ดวงตาหางหงส์เป็นที่นิยมของวัยรุ่น และวัยใหญ่ ในปัจจุบันอย่างมาก เป็นดวงตาที่มีความคมและเฉี่ยว หางตาเชิดขึ้นเหนือระดับหัวตาเล็กน้อยเหมือนหางหงส์นั่นเอง ทำให้ดวงตาดูมีเสน่ห์ชวนมอง ชวนหลงใหล เหมาะกับคนที่ต้องการแก้ไขหางตาสั้นทื่อ กลมมน ให้มีลักษณะหางตาที่เรียวยาว สมส่วนมากขึ้น หรือเหมาะกับสาว ๆ สไตล์เปรี้ยวซ่า

5. ตาสองชั้นสไตล์บาร์บี้ เป็นดวงตาที่มีลักษณะกลมโตเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ มีชั้นตาที่ชัดเจน โค้งสวยเป็นเส้นขนานตั้งแต่หัวตาถึงหางตา ดูสดใส ให้ภาพลักษณ์ที่ดูน่ารัก และดูอ่อนกว่าวัย เหมาะกับคนที่ต้องการดวงตากลมโต และเรียวยาวได้สัดส่วน หรือคนที่ชอบแนวการแต่งหน้า และแต่งตัวสไตล์ตุ๊กตาบาร์บี้

แนะนำคุณหมอที่เชี่ยวชาญเรื่องการทำตา

• คุณหมออันแทจู (Dr.Ahn Tae Joo)

คุณหมออันแทจู ปัจจุบันมีคลินิกเป็นของตัวเองภายใต้ชื่อว่า SUI Plastic Surgery และเคยเป็นอดีตศัลยแพทย์ที่ Gyalumhan Plastic Surgery มีผลงานมากมาย และมีประสบการณ์ผ่าตัดให้คนไทยมาแล้วนับไม่ถ้วน คุณหมออันแทจูเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมตาเป็นอย่างมาก เช่น การปรับรูปตาเพื่อลดความหย่อนคล้อยช่วยแก้ปัญหาหนังตาตก การยกกระชับหนังตาและบริเวณรอบดวงตา การทำตาสองชั้นเพื่อแก้ไขจุดปัญหาต่าง ๆ แถมยังได้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามเหมือนสาวเกาหลี ซึ่งคุณหมอจะเน้นการออกแบบดวงตาให้เหมาะกับภาพลักษณ์ที่แต่ละท่านต้องการมากที่สุด

• โรงพยาบาลไอดี

หนึ่งในศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียงด้านการทำตาสองชั้นของโรงพยาบาลไอดี คือ คุณหมอ ฮวังอินซอก (Dr. In Seok hwang) ที่โด่งดังอย่างมากจากการผ่าตัดศัลยกรรมให้กับคนไข้ในรายการ Let me in เนื่องจากการวิเคราะห์ถึงต้นเหตุของปัญหาและสามารถผ่าตัดทำตาสองชั้นออกมาได้อย่างสวยงามจนไม่น่าเชื่อ ทำให้คุณหมอได้รับความสนใจจากคนไข้ในประเทศไทยกันอย่างล้นหลามเลยทีเดียว นอกจากนี้คุณหมอยังเชี่ยวชาญในเรื่องการแก้ไขปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ดวงตาสองข้างไม่เท่ากัน การจัดเรียงไขมันชั้นตาและใต้ตา รวมถึงการแก้ไขถุงใต้ตา เป็นต้น

• โรงพยาบาลศัลยกรรมวิว

เป็นที่โรงพยาบาลที่ได้รับความสนใจอย่างมากในการทำตาสองชั้น เนื่องจากทีมศัลแพทย์ที่โด่งดังหลาย ๆ ท่าน และมีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางตาเป็นผู้ดำเนินการตั้งแต่ให้คำปรึกษา ผ่าตัด ไปจนถึงตรวจอาการหลังผ่า คุณหมอที่นี่มีเทคนิคพิเศษในการทำตาสองชั้นทั้งวิธีการเย็บแบบจุด และแบบกรีด ช่วยแก้ปัญหาดวงตาได้หลายทางด้วยกัน ซึ่งการันตีการให้บริการเป็นที่หนึ่ง และยังคอนเฟิร์มว่าได้ผลลัพธ์ที่สวยอย่างถาวร แทบไม่เห็นรอยแผลเป็นแม้แต่น้อย

การเตรียมตัวก่อน-หลังผ่าตัด

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
 

• เตรียมร่างกายให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ ทำร่างกายให้แข็งแรง
   
• ควรงดทานอาหารเสริมและวิตามิน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนผ่าตัด
   
• ควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่ก่อนเข้ารับผ่าตัด อย่างน้อย 2 สัปดาห์
   
• ในกลุ่มคนที่มีโรคประจำตัวหรือเคยมีประวัติแพ้ยา ควรแจ้งทางแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
   
• ควรเตรียมวันลาให้พร้อม เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นร่างกายอย่างน้อย 1-2 วัน 

การดูแลหลังผ่าตัด

• ควรนอนให้ศีรษะอยู่ในระดับสูง หรือ นั่งหลับ เพื่อลดภาวะอาการบวมในช่วง 1-2 วันแรก 

• ควรประคบเย็นหลังผ่าตัด ในช่วงระยะเวลา 1-2 วันแรก โดยระมัดระวัง ไม่ให้แผลสัมผัสกับน้ำ แต่ถ้าหากมีเลือดซึมบริเวณแผล สามารถใช้ผ้าก๊อซ เช็ดและกดบริเวณแผลได้ เพื่อให้แผลแห้ง

• ควรทานอาหาร ทานยา และปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อไม้ให้เกิดการอักเสบของแผล และแผลหายไวขึ้น

• ในวันที่สามจะเริ่มมีอาการบวมช้ำ มีรอยเขียว แนะนำให้ประคบร้อนสลับกับประคบเย็น เพื่อลดอาการบวมลง

• หากต้องทำกิจวัตรประจำวัน หรือออกไปข้างนอก แนะนำให้ใส่แว่นกันแดดทุกครั้ง เพื่อป้องกันแสงแดด และฝุ่น รวมถึงสิ่งสกปรกขนาดเล็ก

• มาตามนัดของแพทย์ เพื่อติดตามอาการ และทำการตัดไหม ในระยะเวลา 5-7 วัน

ตัวอย่างเคสคนไข้ที่ทำตาสองชั้น

รายการศัลยกรรม

• ปรับกล้ามเนื้อตา

• ปรับโครงหน้ายุบโหนก + วีไลน์

• ปรับโครงสร้างจมูก

รายการศัลยกรรม

• ปรับกล้ามเนื้อตาแบบกรีด

• ปรับโครงหน้า 3 มิติ

• ดูดไขมันเหนียง

• ปรับโครงสร้างจมูก

รายการศัลยกรรม (การทําตาสองชั้น สำหรับผู้ชาย)

• ปรับกล้ามเนื้อตา + แก้ไขชั้นตา

• ปรับโครงหน้า 3 มิติ

• ลดขนาดฐานจมูก

ทำตาสองชั้น อันตรายและมีความเสี่ยงไหม

การทำตาสองชั้นเปรียบเหมือนการผ่าตัดเล็ก แต่ให้ความสำคัญกับเรื่องความละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก เพราะหากเบี้ยวเอียง ไม่สมดุลจะแก้ไขได้ยาก จึงต้องเลือกคุณหมอเป็นอย่างดีที่ใส่ใจ และประณีตในการผ่าตัด แต่ถ้าถามว่าอันตรายมั้ย ก็ไม่เลยค่ะ เนื่องจากการผ่าตัดที่เกาหลี จะใช้ห้องผ่าตัดที่ปลอดเชื้อ 100% แถมยังมีอุปกรณ์ครบครัน และหมอที่มีประสบการณ์การผ่ามากมากอีกด้วย

ทำตาสองชั้น กี่วันหาย ใช้เวลากี่เดือนถึงจะเข้าที่ ?

ช่วง 5 -7 วันแรก คุณหมอจะทำการตัดไหมให้ แต่ในช่วงนี้ ดวงตาจะยังมีอาการบวมอยู่ จะยังรู้สึกว่าตาของเราแข็ง และยังไม่เป็นธรรมชาติ เนื่องจากเนื้อเยื่อภายใน ยังเป็นแผล และยังไม่หายสนิท ซึ่งระยะเวลาของตาเข้าที่ อย่างน้อยที่สุด ใช้เวลา 1- 3 เดือน แต่สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติทันทีหลังการตัดไหม สามารถพบเจอผู้คนได้ตามปกติ และจะธรรมชาติขึ้นเมื่อผ่านไปประมาณ 3 เดือนค่ะ

สรุป งบประมาณในการทำศัลยกรรมตาสองชั้นแบบเกาหลี

แน่นอนว่า การผ่าตัดที่เกาหลี ย่อมมีราคาที่สูงกว่าไทย 3 - 4 เท่าด้วยกัน งบที่ต้องเตรียม ขึ้นอยู่กับความต้องการผ่าตัดของคนไข้  ซึ่งมีตั้งแต่ 90,000 - 300,000 บาท ขึ้นกับประเภทของศัลยกรรมตา ความยากง่ายในแต่ละเคส

• ตาสองชั้นแบบกรีด / ไม่กรีด 90,000 – 100,000 บาท

• เปิดหัวตา – เปิดหางตา – เปิดหางตาล่าง 45,000 – 60,000/จุด

• ปรับกล้ามเนื้อตา (บางทีเรียกเบิ่งตาโต) 120,000 – 150,000

• เอนโดไทน์ 180,000 – 210,000 บาท

• ยกกระชับใต้ตา 90,000 – 120,000 บาท

• เอาถุงใต้ตาออก 60,000 – 75,000 บาท

• Sub eyebrow 90,000 – 120,000 บาท
•