
"อุทัย วงษ์ไพศาล" ผู้นำกลุ่มประมงดอกกราย
ผลกระทบจากการทำประมงด้วยเครื่องมือทุกชนิด ไม่มีขีดจำกัดเพื่อให้ได้ปลาในปริมาณมากจากคนต่างถิ่น บริเวณอ่างเก็บน้ำดอกกราย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 5,000 ไร่ ส่งผลให้ปริมาณสัตว์น้ำในอ่างลดลงมากและแทบจะสูญพันธุ์ เดือดร้อนถึงชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมอ่างและยึดอาชีพทำป
ด้วยเหตุนี้ทำให้ อุทัย วงษ์ไพศาล ผู้นำชุมชนใน ต.แม่น้ำคู้ ได้รวมกลุ่มชาวบ้านรอบอ่างร้องเรียนไปยังกรมประมงเพื่อหาทางออกร่วมกัน จากนั้น อมร สัมนา ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการประมงน้ำจืดและคณะได้ลงมาสำรวจบริเวณรอบอ่างร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ จากนั้นจึงสั่งการให้ปิดอ่างดอกกราย ห้ามจับสัตว์น้ำในฤดูวางไข่ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม-15 กันยายนของทุกปี พร้อมเสนอให้มีการรวมกลุ่มกันทำประมงและดูแลบริหารจัดการพัฒนาฟื้นฟูแหล่งน้ำให้สมบูรณ์ขึ้นเพื่อให้มีสัตว์น้ำสำหรับทำการประมงได้ตลอดไป
อุทัย ในฐานะแกนนำคนสำคัญได้รวมกลุ่มชาวบ้านเพื่อจัดตั้งกลุ่มและได้ร่างระเบียบข้อบังคับขึ้นเพื่อควบคุมดูแลการทำประมง โดยมีเจ้าหน้าที่จากส่วนบริหารจัดการประมงน้ำจืดเป็นผู้ให้คำแนะนำ โดยใช้ชื่อว่า "กลุ่มบริหารทรัพยากรประมงอ่างเก็บน้ำดอกกราย" ที่ปัจจุบันได้ยกฐานะเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนประมงน้ำจืดอ่างเก็บน้ำดอกกราย มีจำนวนสมาชิกทั้งสิ้น 100 คน มีเรือทำประมงจำนวน 100 ลำ โดยแต่ละลำสลักชื่อสมาชิกและลำดับที่ไว้เป็นที่เรียบร้อย เพื่อป้องกันนักล่าจากต่างถิ่นเข้ามาทำประมง
"สัตว์น้ำในอ่างขอสงวนสิทธิ์ให้สมาชิกกลุ่มเท่านั้น คนนอกห้ามโดยเด็ดขาด ถ้ามาตกปลาเพื่อพักผ่อนหรือเป็นเกมกีฬาตกปลาได้ไม่ว่ากัน สมาชิกเราจำกัดไว้ที่ 100 คน ถ้าสมาชิกคนใดลาออกหรือขายสิทธิ์ต่อก็ได้ แต่ต้องเป็นคนในพื้นที่ จ.ระยอง เท่านั้น คนจังหวัดอื่นไม่ได้ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าสะดวกในการรวมกลุ่มทำกิจกรรมและช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำในอ่าง" อุทัยให้เหตุผล
ปัจจุบันสมาชิกกลุ่มดังกล่าวนอกจากจะทำประมงเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัวแล้ว ยังมีกิจกรรมต่างๆ เพื่อฟื้นฟูสัตว์น้ำในอ่างให้มีความอุดมสมบูรณ์อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นโครงการทำบ้านปลา โครงการธนาคารไข่กุ้ง โครงการฟื้นฟูสัตว์น้ำหน้าบ้าน ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์สัตว์น้ำในอ่างอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
"สุรัตน์ อัตตะ"