สู้ไม่ไหว "ซูบารุ" เตรียมปิดโรงงานการผลิตในประเทศไทยสิ้นปี 2567
ซูบารุ (Subaru) ค่ายผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น เตรียมปิดโรงงานการผลิตในประเทศไทย สิ้นปี 2567 สู้ไม่ไหวหลังยอดขาย 13 ปี ร่วงไม่หยุด แต่ศูนย์บริการ ยังดูแลลูกค้าต่อเนื่อง ปรับแผนการตลาด กลับไปนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ ด้านเวียดนาม - มาเลเซีย ก็โดนปิดเช่นกัน
กรณีกระแสข่าว "ซูบารุ" โดย บริษัท ตันจง ซูบารุ ออโตโมทีป ประเทศไทย จำกัด เตรียมปิดไลน์ผลิตโรงงานในไทย โดยทาง บริษัทแม่ กลุ่มตันจง (TCIL) ซึ่งดูแลกลุ่มธุรกิจในประเทศอาเซียน-จีน ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) ว่า เตรียมหยุดประกอบรถยนต์ซูบารุจากโรงงานในประเทศไทย ในนามบริษัท ตันจง ซูบารุ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย จำกัด หรือ TCSAT ตั้งแต่ 30 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป
เนื่องจากบริษัทต้องเผชิญกับปัญหาสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจและธุรกิจที่เปลี่ยนไป ทำให้รถยนต์ที่ผลิตออกไม่สามารถขายได้ในราคาที่เหมาะสม และบริษัทไม่สามารถควบคุมราคาจำหน่ายได้ จึงตัดสินใจหยุดการผลิต และรถยนต์ที่ซูบารุที่ขายใน 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย, เวียดนาม, มาเลเซีย และกัมพูชา จะเป็นการนำเข้ามาจำหน่ายทั้งคัน (CBU
สำหรับโรงงาน TCSAT ในประเทศไทย ถือเป็นโรงงานแห่งที่ 3 นอกประเทศญี่ปุ่น โดยแห่งแรกอยู่ที่ อินเดียน่า สหรัฐอเมริกา และแห่งที่สองอยู่ที่ เซกัมบุต มาเลเซีย ซึ่งได้ยกเลิกการประกอบรถยนต์ซูบารุไปก่อนหน้านี้เช่นกัน เพื่อไปประกอบรถยนต์แบรนด์อื่นแทน ซึ่งพนักงานโรงงานอุตสาหรรมลาดกระบัง TCSAT ซึ่งมีพื้นที่รวม 100,000 ตารางเมตร เตรียมโดนเลิกจ้างทั้งหมด โรงงานจะปิดตัวสิ้นปีนี้ 30 ธันวาคม 2567
ประกาศของ TCIL ที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
โดยระบุว่า.....ประกาศฉบับนี้ จัดทำขึ้นโดยกลุ่มบริษัทตันจง อินเตอร์เนชันแนล จำกัด หรือ TCIL อาศัยความตามกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการจดทะเบียนหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ข้อ 13.09 และข้อกำหนดเกี่ยวกับข้อมูลภายในตามกฎหมายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าฮ่องกง มาตรา 571
ประกาศฉบับนี้ มีการอ้างอิงถึงบริษัท Subaru Corporation (ก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่า Fuji Heavy Industry จำกัด) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ผู้เป็นกิจการร่วมค้ากับ TCIL รวมถึงบริษัท ตันจง ซูบารุ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย จำกัด หรือ TCSAT กิจการร่วมค้าที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ TCIL
ทางคณะผู้บริหารของบริษัทตันจง อินเตอร์เนชันแนล จำกัด ขอประกาศให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทและผู้ที่มองเห็นโอกาส มีความประสงค์ในการเข้ามาลงทุนกับบริษัทเรา ว่า TCIL และ Subaru Corporation ได้ประกาศการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์และเป้าหมายการลงทุนใหม่ พร้อมมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในแวดวงยานยนต์ที่มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พร้อมตระหนักถึงความจำเป็นในการปรับตัวไปข้างหน้าและรองรับในการก้าวสู่อนาคต
หลังการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบของ TCIL และ Subaru Corporation เราได้ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ โดยยุติโมเดล Complete Knock Down (CKD) หรือการประกอบรถยนต์ภายในประเทศ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตจะไม่มีความยั่งยืน
โดยในปีหน้า (2568) การประกอบรถยนต์ภายในประเทศไทย เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา จะเปลี่ยนไปเป็นการประกอบและนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นทั้งหมด
ทางบริษัท TCIL และ Subaru Corporation ยังคงมีกิจการที่แข็งแกร่ง และเราจะยังคงสำรวจโมเดลธุรกิจอื่น ๆ เพิ่มเติม ที่มีศักยภาพในการรุกตลาดประเทศไทย เวียดนาม มาเลเซีย และกัมพูชา ต่อไป
TCIL และ Subaru Corporation มั่นใจว่าการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้ จะทำให้รถยนต์ซูบารุ สามารถเดินหน้าสร้างความสำเร็จในตลาดเหล่านี้ต่อไปได้ ซึ่ง TCIL และ Subaru Corporation ยังคงมุ่งมั่นในการส่งมอบคุณค่าแก่ลูกค้า คู่ค้า และผู้ถือหุ้นร่วมกันต่อไป