Lifestyle

ทำความรู้จักเทคนิคการแก้จมูก แบบไหนดี เลือกแก้กับที่ไหนได้บ้าง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลายคนที่เคยเสริมจมูกมาแล้ว อาจจะมีทั้งท่านที่สมหวังและผิดหวังกับการเสริมจมูก ยิ่งบางท่านที่เสริมจมูกมาแล้วมีปัญหาที่แก้ไม่ตก ไม่อยากแก้จมูกบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ

หลายคน ที่เคยเสริมจมูกมาแล้ว อาจจะมี ทั้งท่านที่สมหวังและผิดหวัง กับการเสริมจมูก ยิ่งบางท่านที่เสริมจมูกมาแล้ว มีปัญหาที่แก้ไม่ตก ไม่อยากแก้จมูกบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ แต่ก็ยังไม่รู้จะแก้จมูกที่ไหนดี ราคาไม่แพง และเลือกโรงพยาบาล และคุณหมอท่านไหน อีกทั้งยังมีเรื่องของเทคนิคการแก้ไขแบบไหนที่จะเหมาะ และเข้ากับร่างกายเรา การแก้ครั้งเดียวจบให้จบ จึงควรศึกษาหาข้อมูลในหลายๆอย่าง! บทความความนี้ มีคำตอบให้ค่ะ

ปัญหาที่ทำให้หลายคนอยากแก้จมูก

1. ปัญหาจมูกเอียง 

ปัญหาเรื่องจมูกเอียง เป็นปัญหาที่พบเจอมากที่สุดในบรรดาคนที่ทำจมูก เพราะด้วยโครงสร้างจมูกที่ซับซ้อน และอยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางของใบหน้า ทำให้เป็นที่สังเกตได้ง่าย ว่าจมูกมีความเอียง ซึ่งสาเหตุ ที่ทำให้จมูกเอียงนั้น เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น เทคนิคในการทำจมูก การดูแลจมูกหลังการผ่าตัด โครงสร้างจมูกเดิมของคนไข้ หรือสาเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด คือ การใช้ซิลิโคนแบบสำเร็จรูป ซึ่งซิลิโคนแบบสำเร็จรูปนั้น ไม่ได้ทำมาเพื่อโครงสร้างจมูกสำหรับทุก ๆ คน ทำให้คนที่เสริมจมูกมาด้วยวัสดุนี้ พบปัญหาการเบี้ยวเอียง ซิลิโคนลอยอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงความเชี่ยวชาญของคุณหมอ ในการผ่าตัดการเลาะช่องโพรงจมูก เพื่อเสริมจมูกให้อยู่ตรงกึ่งกลางใบหน้า ไม่เบี้ยว ไม่เอียง ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก และสำคัญที่สุดในการทำจมูก เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างมากมาย ที่ทำให้เกิดโอกาสที่จมูกจะเอียงได้ตลอดเวลา  

 

2. ปัญหาจมูกติดเชื้อ

สาเหตุหลักของการที่จมูกติดเชื้อนั้น แน่นอนว่า ขึ้นอยู่กับการรักษาความสะอาดนั่นเอง โรงพยาบาล หรือคลินิกที่รับทำการผ่าตัดนั้น จะต้องให้ความสำคัญเรื่องความสะอาดของอุปกรณ์ และคนไข้เป็นอันดับหนึ่ง เรียกได้ว่าต้อง sterilization เครื่องมือทุกชิ้น มีการวางระบบของห้องผ่าตัดไว้อย่างดี ต้องปลอดเชื้อเสมอ และเลือกวัสดุเกรดคุณภาพสำหรับใช้กับคนไข้ ถ้าไม่อย่างงั้นคนไข้ก็จะมีปัญหาจมูกติดเชื้อตามมา ซึ่งปัญหาการติดเชื้อนี้ต้องใช้ระยะเวลาในการดูแลรักษา ซึ่งตัวเชื้ออาจจะกัดกินเนื้อจมูกไปไม่มากก็น้อย รวมถึงตัวคนไข้ที่จมูกเองต้องงดการทานอาหารดิบ อาหารที่ไม่สะอาด รวมถึงปลาร้า ของหมัก ของดองต่างๆ ซึ่งมักทำให้เกิดภาวะอักเสบในร่างกายเราได้

3. ปัญหาจมูกทะลุ ซิลิโคนทะลุ

ด้วยโครงสร้างจมูกของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน รวมไปถึงความยืดหยุ่นของเนื้อจมูกที่บางคน อาจจะยืดได้มาก บางคนอาจจะยืดได้น้อย การเสริมจมูกด้วยวัสดุแปลกปลอมอย่างซิลิโคน อาจทำให้เกิดปัญหาจมูกทะลุได้ หากเราฝืนใส่โด่งมากจนเกินไป เกินกว่าที่เนื้อจมูกของตนเองจะรับไหว หรืออาจเกิดได้จากการที่เราแก้จมูกบ่อย ๆ พยายามเสริมให้มีความโด่งพุ่งมากขึ้น จนทำให้เนื้อปลายจมูกมีความบางใส และพอเกิดการรัดจากพังผืดมากเข้า ก็จะเกิดการทะลุได้ ซึ่งในกรณีที่มีความเสี่ยงว่าจมูกจะทะลุ เราต้องรีบนำซิลิโคนที่เสริมอยู่ออกทันที เพื่อกันการเกิดเนื้อเสีย และยังคงรูปจมูกปกติได้ ไม่ให้เกิดรอยแผลเป็น รอยบุ๋ม หลังจากนั้นทำการพักฟื้นจมูกประมาณ 3-6 เดือน เพื่อให้เนื้อจมูกฟื้นคืนตัว และสามารถแก้เสริมได้อีกครั้ง

 

4. รูปทรง ไม่สวย ไม่ธรรมชาติ ไม่โด่งพุ่งเท่าที่ต้องการ

ปัญหาที่พบมากที่สุดรองลงมา จากจมูกเบี้ยวเอียง คือ รูปทรงไม่สวย ไม่เป็นธรรมชาติ หรือไม่เป็นดั่งใจ ไม่โด่งเท่าที่ต้องการ ซึ่งในกรณีนี้ เบื้องต้นเราต้องทำความเข้าใจร่างกายของตัวเองก่อนว่า โครงสร้างจมูกของเรา สามารถเสริมได้มากน้อยแค่ไหน เพราะถ้าหากไปเปรียบเทียบกับจมูกของคนอื่น ยังไงเราก็จะไม่พอใจในจมูกของตัวเองเสียที เพราะเนื่องจากโครงสร้างเราไม่เหมือนกันนั่นเอง การเลือกหมอก็สำคัญเช่นกัน เนื่องจากแต่ละท่านมีเทคนิคในการผ่าตัด ที่แตกต่างกันออกไป และมีทรงที่ถนัดเป็นของตัวเอง รวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุให้เหมาะสม ก็จะทำให้ทรงจมูกของเราสวยธรรมชาติมากขึ้นได้  

 

5. ปัญหารูจมูกไม่เท่ากัน

เช่นเดียวกับ ปัญหาการเบี้ยวหรือเอียง เนื่องจาก ขึ้นอยู่กับฐานจมูก และโครงสร้างเดิมของใบหน้าด้วย จึงเป็นไปได้ยาก ที่รูจมูกของคนเรา จะเท่ากันเป๊ะ ๆ ให้เราลองมองเป็นภาพรวมทั้งใบหน้า ว่ารูจมูกมันไม่เท่ากันจนเห็นเด่นชัด เป็นที่สังเกตุเลยหรือเปล่า หากเป็นดังนั้น เราค่อยปรึกษาคุณหมอเพื่อหาทางแก้ไข แต่หากไม่เท่ากันนิดหน่อย ก็เป็นเรื่องธรรมชาติ

 

6. ปัญหาจมูกสั้น หรือจมูกยาวเกินไป

สำหรับบางท่านที่ประสบกับปัญหาจมูกทำมาแล้วสั้นเกินไป หรือยาวเกินไป การแก้ไขโดยการผ่าตัดแบบโอเพ่น (Open) น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เนื่องจากการแก้แบบโอเพ่นนั้น จะทำให้คุณหมอสามารถเข้าไปปรับแก้โครงสร้างจมูกของเราได้ทั้งหมด วิเคราะห์ได้ว่าจมูกเราสามารถเติม หรือลดอะไรได้อีกบ้าง และจะใช้วัสดุอะไร ในการเติมเต็มเข้าไป

 

นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายปัญหามากมายที่หลายคนเป็นกังวล และเข้าไปปรึกษาคุณหมอเพื่อขอแก้จมูก ซึ่งอาจจะต้องวิเคราะห์เป็นรายบุคคลไป ว่าสามารถแก้ไขปัญหาอย่างไรได้บ้าง โดยปัจจุบันนี้หลาย ๆ โรงพยาบาล ก็มีเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือ CT Scan กันก่อนเลย ว่ารายละเอียดโครงสร้างภายในเป็นอย่างไร และการแก้จมูก ยังอยู่ขึ้นกับความพึงพอใจของคนไข้นั้น ๆ อีกด้วย 

 

 

แก้จมูกด้วยวัสดุไหนดีอย่างไร (ซิลิโคน / กอร์เท็กซ์/เนื้อเยื่อเทียม) 

  • ซิลิโคน (Silicone)

ซิลิโคน เป็นวัสดุพื้นฐานของการแก้จมูก ซึ่งมีข้อดี คือ มีความคงรูป ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังคงรูปเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนข้อเสีย ของการใช้ซิลิโคน คือ ปลายจมูก มักจะเกิดการเสียดสี และเกิดแรงกด กับเนื้อปลายจมูก ทำให้ปลายจมูกตึง บาง  ซึ่งเป็นสาเหตุ ที่สามารถทำให้เนื้อปลายจมูกทะลุได้ ยิ่งในคนที่มีเนื้อจมูกน้อย ยิ่งต้องระวัง ดังนั้นซิลิโคน จึงเหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกมากเพียงพอ และเหมาะกับการใช้เสริมบริเวณสันจมูกเท่านั้น

 

  • กอร์เท็กซ์ (Gore-Tex)

กอร์เท็กซ์ หรือ ePTFE เป็นวัสดุทางการแพทย์ที่นิยมใช้ทำหลอดเลือดเทียม ซึ่งตัวกอร์เท็กซ์นี้ สามารถยึดติดกับเนื้อเยื่อโดยรอบของร่างกายได้เป็นอย่างดี จึงเชื่อกันว่าการใช้กอร์เท็กซ์ ในการเสริมจมูกแทนซิลิโคน จะสามารถช่วยยึดติด เป็นเนื้อเดียวกับจมูกได้ดีเช่นกัน และสามารถป้องกันการเบี้ยวเอียงได้ แต่กอร์เท็กซ์นี้พอใช้นาน ๆ ไปจะเกิดการยุบตัวลง ทำให้สันจมูกไม่โด่งเป็นทรงสวยอย่างที่ได้เสริมตอนแรก ๆ และถ้าหากเกิดเหตุสุดวิสัย ต้องผ่าตัดแก้ไขขึ้นมา จะเอาออกค่อนข้างยาก และถ้าเกิดการติดเชื้อ มักจะมีอาการรุนแรงมากกว่าการใช้ซิลิโคน

 

  • เนื้อเยื่อเทียม

เนื้อเยื่อเทียม เป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติเหมือนหนังแท้ของตัวเอง แต่ได้มาจากผิวหนังของผู้อื่น (ผู้บริจาค) แล้วไปผ่านกระบวนการทางการแพทย์ เพื่อเอาเซลล์เก่าออกให้หมด มักจะนำมาใช้ในการแก้ไขจมูก หรือเสริมบริเวณที่มีปัญหาเนื้อจมูกบาง ซึ่งสามารถใช้เสริมได้ ทั้งส่วนสันจมูกและปลายจมูก หรือสามารถเอามาคลุมซิลิโคนบริเวณปลายจมูกเพื่อป้องกันการทะลุได้ 

 

 

แก้จมูก ด้วยวัสดุจากร่างกายตัวเอง มีอะไรบ้าง ?

แก้จมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู

กระดูกอ่อนหลังหู  คือ กระดูกอ่อนที่อยู่บริเวณส่วนกึ่งกลางของใบหู มีขนาดประมาณ 2 เซนติเมตร มีความแข็งแรง โดยหมอจะผ่าตัดนำออกมา และตัดแต่งเป็นวงกลม เย็บติดกับปลายซิลิโคน ที่ใช้ในการเสริมจมูก ซึ่งการแก้จมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหูนั้น เป็นหนึ่งในเทคนิค เพื่อแก้ทรงจมูกให้โด่งขึ้น โดยเฉพาะในเคสที่มีผิวหนังปลายจมูกบาง จมูกสั้น เพราะการเสริมด้วยซิลิโคนอย่างเดียว อาจเกิดปัญหาปลายทะลุขึ้นมาได้ จึงต้องนำกระดูกอ่อนหลังหู มารองปลายจมูก เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยง และช่วยเพิ่มความหนาของเนื้อบริเวณดั้ง

 

ข้อดี ของการแก้เสริมจมูกอ่อนด้วยกระดูกหลังหู

  • เป็นเนื้อเยื่อของเราเอง ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม  แต่เป็นวัสดุจากร่างกายของคนไข้เอง จึงลดโอกาสในการแพ้ได้
  • ช่วยเพิ่มความพุ่งโด่งของปลายจมูก เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อจมูกน้อย
  • ลดปัญหาของการอักเสบ การติดเชื้อ และยังป้องกันการทะลุได้อีกด้วย
  • ช่วยให้ได้รูปทรงของจมูกที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ มากกว่าการเสริมจมูกด้วยซิลิโคน
  • สามารถใช้ในเคสแก้ไขจมูกได้

 

 

- แก้จมูกด้วยกระดูกอ่อนซี่โครง

อีกหนึ่งวัสดุ ที่มาจากร่างกายของเรา ที่สามารถใช้เสริม หรือแก้จมูกได้ คือ กระดูกอ่อนซี่โครง ซึ่งการใช้กระดูกอ่อนซี่โครง เป็นการศัลยกรรมแก้จมูก ที่ใช้กระดูกอ่อนจากในร่างกายของคนไข้เอง การทำศัลยกรรมชนิดนี้ สามารถใช้กระดูกอ่อนซี่โครงภายในร่างกาย 100% หรือผสมผสานการใช้ซิลิโคนเสริมจมูกบางส่วนด้วยก็ได้ เพื่อความเป็นธรรมชาติสูงสุด และป้องกันการเกิดผลข้างเคียง โดยในการเก็บกระดูกอ่อนซี่โครงจากร่างกายคนไข้ แพทย์จะทำการผ่ากรีดยาว 2-3 ซม. บริเวณใต้ราวนม ซึ่งรอยแผลเป็นจากการผ่ากรีด จะจางไปภายในไม่กี่เดือน และจากนั้นกระดูกอ่อนซี่โครง จะถูกนำมาใช้สำหรับการแก้ไขคนที่มีจมูกทรงสั้น หรือใช้ในการเพิ่มความสูง ของแกนกลางจมูก เพิ่มความยาวของรูปทรงจมูก และเพิ่มความพุ่งของปลายจมูก นอกจากนี้ยังใช้ในการสร้างความสมดุล ให้กับใบหน้าได้อีกด้วย 

 

ข้อดี ของการแก้จมูกอ่อนด้วยกระดูกซี่โครง

  • เป็นเนื้อเยื่อของเราเอง จึงลดความเสี่ยงเรื่องอาการแพ้ได้ 
  • เหมาะสำหรับเคส ที่มีกระดูกอ่อนหลังใบหู ไม่เพียงพอที่จะนำมาใช้ 
  • สามารถใช้ส่วนของกระดูกอ่อนซี่โครง ในการทำจมูกแทนซิลิโคนได้ ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
  • รอยแผลเป็นมีขนาดเล็ก และซ่อนอยู่ใต้ราวนม
  • กระดูกอ่อนซี่โครง จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของจมูกไปโดยปริยาย ราวกับว่าคุณเกิดมามีโครงสร้างจมูกที่แข็งแรงอยู่แล้ว

 

 

- แก้จมูกด้วยเนื้อเยื่อก้นกบ

อีกส่วนหนึ่งของร่างกายที่สามารถนำมาใช้ในการเสริม หรือแก้ไขจมูกได้ คือ เนื้อเยื้อก้นกบ ซึ่งการใช้เนื้อเยื่อก้นกบ ถือเป็นเทคนิคพิเศษ เปรียบเสมือนการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อของตนเองเลยทีเดียว  เนื้อเยื่อก้นกบ มีคุณสมบัติที่สามารถช่วยยืดจมูก ให้ดูยาวขึ้นได้ ช่วยเพิ่มมิติ ทำให้ได้ทรงปลายพุ่ง แก้ปัญหา คนที่ปลายจมูกบาง จมูกเนื้อน้อย และป้องกันการเกิดปลายทะลุ ปลอดภัยกว่าในระยะยาว และหากเสริมในปริมาณวัสดุที่เหมาะสม จะยิ่งทำให้ผู้ที่มีปลายจมูกน้อย สามารถเสริมปลายจมูกพุ่ง ได้ตามที่ต้องการ จึงเป็นอีกหนึ่งวัสดุจากร่างกาย ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันกับการเสริมจมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู ซึ่งการเสริมจมูกด้วยเนื้อก้นกับ จะผ่าตัดนำเนื้อเยื่อบริเวณก้นกบ มาใช้เสริมบริเวณฐาน ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการปลายทะลุได้ นอกจากนี้ยังเนียน ไม่เห็นขอบของเนื้อเยื่อที่อยู่บริเวณปลายจมูก แผลเย็บซ่อนไว้ด้านในจึงมองไม่เห็น

 

ข้อดี ของการแก้จมูกด้วยเนื้อเยื่อก้นกบ

  • เป็นเนื้อเยื่อของตนเอง ไม่ก่อให้เกิดการต่อต้านจากร่างกาย
  • ยืดปลายจมูกได้ยาวขึ้น ทำให้ได้ทรงที่พุ่งสวยธรรมชาติ
  • ลดปัญหาการทะลุ มีความปลอดภัยสูง
  • อยู่ได้ตลอดชีวิต

 

 

เลือกรพ.แก้จมูกที่ไหนดี เลือกให้ดี ได้จมูกปังแน่นอน

- โรงพยาบาล HANABI

โรงพยาบาล HANABI

HANABI เป็นคลินิกที่ประกอบกิจการศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะทางด้านการทำจมูก มุ่งเน้นการดึงเอกลักษณ์ และความงามที่ซ่อนอยู่บนใบหน้าของคนไข้ โดยมีศัลยแพทย์ Dr.Chang Guen –Uck ที่มีประสบการณ์ศัลยกรรมจมูก และแก้จมูก มามากกว่า 15 ปี ผ่านเคสคนไข้มา มากกว่า 1,000 เคส ทั้งดาราไทยและเกาหลี โดยคุณหมอเชี่ยวชาญด้านการเสริมจมูกแบบเปิด การใช้กระดูกอ่อนหลังใบหู หรือกระดูกซี่โครงในการแก้จมูก ต้องบอกว่าโรงพยาบาล HANABI นี้คิวแน่นตลอดทั้งปีท่านใดสนใจแก้จมูกต้องรีบติดต่อจองคิวไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ

 

 

- Dr. Ahn Tae Joo 

Dr. Ahn Tae Joo 

คุณหมออันแทจู (Dr.Ahn Tae Joo) ผู้บริหารและแพทย์จากคลินิกชื่อดังอย่าง SUI Plastic Surgery คุณหมอมีประสบการณ์อย่างมากในการวิเคราะห์ เพื่อดึงความโดดเด่นบนใบหน้าของคนไข้ออกมา  อีกทั้งยังเป็นผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ด้านศัลยกรรมจมูก ไม่ว่าจะเป็น การเสริมจมูกใหม่ให้สวยโด่งดูธรรมชาติ หรือคนไข้ที่ผ่านการเสริมจมูกมาแล้ว ต้องการแก้ไขปัญหาเพื่อให้จมูกดีขึ้น มีทรงสวยงามรับกับใบหน้ามากขึ้น ออกแบบทรงให้สวยเหมือนสาวเกาหลี โดยคุณหมอจะเน้นการออกแบบทรงจมูกให้เหมาะกับรูปหน้าของแต่ละคน เพื่อให้ภาพรวมออกมาสวยที่สุด  

 

 

- โรงพยาบาล Topclass 

โรงพยาบาล Topclass

อีกหนึ่งโรงพยาบาลชื่อดัง และกำลังมาแรงในขณะนี้คือ โรงพยาบาล Top Class Plastic Surgery เนื่องมีคุณหมอ จอน ยง-ฮุน ผู้เชี่ยวชาญด้านการเสริมจมูก และแก้ไขจมูกเป็นอย่างมาก การันตีด้วยประสบการณ์การผ่าตัดคนไข้ที่นับไม่ถ้วน โรงพยาบาลนี้ ยังให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของคนไข้เป็นอันดับแรก ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ 100% เพื่อความงาม และสุขภาพร่างกายที่ดีของคนไข้นั่นเอง รับรองได้ว่ามาแก้จมูกที่นี่ที่เดียว จบแน่นอน!

 

 

- View Plastic Surgery

View Plastic Surgery

ถ้าพูดถึงเรื่องการแก้จมูก พลาดไม่ได้ที่จะไม่พูดถึงโรงพยาบาลศัลยกรรมวิว ที่นี่ได้ยอมรับอย่างมากในประเทศเกาหลี และถึงแม้ว่าโรงพยาบาลวิว จะให้บริการศัลยกรรมครบวงจร แต่การแก้จมูกบอกเลยว่าสวยโดดเด่นไม่แพ้ที่อื่น ๆ เพราะโรงพยาบาลนี้ เน้นการศัลยกรรมให้ออกมาดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ สวยไม่โป๊ะ อยากได้ทรงจมูกสาวเกาหลี หรือสาวยุโรป คุณหมอก็จัดให้ได้ แถมยังผ่าตัดปลอดภัย ด้วยระบบห้องผ่าตัดที่ทันสมัยที่สุดอีกด้วย 

 

 

- ID hospital

ID hospital

โรงพยาบาลไอดี เป็นโรงพยาบาลเกาหลี ที่คนไทยนั้นคุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างดี ผ่านรายการทีวีโชว์ชื่อดัง ซึ่งประสบความสำเร็จในด้านการศัลยกรรม และมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมาก มีความพร้อมทางเครื่องมือแพทย์ที่ครบครันและทันสมัย โรงพยาบาลไอดี มีความโดดเด่นเรื่องการปรับโครงสร้างบนใบหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้จมูกด้วยกระดูกอ่อนหลังหู ที่ออกแบบทรงจมูกให้ละมุนรับกับใบหน้าได้เป็นอย่างดี ทำให้ใบหน้าดูมีมิติและสมดุลมากขึ้น การันตีด้วยคนไข้ส่วนใหญ่ที่มาแก้จมูกที่นี่ที่เดียวแล้วจบ

 

 

เทคนิคการผ่าตัดแก้จมูก แบบโอเพ่น 

การเสริมจมูกแบบเปิด หรือเสริมจมูกแบบ Open (Open Rhinoplasty) เป็นการผ่าตัดเปิดโครงสร้างจมูก ที่สามารถแยกผิวหนังออกจากโครงสร้างของจมูก ทำให้เห็นโครงสร้างได้อย่างชัดเจน คุณหมอจึงสามารถปรับโครงสร้างภายในของจมูกได้ทั้งหมด เพื่อแก้ไขความผิดปกติต่าง ๆ ได้ทุกปัญหา ไม่ว่าจะเป็น จมูกคด จมูกมีฮัมพ์ จมูกงุ้ม ปลายจมูกใหญ่ จมูกสั้น หรือต้องการให้จมูกโด่งมาก แต่ไม่สามารถใช้ซิลิโคนเพียงอย่างเดียวได้ จึงต้องใช้การผ่าตัดแบบเปิดเพื่อปรับองค์ประกอบอื่น ๆ ร่วมด้วย ซึ่งวิธีการนี้มักจะต้องใช้กระดูกอ่อน จากส่วนอื่นของร่างกาย เพื่อนำมาเป็นโครงสร้างของจมูกใหม่ โดยกระดูกอ่อนที่นิยมนำมาใช้ ได้แก่ กระดูกอ่อนหลังหู (Ear cartilage) หรือ กระดูกอ่อนซี่โครง (Costal cartilage) เนื่องจากจะช่วยยืดจมูกให้ปลายพุ่งสวยมากกว่าเดิม และป้องกันการทะลุได้ในระยะยาว 

 

 

การการดูแลตัวเองหลังแก้จมูก

 ขั้นตอนการดูแลตัวเอง หลังการศัลยกรรมผ่าตัดแก้จมูก

  • หลังแก้จมูก 24 ชั่วโมง หากมีอาการปวดศีรษะ ปวดบริเวณจมูก หรือบวมบริเวณใบหน้า สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ และต้องรับประทานยาแก้อักเสบตามที่แพทย์สั่งให้หมด
  • จมูกอาจจะมีอาการบวมมากที่สุด ในช่วงเวลาประมาณ 2 – 3 วันแรก ห้ามแคะ แกะ เกา หรือขยี้บริเวณจมูก สามารถแกะพลาสเตอร์ที่ปิดแผลไว้ออกได้ โดยแกะออกได้ตอนครบ 7 วัน โดยให้ใช้น้ำอุ่นค่อย ๆ เช็ดเบา ๆ
  • สามารถประคบผ้าเย็น หรือถุงน้ำแข็งได้ใน 7 วัน แรก รอบ ๆ บริเวณที่ติดเทปจมูก (ห้ามโดนส่วนที่ติดเทปเด็ดขาด) เพื่อลดอาการบวมหลังการผ่าตัดเสริมจมูก
  • ควรนอนโดยใช้หมอนรองคอให้ศีรษะสูง หรือนั่งหลับ เพื่อให้เลือดไม่คั่งในโพรงจมูก และหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ
  • หลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ที่มีฝุ่นละออง เพื่อป้องกันการไอหรือจาม รวมถึงหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงออกกำลังมาก เช่น การวิ่ง การว่ายน้ำ และควรหลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูก การขยี้จมูก และยกของหนัก เป็นต้น
  • งดรับประทานอาหารหมักดอง หรืออาหารที่มีรสเผ็ดจัด ที่ส่งผลต่อการอักเสบของแผล และทำให้แผลหายช้า
  • งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และหยุดการสูบบุหรี่ ในช่วง 1 เดือนแรกหลังแก้จมูก เนื่องจากมีผลต่อการสมานแผลให้ช้าลง
  • หากรู้สึกคันบริเวณจมูกให้ใช้คอตตอนบัด หรือสำลีชุบน้ำเกลือเช็ดอย่างเบามือ 
  • หลังวันที่ 7 หลังจากที่เรา แกะพลาสเตอร์แล้ว ให้ประคบอุ่นบริเวณรอบ เพื่อลดความบวม และความเขียวช้ำ
  • โดยปกติจมูกจะยุบบวม และเข้าที่ประมาณ 3 เดือนขึ้นไป ซึ่งเข้าที่ 90% – 100% ในระยะเวลา 3 – 6 เดือน

ขอบคุณแหล่งอ้างอิงจาก http://plasticsurg.info/?ckattempt=1 

ขอบคุณบทความจาก https://www.srsurgeryreview.com/

 

ตัวอย่างเคสคนไข้แก้ไขจมูก

ตัวอย่างเคสคนไข้แก้ไขจมูก

ตัวอย่างเคสคนไข้แก้ไขจมูก

ตัวอย่างเคสคนไข้แก้ไขจมูก

 

logoline