Lifestyle

"วิตามินซี" ความรู้เพื่อการ ดูแลผิว ที่ไม่ใช่แค่เรื่องผิวๆ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"วิตามินซี" มีคุณสมบัติอย่างไรในการ ดูแลผิว วันนี้ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและเวชศาสตร์ชะลอวัย มีคำตอบมาฝาก

เราต่างเคยได้ยินกันมามากแล้ว เกี่ยวกับคุณประโยชน์ต่างๆ ของ "วิตามินซี" ซึ่งถือว่าเป็นส่วนผสมระดับเทพแห่งวงการสุขภาพและความงาม ที่ช่วยให้ผิวพรรณแลดูกระจ่างใส ดูมีสุขภาพดี อย่างไรก็ตาม ในการนำ "วิตามินซี" มาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ต่างๆ ก็คงไม่ใช่เพียงแค่การนำเอาเปลือกส้ม หรือเนื้อมะขามป้อมมาโยนใส่แล้วปั่นรวมไปกับเนื้อผลิตภัณฑ์แต่อย่างใด แต่คือการนำเอาสารสกัดจาก กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) ซึ่งเป็นรูปแบบธรรมชาติของ วิตามินซี หรือที่เรียกกันว่า วิตามินซีสด (Pure Vitamin C) มาใช้ ซึ่งแหล่งที่พบมาก ได้แก่ ในผักและผลไม้สด เช่น ผลไม้ตระกูลส้ม (citrus) ฝรั่ง มะขามป้อม เป็นต้น

 

แล้ว วิตามินซีสด หรือ กรดแอสคอร์บิก ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์สกินแคร์จะนำมาใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์กับผิวหน้าได้สูงสุด นอกจากเจ้ากรดแอสคอร์บิก ตัวนี้แล้ว ยังมี "วิตามินซี" ในแบบอื่นๆ หรือชนิดอื่นๆ ที่ช่วยทำให้เกิดคุณประโยชน์ต่อผิวหน้าได้อีกหรือไม่ วันนี้เรามาไขข้อข้องใจ พร้อมฟังเคล็ดลับการดูแลผิวหน้าจาก “คุณหมอผึ้ง” พญ.อวิกา รงค์ทอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและเวชศาสตร์ชะลอวัย ที่มาให้ความรู้ผ่านกิจกรรมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ “DERMACTION PLUS POTENT TRIPLE VITAMIN C” จากวัตสัน  

 

พญ.อวิกา รงค์ทอง

 

“Magic 3” คุณสมบัติพิเศษ 3 ประการจาก กรดแอสคอร์บิก เพื่อผิวแลดูกระจ่างใส ดูมีสุขภาพดี

  1. ปกป้องผิวจากการทำร้ายโดยอนุมูลอิสระ (antioxidant)
  2. ยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน (melanin) จึงช่วยลดจุดด่างดำ ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใส
  3. กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน จึงช่วยให้ผิวมีความอิ่มฟูดูเต็มอิ่มและผิวแลดูกระชับมากขึ้น

 

"วิตามินซี" ความรู้เพื่อการ ดูแลผิว ที่ไม่ใช่แค่เรื่องผิวๆ

 

อนุพันธ์วิตามินซี (Vitamin C Derivatives) อีกขั้นของวิตามินซี สด 

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก กรดแอสคอร์บิก หรือ วิตามินซีสด ยังคงมีข้อเสีย คือ เสื่อมสลายง่าย บอบบาง และไวต่ออุณหภูมิ แสง และอากาศ จึงนำมาซึ่งการพัฒนา "วิตามินซี" รูปแบบอื่นๆ โดยการดัดแปลงโครงสร้างใหม่ให้สามารถแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ เหล่านั้นได้ เราเรียกรูปแบบ วิตามินซี นี้ว่า อนุพันธ์วิตามินซี (Vitamin C Derivatives) โดย “อนุพันธ์วิตามินซีที่ดี ต้องมีประสิทธิภาพในการซึมสู่ผิวหนังได้ง่าย สามารถแปลงร่าง หรือ แปลงโครงสร้างตัวเองให้ออกฤทธิ์ได้ (active) และคงไว้ซึ่งคุณสมบัติ 3 ประการ” คุณหมออวิกากล่าว

 

ทำความรู้จักอนุพันธ์วิตามินซีที่นิยมใช้ในปัจจุบัน

 

  • Ascorbyl Glucoside (AA2G) เป็นอนุพันธ์ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นจากการเติมโมเลกุลน้ำตาล ทำให้เกิดอนุพันธ์ที่มีความเสถียร สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ และ แปลงร่างเพื่อทำงานมอบผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพให้กับผิวได้ รวมถึงยังมีค่า pH ที่ใกล้เคียงกับผิวคนทั่วไปมักอยู่ที่ 5.5 จึงช่วยลดโอกาสการเกิดความระคายเคืองต่อผิวหนัง และง่ายต่อการนำไปใช้ในสูตรการดูแลผิวที่หลากหลาย
  • Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) เป็นอนุพันธ์ที่ถูกปรับโดยเติมโซเดียมเข้าไป “ทำให้อนุพันธ์มีความเสถียรมากขึ้น ไม่ตายง่าย” แต่อนุพันธ์กลุ่มนี้ยังมีความอ่อนด้อยในการดูดซึมสู่ผิว ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการดัดแปลงโครงสร้างและออกฤทธิ์ของอนุพันธ์  
  • Ascorbyl 6-Palmitate เป็นกลุ่มอนุพันธ์ที่สามารถละลายในน้ำมันได้ดี ดังนั้น จึงมีประสิทธิภาพในการซึมสู่ผิวได้ดีตามไปด้วย แต่ยังอ่อนสมรรถนะในการแปลงร่างเพื่อทำงานมอบผลลัพธ์ที่มีประสิทธิผลให้กับผิวได้
  • 3-O-Ethyl Ascorbic Acid (3OAA) เป็นอนุพันธ์ที่นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากให้การยอมรับและกล่าวว่าดีที่สุด เนื่องจากมีคุณสมบัติ Magic 3 ที่ครบถ้วน มีค่า pH ที่ใกล้เคียงผิวคนทั่วไป สามารถละลายในน้ำมันได้ดีและซึมสู่ผิวได้ดี รวมถึงยังทนต่อสภาวะความร้อน และแสงได้ดี อีกด้วย
  •  

"วิตามินซี" ความรู้เพื่อการ ดูแลผิว ที่ไม่ใช่แค่เรื่องผิวๆ

 

สังเกตได้ว่าในปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์สกินแคร์จำนวนมากในท้องตลาด ที่นำเทคโนโลยีและอนุพันธ์วิตามินซีต่างๆ มาใช้เพื่อตอบโจทย์และมอบผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภค

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ