ไลฟ์สไตล์

แพทย์ความงามแนะ วิธีรับมือ 'PM2.5' สาเหตุของการเกิดสิว และผิวแพ้ง่าย

แพทย์ความงามแนะ วิธีรับมือ 'PM2.5' สาเหตุของการเกิดสิว และผิวแพ้ง่าย

19 ก.พ. 2566

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะวิธีรับมือกับมลภาวะ และ 'PM2.5' สาเหตุของการเกิดสิวและผิวแพ้ง่าย

มลภาวะทางอากาศทำร้ายสุขภาพคุณมากกว่าที่คิด หนึ่งในมลพิษที่ลอยในอากาศ ที่เป็นปัญหาใหญ่และยากจะจัดการได้อย่าง PM2.5 หรือฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทุกปี นับเป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญในชีวิตประจำวันที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ และส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ และสุขภาพผิวโดยตรง โดย ฝุ่น PM2.5 จะไปทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่น กับชั้นฟิล์มไขมันเคลือบผิว ทำหน้าที่เสมือนเกราะปกป้องผิวให้เกิดการระคายเคือง อักเสบ อุดตัน นำมาซึ่งปัญหาผิว อาทิ สิว ริ้วรอย รวมถึงความหมองคล้ำ ดังนั้นการทำความสะอาดผิวจึงเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับดูแลและเตรียมผิวให้พร้อมก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการฟื้น บำรุงผิวต่อไป

 

 

 

‘ธัญ’ (THANN) แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผมจากสารสกัดธรรมชาติ จึงร่วมกับ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แพทย์หญิงอวิกา รงค์ทอง แนะวิธี “รับมือกับมลภาวะและ PM2.5 สาเหตุของการเกิดสิวและผิวแพ้ง่าย”

 

แพทย์หญิงอวิกา รงค์ทอง

 

แพทย์หญิงอวิกา แนะนำว่า มลภาวะและ ฝุ่น PM2.5 ยังคงเป็นปัญหาต่อเนื่องที่เราต้องเผชิญในปัจจุบัน และมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากจะก่อให้เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือดแล้ว ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดการเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น ซึ่งมลภาวะและ PM2.5 สามารถจับตัวกับสารเคมีและโลหะหนักต่างๆ ในอากาศ เมื่อสัมผัสกับผิวหนังจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานของเซลล์ผิวทำให้เกิดความผิดปกติกับกลไกการปกป้องผิวจากสภาพแวดล้อมภายนอก รวมถึงส่งผลต่อกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ผิว โดยจะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของเซลล์ผิว และทำให้ภูมิต้านทานของผิวแย่ลง ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย เกิด สิว อาการแดงคัน ระคายเคือง ริ้วรอย และจุดด่างดำ ในบางรายอาจเกิดลมพิษขึ้นบริเวณใบหน้า

 

เนื่องจาก ฝุ่น PM2.5 มีขนาดเล็กกว่ารูขุมขนถึง 20 เท่า จึงสามารถแทรกซึมเข้าสู่รูขุมขนได้ง่าย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผิวหนังขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้นและระยะเวลาที่ผิวสัมผัสกับฝุ่น PM2.5 สามารถแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ

 

  • ระยะเฉียบพลัน ก่อให้เกิดอาการอักเสบ ระคายเคืองของผิว ทำให้ผิวเสียสมดุลความชุ่มชื้น เนื่องจากฝุ่น PM2.5 สามารถทำลายเซลล์ผิวชั้นนอก หรือชั้นหนังกำพร้าและทำลายโปรตีนฟิลแลกกริน ที่มีหน้าที่ป้องกันผิวหนัง
  • ระยะเรื้อรัง PM2.5 กระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระรบกวนการทำงานของเซลล์ผิว ทำให้ผิวเสื่อมเร็วกว่าปกติ ทำลายคอลลาเจน ผิวจึงเกิดความเหี่ยวย่น ริ้วรอย รวมถึงกระตุ้นให้ผิวผลิตเม็ดสีซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ

 

หากสัมผัสฝุ่น PM2.5 เพียง 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ช่วงเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของผิวหนังได้แล้ว และหากต้องเผชิญกับฝุ่นละอองระดับ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะก่อให้เกิดภาวะความชราของผิว รวมถึงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของผิวลดลง

 

สำหรับคนที่มีสภาพผิวมัน อาจพบปัญหาการอุดตันของรูขุมขน ทำให้เป็น สิว ได้ง่ายขึ้น รวมถึงคนที่มีสภาพผิวอ่อนแอและแพ้ง่าย ผิวมักจะเกิดผด ผื่น ร่วมกับอาการคันและระคายเคืองได้ง่าย นอกจากผิวหน้าแล้ว ผิวบริเวณอื่นของร่างกายอย่างข้อพับก็สามารถเกิดผื่นแดงคันได้ด้วยเช่นกัน

 

การป้องกันผลกระทบจากมลภาวะและ ฝุ่น PM2.5 นอกจากการสวมหน้ากากอนามัยแล้ว ควรอาบน้ำชำระร่างกายเมื่อกลับเข้าที่พักทันที รวมถึงให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดผิวหน้าเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้ที่แต่งหน้าควรล้างคราบเครื่องสำอางบนผิวให้สะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีความอ่อนโยนและเหมาะกับแต่ละสภาพผิว สามารถใช้ร่วมกับมาส์กที่มีคุณสมบัติในการดูดซับสิ่งสกปรกตกค้างและความมันส่วนเกินของผิว สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ควรปรับสภาพผิวและกระชับรูขุมขนด้วยการใช้โทนเนอร์หลังการล้างหน้าทุกครั้ง นอกจากจะเป็นการทำความสะอาดหลังการล้างหน้าแล้วยังถือเป็นเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับขั้นตอนรับการบำรุงต่อไปอีกด้วย

 

ส่วนเกณฑ์การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างทำความสะอาดผิวหน้า นอกจากคุณสมบัติในการทำความสะอาดผิวแล้ว ควรมีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการบำรุงและปกป้องผิวด้วย เช่น สารสกัดจากชิโซะ ที่มีความโดดเด่นในด้านการให้ความชุ่มชื้น ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวจากความแห้งกร้านและการเสื่อมสภาพของผิว อีกทั้งยังช่วยยับยั้งกระบวนการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส ในกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน, น้ำมันข้าว อุดมด้วยกรดไขมันที่เป็นประโยชน์, วิตามิน อี และสารแกมม่าออริซานอล มอบความชุ่มชื้นพร้อมคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระทรงประสิทธิภาพ ปกป้องผิวจากมลภาวะเป็นต้น

 

นอกจากนี้ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งผัก ผลไม้หลากสี รวมถึงงดการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยสามารถปรับเปลี่ยนมาออกกำลังในร่มแทน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ควรดื่มน้ำสะอาดในระหว่างวันให้มากๆ รวมถึงหมั่นสังเกตตัวเองอยู่เสมอ หากผิวเกิดตุ่มผื่นที่มีลักษณะนูนแดง กระจายบนผิวหนัง รอบดวงตา มีอาการตาแดง เปลือกตาบวม มีน้ำตาไหล ใต้ตาช้ำมีสีคล้ำร่วมกับอาการที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น อาการคัน แน่นในโพรงจมูก แน่นหน้าอก ไอ จาม มีน้ำมูกใสๆ อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนถึงอาการแพ้ฝุ่น PM2.5 ดังนั้นควรรีบเข้าพบแพทย์ทันที