ไลฟ์สไตล์

"มกอช." เปิดเส้นทางสินค้าปลอดภัย  
รับขยายตัวภาคเกษตรในอนาคต

"มกอช." เปิดเส้นทางสินค้าปลอดภัย รับขยายตัวภาคเกษตรในอนาคต

27 พ.ค. 2554

สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กำหนดแผนการขับเคลื่อนงานให้สอดคล้องกับนโยบายปรับโครงสร้างเศรษฐกิจภาคเกษตรของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ว่า “เป็นองค์กรนำด้านการมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารสู่ระดับสากล” เพื่อสร้างศักยภ

  ศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ ผู้อำนวยการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า จากการลงนามพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่ 3 ระหว่างไทย-จีน ที่ผ่านมาจากการประเมินคาดการณ์ว่าจะทำให้มีการขยายตัวทางการค้าผลไม้ระหว่างกันเพิ่มมากขึ้นไม่ต่ำว่า 10% มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาทแล้ว ผู้บริโภคทั้งสองประเทศยังสามารถมั่นใจได้ว่า ผลไม้ที่ผ่านเข้าออกจากเส้นทาง R3 จะเป็นสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากมีการควบคุมคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยจากต้นทางทั้งสองประเทศ

 จากข้อตกลงและความร่วมมืออันดีระหว่างสองประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เห็นโอกาสในการเพิ่มช่องทางการส่งออกสินค้าเกษตรผ่านเส้นทางบก จึงได้มอบหมายให้ มกอช. ตั้งคณะทำงานขึ้นมาประเมินผลการเปิดเส้นทางขนส่งสินค้าทางบกตามเส้นทาง R9 R3 และประเมินศักยภาพการเปิดเส้นทางขนส่งอื่นๆ เช่น เส้นทาง R12 ไทย (นครพนม)-นาพาว (ลาว)-จา ลอ-วิงห์-ฮานอย(เวียดนาม)-จีน (ด่านโหย่วอี้กวาน มณฑลกวางสี) หรือเส้นทาง R8 ไทย(กรุงเทพฯ-หนองคาย)-ปากซัน-น้ำทอน (ลาว)-เกาแจว-วิงห์-ฮานอย (เวียดนาม)-จีน (ด่านโหย่วอี้กวาน มณฑลกวางสี) รวมทั้งศึกษาถึงข้อดีข้อเสียของการเปิดเส้นทางขนส่งทางแม่น้ำโขง และพิจารณาการขยายขอบเขตสินค้าให้ครอบคลุมสินค้าที่มีศักยภาพ เช่น ผัก สินค้าประมง ระหว่างกัน ผ่านเส้นทางขนส่งทางบกสายต่างๆ และรวมถึงการขนส่งทางน้ำอีกด้วย

 ผอ.มกอช. กล่าวอีกว่า จากการที่องค์กรระหว่างประเทศว่าด้วยการรับรองระบบ (International Accreditation Forum : IAF) ได้ออกมาประกาศการยอมรับความเท่าเทียมในขอบข่ายการรับรองผลิตภัณฑ์ (Multilateral Recognition Arrangement : MLA) ของ มอกช.นั้น ทำให้ได้รับความเชื่อมั่นและการยอมรับในระดับสากลจากประเทศคู่ค้า และก่อให้เกิดการขยายตัวของการส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารได้มากยิ่งขึ้น เพราะสามารถส่งออกสินค้าได้สะดวกและง่ายขึ้น ลดระยะเวลา ค่าใช้จ่าย รวมไปถึงข้อกีดกันหรืออุปสรรคเทคนิคทางการค้าระหว่างประเทศอีกด้วย

 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับประเทศคู่ค้าขณะนี้ มกอช. อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อม เพื่อเปิดให้การรับรองระบบงาน ในขอบข่ายด้านการจัดการความปลอดภัยอาหาร ตาม ISO/TS 22003 เพื่อตอบสนองผู้ประกอบการอาหารที่ตื่นตัวขอรับรองระบบ เนื่องจากประเทศคู่ค้าให้ความสำคัญ และต้องการสินค้าที่มาจากประเทศที่มีโรงงานที่มีระบบ Food Safety ประกันความปลอดภัยของสินค้าตลอดระบบห่วงโซ่อาหารมากขึ้น                            

 นอกจากนี้ยังมีระบบการรับรองมาตรฐาน BRC (British retail Consortium) หรือมาตรฐานสมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแห่งสหราชอาณาจักร ที่ผู้ประกอบการค้าปลีก เช่น Tesco Waitrose และ Safeway นำมาใช้เป็นข้อกำหนดในการรับรองสินค้าที่มีคุณภาพและปลอดภัย ซึ่งผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปยังสหราชอาณาจักรและกลุ่มอียู ต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากผู้ประกอบการค้าปลีกเหล่านี้เป็นช่องทางที่จะช่วยกระจายสินค้าเกษตรไทยไปสู่ผู้บริโภคในกลุ่มประเทศดังกล่าว โดยคาดว่าจะเปิดให้ยื่นคำขอเพื่อการรับรองทั้งสองระบบได้ภายในปี 2554 อีกด้วย

"จุไรรัตน์ เกื้อหนุน"