เรื่องความสวยความงามกำลังจะเป็นเรื่องจำเป็นในอนาคตอันใกล้ ศัลยกรรมตกแต่งความงามกำลังเป็นที่นิยมสำหรับคนไทยที่จำเป็นต้องทำเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง
หลังจากที่มีข่าวดาราดังชั้นแนวหน้าล่าสุดอย่าง "แพนเค้ก เขมนิจ" จามิกรณ์ ได้เข้าทำศัลยกรรมพึ่งมีดหมอด้วยการทำศัลยกรรมเป็นครั้งแรกในชีวิต และเลือกที่จะทำศัลยกรรม ตาสองชั้น Lucky eye เนื่องจากเกิดผลกระทบในชีวิตประจำวันต้องแก้ปัญหาตาไม่เท่ากัน นอกจากนี้ยังพบว่าต้องรักษาอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงอีกด้วย
หมอชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งอาเซียน เปิดเผยกับคมชัดลึกว่า การทำศัลยกรรมกำลังเป็นเรื่องปกติที่คนในสังคมจำเป็นต้องทำ และเชื่อว่าในอนาคตสังคมไทยจะให้การยอมรับมากขึ้นกับกลุ่มคนที่ทำศัลยกรรม และจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาของคนไทยที่ทุกคนต้องทำ เพราะการทำศัลยกรรมตกแต่งความงามมีจุดเด่นและมีความจำเป็นในการสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เป็นผู้นำ หัวหน้า และคนที่ต้องใช้หน้าตาความสวยงามในสาขาอาชีพต่างๆ
5 เทรนด์ศัลยกรรมตกแต่งความงาม
ในอดีตคนไทยมักจะต้องเดินทางมุ่งสู่ประเทศเกาหลี เนื่องจากเชื่อว่าการทำศัลกรรมตกแต่งความงามเป็นศูนย์กลางแบบครบวงจร แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้ศัลยกรรมตกแต่งความงามของไทยกำลังเป็นที่นิยมทั้งของคนไทยและชาวต่างชาติแม้กระทั่งชาวเกาหลีเอง เนื่องจากความรู้ทางวิชาการของหมอศัลยกรรมไทยโดดเด่นและนำสมัยกว่าต่างประเทศในอันดับต้นๆของโลก ไม่ว่าจะเป็นการเสริมจมูกด้วยการใช้ไขมันแทนซิลิโคน การทำตาซ่อนรอยแผล การดึงคอที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ เป็นต้น
หมอชลธิศ กล่าวต่อว่า เทรนด์การทำศัลยกรรมตกแต่งความงามที่กำลังเติบโตเป็นอย่างในขณะนี้จะประกอบไปด้วย 5 อันดับนิยมมากที่สุด ดังนี้
1.ศัลยกรรมตา มีด้วยกันหลายแบบ ทั้งการทำตาบน-ตาล่าง การทำตาสองชั้น ซึ่งการทำศัลยกรรมประเภทนี้จะมีคนเลือกที่จะเข้ามาทำมากที่สุด เนื่องจากเปลือกตามักมีไขมันและเมื่อมีอายุสูงขึ้นคนส่วนใหญ่มักจะมีปัญหา การแก้ไขจึงมักเป็นเรื่องสำคัญไม่ว่าจะเป็นชั้นตาสองข้างไม่เท่ากัน ชั้นตาหลบใน หรือแม้กระทั่งกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ตาลึก ซึ่งการทำศัลยกรรมตานี้แพทย์ไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในเรื่องของการกรีดแผลสั้นเล็ก การซ่อนรอยแผล ความบวมช้ำน้อย ไม่ต้องพักฟื้น หรือ Less is More
อย่างกรณี "แพนเค้ก เขมนิจ" พักแค่ 1 วันก็สามารถทำงานตามปกติได้เลย ทั้งนี้ค่าบริการในตลาดศัลยกรรมตกแต่งความงามระดับ Premium (ประสบการณ์หมอศัลยกรรมเกิน 8-10 ปี+ฝีมือความละเอียด+วัตถุดิบ+เครื่องมือ+ความสะอาด) ราคา 7-8 หมื่นบาท แต่หากเป็นระดับปกติทั่วไปราคา 8 พันบาท
2.ศัลยกรรมจมูก คนส่วนใหญ่ที่นิยมทำเนื่องจากเมื่อทำศัลยกรรมแล้วเสมือนเป็นการลดปมด้อยของตัวเอง เกิดความมั่นใจในชีวิตประจำวันค่อนข้างมาก เนื่องจากก่อนหน้าสังคมไทยเกิดกระแสนิยมคนจมูกโด่งตามแบบดาราต่างประเทศ และเมื่อคนไทยแห่กันไปทำศัลยกรรมจมูกกันมากขึ้นปรากฏว่าการทำศัลยกรรมไม่เกิดความสวยงามจนเป็นที่มาของคำว่า จมูกสวยเหมือนยาเหน็บทวาร ทำให้วงการศัลยกรรมในเอเชียตื่นตัวจนเป็นที่มาขอวิวัฒนาการด้วยการใช้ไขมันและเนื้อเยื่อพร้อมกับอุปกรณ์ที่ทันสมัย
อย่างไรก็ตามหากแบ่งประเภทจะประกอบด้วย 3 แบบ คือ 1.การเสริมจมูกด้วยซิลิโคน 2.การเสริมจมูกด้วยไขมันของตนเอง 3.การเสริมจมูกด้วยเนื้อเยื่อเทียม และ 4.การเสริมจมูกด้วยซิลิโคน + ไขมันตัวเอง + เนื้อเยื่อเทียม โดยในอดีตการทำศัลยกรรมจมูกนิยมการใช้ซิลิโคน
แต่ในปัจจุบันการใช้ซิลิโคนกลับเป็นกระตุ้นให้เกิดความเสี่ยงเกิดเนื้อทะลุ และเกิดการบิดเบี้ยวของจมูกเมื่อทำมาแล้วเป็นระยะเวลานานหรือเมื่อต้องนำซิลอโคนออกเพื่อแก้ไขจมูก ทั้งนี้ค่าบริการในตลาดศัลยกรรมตกแต่งความงามระดับ Premium จะมีราคาอยู่ที่ 7.5 หมื่นบาทถึง 1 แสนบาท แต่หากเป็นระดับปกติทั่วไปราคาจะไม่เกิน 1 หมื่นบาท
3.ศัลยกรรมฟัน ส่วนใหญ่จะเริ่มในกลุ่มวัยรุ่นแต่ในปัจจบันกลุ่มผู้สูงอายุหันมาให้ความสนใจมากยิ่งขึ้น ประกอบกับการทำฟันในปัจจุบันรัฐส่งเสริมการรักษาเป็นพื้นฐานทั้งบัตรทองและประกันสังคม แต่อย่างไรก็ตามการทำศัลยกรรมฟันจะแบ่งออกเป็น 1.การจัดฟัน 2.การฟอกฟันขาว และ 3.การฝังรากฟันเทียม ทั้งนี้ค่าบริการในตลาดศัลยกรรมตกแต่งความงามระดับ Premium จะมีราคาอยู่ที่ 7- 8 หมื่นบาท ระดับปกติทั่วไปราคาจะไม่เกิน 1 หมื่นบาท
4.ศัลยกรรมดึงหน้า จากต้นตำรับ FACE-LOOK หนังสือวิชาการ Less is more ของหมอชลธิศที่คิดค้น บอกไว้ว่า การทำศัลยกรรมที่ดีต้องผ่าตัดน้อยแต่มีประโยชน์สูงสุด ด้วยเทคโนโลยีในการผ่าตัดที่เรียกว่า FACE LIFT การผ่าตัดที่เกิดแผลเล็ก การซ่อนรอยผ่าตัด หน้าไม่บวม และที่สำคัญใช้ระยะเวลาเพียง 5 วันก็สามารถตัดไหมได้ โดยกลุ่มคนส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป โดยราคาในตลาดศัลยกรรมตกแต่งความงามระดับ Premium ราคาอยู่ที่ 2 แสนบาท ส่วนราคาปกติทั่วไปอยู่ที่ 2-3 หมื่นบาท
5.ศัลยกรรมดึงคอ(เก็บเหนียง) หรือ Face lock โดยการทำศัลยกรรมประเภทนี้กำลังเป็นที่นิยมและมีอัตราเติบโตสูงขึ้น โดยการศัลยกรรมนั้นใช้วิธีดึงให้ตึงและมาเก็บไว้ที่บริเวรท้ายทอย ส่วนใหญ่ผู้ใช้บริการจะเป็นคนดังหรือคนที่นับน่าถือตาในสังคม โดยราคาในตลาดศัลยกรรมตกแต่งความงามระดับ Premium จะอยู่ที่ 1.5 แสนบาทถึง 2 แสนบาท ส่วนราคาปกติในตลาดยังไม่ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตาม ศัลยกรรมดึงคอกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มของหมอที่กำลังตื่นตัวและเรียนรู้เนื่องจากปริมาณหมอไม่เพียงพอในการรองรับผู้ใช้บริการ
ขอบคุณภาพ Teeraporn Clinic
ข่าวที่เกี่ยวข้อง