ถวายอาหารทางสายยางพ่อคูณ2อาทิตย์ | คมชัดลึก

วันนี้ (25 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.นครราชสีมารายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน  อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา  ซึ่งพักรักษาอาการอาพาธด้วยวัณโรคปอด ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.มหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.54 ที่ผ่านมา

  ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้( 25 พ.ค.54 ) ที่ห้อง 9821 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.มหาราชนครราชสีมา คณะแพทย์ที่ทำการรักษาหลวงพ่อคูณ  นำโดย นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราช   พร้อมด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคปอด , แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินหายใจ และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา เข้าใช้เครื่องฟังระบบภายในของหลวงพ่อคูณ  โดยหลวงพ่อคุณนอนจำวัด โดยมีสายยางให้อาหารเหลวทางจมูกตลอดเวลา  อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ในช่วงเช้ามืดเวลาประมาณ 06.00 น. ลูกศิษย์ได้พยุงหลวงพ่อคูณ ออกมาเดินนอกห้องไปตามระเบียงทางเดินไปยืนหน้าลิฟท์ประมาณกว่า 10 เมตรและเข้าห้องจำวัด จากนั้นคณะแพทย์ได้นำเครื่องพ่นยาขยายหลอดลมมาสวมให้กับหลวงพ่อคูณ  นอกจากนี้ยังได้ให้ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อทางหลอดเลือดดำที่บริเวณข้อเท้าซ้าย ซึ่งคณะแพทย์ได้ทำการตรวจอาการในช่วงสัปดาห์ที่ 3  โดยใช้เวลา 30 นาที ซึ่งแพทย์ทุกคนก็พอใจผลการรักษา

  นพ.พินิศจัย  เปิดเผยว่า  อาการอาพาธโดยรวมของหลวงพ่อคูณดีขึ้น โดยเฉพาะการรับอาหารที่ให้ทางสายยางได้หมด วันนี้หลวงพ่อคูณ ออกจากห้องมาเดินออกกำลังกายซึ่งสามารถเดินไปได้ไกลขึ้นจากห้องพักมาหน้าลิฟท์ระยะทางกว่า 10 เมตร  วัดอุณหภูมิร่างกายไม่มีไข้  น้ำหนักก็ยังอยู่ 37 กก.และเพิ่มขึ้นเล็กน้อย  ซึ่งจากการที่คณะแพทย์เข้าตรวจอาการล่าสุดทุกคนก็เห็นว่าหลวงพ่อคูณดีขึ้น พวกเราก็มีความสุข แต่แพทย์ก็ยังกังวลในเรื่องผลแทรกซ้อนจากยา จากตัวเชื้อวัณโรคเอง และจากอวัยวะอื่นๆ เช่น หัวใจ และสมอง เพราะท่านมีปัญหาอวัยวะพวกนี้อยู่ก่อนแล้ว  เพราะช่วงนี้แพทย์ยังปรับยาวัณโรคอยู่ อีกอันหนึ่งที่เรากังวลคือหลวงพ่ออยู่โรงพยาบาล เชื้อในโรงพยาบาลอาจจะเป็นปัญหาเหมือนกัน แต่เราก็เฝ้าระวังป้องกันอย่างเต็มที่อยู่

 "จากการสอบถามอาการหลวงพ่อคูณตอนนี้รู้สึกว่า หลวงพ่อเริ่มถามว่า ไม่มีใครเอาอะไรมาให้กูฉันเลยเหรอ ซึ่งตรงนี้อาจจะทำให้ท่านมีความรู้สึกอยากจะฉันอาหารเอง แต่พอถามว่า หลวงพ่อหิวไหม๊ ท่านก็บอกว่ายังไม่หิวก็ไม่แปลกอะไร เพราะอาหารที่เราให้ทางสายยางก็ค่อนข้างน่าจะเพียงพอสำหรับท่าน  ซึ่งเราคงจะต้องให้อาหารทางสายยางนานที่สุดเท่าที่จะให้ได้ เพราะหลวงพ่อขาดสารอาหารมานาน ฉะนั้นถ้าเราให้ทางสายยางได้และไม่เป็นปัญหากับท่านมันน่าจะเป็นผลดี โดยหลักการก็จะให้จนกว่าที่ท่านจะฉันได้เองเต็มที่ ซึ่งยังบอกไม่ได้ว่าจะนานแค่ไหน แต่ผมว่าอย่างน้อยน่าจะอีก 1-2 สัปดาห์ ส่วนน้ำในเยื่อหุ้มปอดที่เอ็กซเรย์เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมาก็ลดลงชัดเจน ส่วนการอักเสบของตับก็ดีขึ้น และพอตับดีขึ้นเราก็จะต้องปรับยาวัณโรคตามสูตร ซึ่งยาที่ให้เข้าไปใหม่ก็อาจจะมีผลต่อตับอีก แต่เราก็ให้ด้วยความระมัดระวัง ฉะนั้นช่วงนี้คงจะต้องดูอาการอย่างใกล้ชิดเหมือนเดิมต่อเนื่องต่อไป" นพ.พินิศจัย กล่าว.