Lifestyle

รู้ข้อดี ข้อเสีย และผลข้างเคียง ก่อนตัดสินใจสวย ด้วยการ "ร้อยไหม"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ความงามและชะลอวัย ให้ความรู้เรื่อง "การร้อยไหม" ข้อดี ข้อเสีย ผลข้างเคียงเป็นอย่างไร ก่อนตัดสินใจ "ร้อยไหม"

หลายคนคงเคยมีประสบการณ์เรื่อง "ร้อยไหม" มาบ้างแล้ว แต่หลายคนอาจจะยังมีข้อสงสัยอยู่ ว่า การร้อยไหม นั้นดีอย่างไร? ทำไมคนถึงนิยมไปร้อยไหมกันเป็นจำนวนมาก ใบหน้าของเราควรที่จะต้องร้อยไหมหรือไม่ หลังทำไปจะมีผลข้างเคียงหรืออันตรายอะไรหรือเปล่า? ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจร้อยไหม “หมอส้ม” แพทย์หญิง ภคมน เดชส่งจรัส ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ความงามและชะลอวัย, ผู้อำนวยการการแพทย์ประจำ นภัสรีย์ คลินิก และเจ้าของเพจ “หมอส้มว่าสวย” ขอพาทุกคนมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อควรรู้ก่อนการร้อยไหมกัน

 

“หมอส้ม” แพทย์หญิง ภคมน เดชส่งจรัส

 

การร้อยไหมช่วยอะไรได้บ้าง

 

การ "ร้อยไหม" เป็นวิธียกกระชับผิวหน้า ช่วยแก้ปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย เก็บกระเปาะแก้ม ลดริ้วรอยเหี่ยวย่นเล็กๆ โดย การร้อยไหม ให้ละลายเข้าไปในชั้นผิว ทำให้เกิดการอักเสบน้อยๆ ของเนื้อเยื่อส่งผลให้ร่างกายกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่บริเวณรอบเส้นไหม และช่วยให้เลือดไหลเวียนมาเลี้ยงผิวหนังบริเวณดังกล่าวมากขึ้น เมื่อจำนวนคอลลาเจนในผิวมากขึ้น เลือดไหลเวียนดีขึ้น ผิวหน้าจึงดูแน่นขึ้น เต่งตึงขึ้น และการร้อยไหมยังช่วยยกกระชับกรอบหน้าที่หย่อนให้หน้ายก กรอบหน้าดูชัด และดูเรียวขึ้น

 

นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีการร้อยไหมยกคิ้วในเคสที่คิ้วตก หนังตาหย่อนคล้อย มีการร้อยไหมร่องแก้มเพิ่มเติมเต็มให้ร่องแก้มดูตื้นขึ้น และยังมีการร้อยไหมจมูกเพื่อช่วยให้จมูกดูโด่งสวย ทำให้ปีกจมูกมีขนาดเล็กลง ช่วยยกปลายจมูกให้ดูสูงขึ้นด้วย

 

รู้ข้อดี ข้อเสีย และผลข้างเคียง ก่อนตัดสินใจสวย ด้วยการ "ร้อยไหม"

 

การร้อยไหมเหมาะกับใครบ้าง

 

การ "ร้อยไหม" เหมาะกับคนที่อายุ 25 ปีขึ้นไป ที่เริ่มมีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อยไม่เต่งตึง ซึ่งเกิดได้จากการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนใต้ผิวหนัง และการสร้างคอลลาเจนที่น้อยลงตามอายุ ทำให้ผิวหลวม ไม่แน่น จนหย่อนคล้อยในที่สุด การเจอแสงแดดเยอะ ความเครียด นอนดึกมากๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน การไม่ได้ดูแลบำรุงใบหน้า ก็มีผลกับกระบวนการสร้างและทำลายคอลลาเจนในผิว การร้อยไหม เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า อยากให้ตัวเองดูดีและอ่อนเยาว์ขึ้น มีใบหน้าดูเรียวขึ้น หรือผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาแก้มหย่อนคล้อยโดยไม่ต้องผ่าตัด และเห็นผลรวดเร็ว

 

 

เส้นไหมมีกี่แบบต่างกันอย่างไร

รู้ข้อดี ข้อเสีย และผลข้างเคียง ก่อนตัดสินใจสวย ด้วยการ "ร้อยไหม"

การร้อยไหมมีหลายแบบ ขึ้นอยู่ชนิดของเส้นไหม รูปแบบของไหม และเทคนิคการร้อยที่ใช้ หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า ไหม PDO ไหมเงี่ยง ไหมก้างปลา ไหมกุหลาบ ไหมทอนาโด ไหมอิตาลี ไหมมิ้น ไหมอัลตร้าวี  เป็นต้น  แต่ละบริษัท แต่ละคลินิกก็จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป ในทางการแพทย์เราสามารถแบ่งประเภทของเส้นไหมที่เป็นที่นิยมอยู่เป็น 2 แบบ คือ ไหมเรียบ และไหมที่มีเงี่ยง

 

 

ไหมเรียบ มีลักษณะเป็นเส้นไหมสั้นๆ ความยาวไม่เกิน 10 เซนติเมตร

  • ข้อดี : ช่วยทำให้ผิวแน่น เฟิร์ม ลดริ้วรอยเล็กๆที่เกิดจากคอลลาเจนเสื่อมสภาพได้ เน้นยกกระชับผิวในชั้นหนังแท้ และกระตุ้นคอลลาเจนได้ดีกว่าไหมเงี่ยง
  • ข้อเสีย : ฤทธิ์ในการยกดึงใบหน้าค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับไหมเงี่ยง เนื่องจากตัวไหมไม่มีเงี่ยง จึงไม่สามารถล็อคกับเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังได้ และต้องใช้จำนวนเส้นมาก

 

 

ไหมเงี่ยง หรือไหมก้าง จะมีลักษณะเส้นที่ค่อนข้างใหญ่ เส้นไหมจะมีเงี่ยงยื่นออกมา มีทั้งรุ่นเงี่ยง 1 ทิศทาง และ 2 ทิศทาง ช่วยในการล็อคเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังและเป็นแกนหลักในการช่วยพยุงแก้มขึ้น

  • ข้อดี : เห็นความแตกต่างทันที และเห็นผลชัดเจนในเวลา 1 เดือนหลังร้อยไหม ใช้จำนวนเส้นไหมน้อยกว่าในการยกกระชับใบหน้า เพราะเส้นไหมมีขนาดใหญ่และส่วนที่เป็นเงี่ยงนั้นสามารถล็อคเนื้อเยื่อได้ดีกว่าไหมเรียบ ช่วยยกดึงใบหน้าได้ดี กว่าทำให้กรอบหน้าชัดตึงได้ทันที
  • ข้อเสีย :  เนื่องจากไหมเส้นใหญ่กว่า หากเทคนิคการร้อยไม่ถูกต้องอาจมีโอกาสคลำเจอเส้นไหมบริเวณที่ร้อย หรือหากร้อยไหมตื้นเกินไปอาจทำให้ใบหน้าบุ๋ม หรือเป็นคลื่นได้ง่ายกว่าไหมเรียบ

 

ทั้งนี้การร้อยไหมเรียบและไหมเงี่ยงนั้นสามารถทำพร้อมกันในครั้งเดียวได้ เพราะไหมก้างจะช่วยยกดึงใบหน้าที่หย่อนคล้อย ส่วนไหมเรียบจะทำให้ผิวที่หลวมตามอายุกลับมาแน่น ฟู ตึงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจะช่วยเสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน

 

 

ร้อยไหม ต้องใช้กี่เส้น

 

 

จำนวนของเส้นไหมนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของเส้นไหม ขนาดของเส้นไหมและขนาดของใบหน้า สำหรับการร้อยไหมเงี่ยง หากคนไข้ที่มีใบหน้าใหญ่จะใช้ไหมประมาณ 20 เส้น ส่วนคนไข้ที่มีใบหน้าเล็ก จะเริ่มต้นประมาณ 4-6 เส้น ส่วนการร้อยไหมเรียบนั้น สามารถร้อยได้ทั่วใบหน้าเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน มักใช้มากกว่า 20 เส้น แต่มักจะไม่เกิน 100 เส้น

 

รู้ข้อดี ข้อเสีย และผลข้างเคียง ก่อนตัดสินใจสวย ด้วยการ "ร้อยไหม"

 

ร้อยไหมอยู่ได้นานแค่ไหน

 

ระยะเวลาการยกกระชับขึ้นอยู่กับชนิดและลักษณะของเส้นไหมที่ร้อย และสามารถทำซ้ำได้เมื่อเส้นไหมละลายหมดแล้ว เริ่มรู้สึกว่าใบหน้าเริ่มหย่อนคล้อยไม่เต่งตึง หากครบระยะเวลาแล้วรู้สึกว่าใบหน้ายังเต่งตึงอยู่ก็ยังไม่จำเป็นต้องร้อยซ้ำทันที

 

  • การร้อยไหมเงี่ยง เห็นผลหลังร้อยทันทีประมาณ 50% ของฤทธิ์ทั้งหมด โดยจะเห็นผลการยกกระชับครบ 100% เมื่อไหมละลายหมดที่ 1-3 เดือน ไหมเงี่ยงที่เป็นวัสดุ PDO สามารถยกอยู่ได้นานถึง 1 ปี หากเป็นวัสดุ PCL หรือ PLLA ตัวเส้นไหมจะละลายช้ากว่า จะสามารถอยู่ได้นานตั้งแต่ 2-3ปี
  • การร้อยไหมเรียบ ผลลัพธ์จะเห็นทันทีหลังร้อย 20% และจะเห็นผลลัพธ์ทั้งหมด 100% ของการร้อยไหมเมื่อไหมละลายประมาณ 1-3 เดือน

 

ร้อยไหม อันตรายไหม

 

"ร้อยไหม" ไม่อันตรายหากใช้ไหมละลายที่มีคุณภาพที่ผ่านการรับรองจาก อย. ตัวไหมจะมีความปลอดภัย ละลายหมด 100% ระยะเวลาตามชนิดวัสดุของเส้นไหม ไม่มีสารตกค้าง รวมถึงทำการร้อยไหมกับแพทย์ที่มีเทคนิคและประสบการณ์สูง ก็จะช่วยให้เห็นผลได้ดี ไม่ค่อยมีผลข้างเคียง ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น

 

ก่อน-หลัง ร้อยไหม ควรปฏิบัติตัวอย่างไร 

 

ก่อนร้อยไหม

  • ควรแจ้งประวัติการแพ้ยา วิตามินและยาที่กินประจำ
  • ก่อนร้อยไหมควรงดยา และวิตามิน 24 ชั่วโมงก่อนร้อยไหม เช่น แอสไพริน, NSAIDs, ginseng และ Vitamin E
  • ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
  • ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินใบหน้าและปัญหาที่ต้องการแก้ไข และวางแผนการรักษา เมื่อปรึกษาแพทย์เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถร้อยไหมได้เลย

 

หลังร้อยไหม

  • หลังร้อยไหมอาจมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ ในจุดที่ร้อยไหมได้เป็นปกติ หายไปเองใน 2-3 วัน สามารถประคบเย็นได้
  • งดแกะ เกา กดหรือนวด งดสัมผัสใบหน้าแรงๆ เป็นเวลา 1 สัปดาห์
  • งดแผลโดนน้ำเป็นเวลา 48 ชม. โดยแผลหลังร้อยไหมจะเป็นเพียงรูเปิดเข็มเล็กๆ บริเวณไรผม ข้างละ 1-2 จุดเท่านั้น โดยแผลจะจางหายไปเองภายใน 3-7 วัน
  • รับประทานยายาฆ่าเชื้อติดต่อกันจนครบตามที่แพทย์แนะนำ
  • ช่วงสัปดาห์แรก ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะ อาจทำให้ไหมเคลื่อนที่ผิดตำแหน่งหรือเงี่ยงบางจุดปลดล็อคได้
  • งดยิงเซเลอร์ที่ส่งความร้อนชั้นลึก เช่น Ulthera , HIFU เป็นเวลา 1 เดือน
  • ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 สัปดาห์

 

รู้ข้อดี ข้อเสีย และผลข้างเคียง ก่อนตัดสินใจสวย ด้วยการ "ร้อยไหม"

 

ผลข้างเคียงจากการร้อยไหม

 

หลัง "ร้อยไหม" ไหมช่วงแรกๆ คนไข้มักมีอาการตึงบริเวณใบหน้าซึ่งเป็นอาการปกติ  อาจมีอาการบวม หรือเขียวช้ำ ทั้งจากการฉีดยาชา และเลือดที่ออกใต้ผิวหนัง อาการบวมอาจมากขึ้นในช่วง 2-3 วันแรก และจะค่อยๆ ดีขึ้นจนหายไปเองใน 7 – 14 วัน ส่วนผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย เช่น การอักเสบของเนื้อเยื่อ ติดเชื้อ หรือเป็นคลื่น บุ๋ม ส่วนใหญ่จะมาจากการร้อยไหมที่ขาดเทคนิค ขาดประสบการณ์ ดึงไหมตึงเกินไป หรือใช้ไหมที่ไม่มีคุณภาพ การทำความสะอาดไม่เพียงพอ เป็นต้น ซึ่งมักพบได้ในเคสที่ร้อยไหมกับ หมอเถื่อน คลินิกเถื่อน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยและไม่ต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ก่อนตัดสินใจ ร้อยไหม ควรพิถีพิถันในการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและหมอที่มีประสบการณ์เท่านั้น

 

ใครบ้างที่ไม่ควรร้อยไหม

 

  • คนที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคเบาหวานที่ยังคุมน้ำตาลได้ไม่ดี เพราะแผลอาจหายยากกว่าคนปกติ ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงที่ยังควบคุมโรคได้ไม่ดี ความเจ็บหรือความตื่นเต้น อาจทำให้ความดันเพิ่มสูงขึ้นได้
  • คนไข้ที่ต้องกินยาละลายลิ่มเลือด เช่น ยากลุ่มwarfarin หรืออาหารเสริมบางประเภท เช่น วิตามินอี แป๊ะก๋วย อาจจะทำให้เกิดการเขียวช้ำง่ายและนานกว่าคนอื่น
  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์

 

การร้อยไหม เป็นหัตถการหนึ่งที่ช่วย แก้ปัญหาแก้มหย่อน แก้มย้อย ผิว กรอบหน้าไม่กระชับ ได้เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องผ่าตัด และเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว หากใครสนใจร้อยไหม แนะนำให้ศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และปรึกษากับแพทย์ที่มีประสบการณ์โดยตรง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ