ไลฟ์สไตล์

สนามเรื่องสั้น-สั้น...เหยียบส้น

สนามเรื่องสั้น-สั้น...เหยียบส้น

15 พ.ค. 2554

อากาศอบอ้าว เป็นเพราะเมฆฝนตั้งเค้าทะมึนดำ ลักษณะอากาศตกอยู่ในภาวะเช่นนี้มาสองวันแล้ว ปักกี้ไม่ค่อยชอบมันเลย เขาลดกระเป๋าเป้ลงจากบ่า หลังผลักประตูรั้ว เขาถอดรองเท้าก้าวขึ้นบันไดเตี้ยสามขั้น

 จะเข้าบ้าน แม่ของปักกี้โผล่มาจากข้างบ้านเห็นรองเท้าผ้าใบสีดำของเขา หล่อนไม่พอใจ “ปักกี้ รองเท้าพังหมด ใส่ดีๆไม่ได้หรือ ใครสอนใครสั่งให้เหยียบส้น...หา คอยดูเถอะ พังแล้ว แม่ไม่ซื้อใหม่ให้นะ” ปักกี้หน้าเสีย รีบแก้ตัวทันที “แหม แม่ ผมก็เพิ่งเหยียบส้นนี่แหละ ก่อนหน้านี้ผมก็ใส่ดีๆ” แต่ดูจากสภาพของรองเท้า ส้นนั้นแบนราบ ขอบยางปริออกเกือบรอบแล้ว แม่เขาไม่เชื่อ ลูกชายต้องใส่แบบเหยียบส้นมายาวนานแล้ว หล่อนเอ็ดว่า “ไม่ช่วยประหยัดกันเลยนะเจ้าลูกคนนี้ เงินทองหายากจะตายอยู่แล้วทุกวันนี้” อากาศแย่ แต่อารมณ์ของแม่แย่ยิ่งกว่า ปักกี้นึกอย่างขุ่นใจ

0 0 0
 หลังจากฝนตกลงมาเมื่อคืนที่ผ่านมา เช้านี้อากาศจึงสดใส ดวงตะวันทอแสงอุ่นๆ เด็กนักเรียนยืนเคารพธงชาติกันอย่างพร้อมเพรียงกัน ก่อนถึงเวลาแยกย้ายเข้าชั้นเรียน อาจารย์ฝ่ายปกครองดาหน้าเข้าตรวจเครื่องแต่งกายของนักเรียน โดยไม่มีการแจ้งให้รู้ล่วงหน้า ปักกี้ยืนอยู่แถวของชั้นมอสองทับสี่ถูกจู่โจมอย่างกะทันหัน เขากับเพื่อนอีกสี่คนจะถอดรองเท้าใส่ใหม่ก็ไม่ทัน อาจารย์ฝ่ายปกครองจึงต้อนพวกเขาไปยืนหน้าเสาธงในสภาพเดินเหยียบส้นรองเท้าออกไป

 อาจารย์ฝ่ายปกครองอบรมเด็กนักเรียนผิดระเบียบเกือบยี่สิบคนว่า “พวกเธอก็รู้นี่ว่า โรงเรียนของเราได้รับการยกย่องให้เป็นโรงเรียนมัธยมดีเด่นทางด้านการแต่งกายและมารยาท นักเรียนส่วนใหญ่ก็ประพฤติตัวกันอย่างเรียบร้อย มีแต่พวกเธอที่แหละที่เป็นคนส่วนน้อยยังแหกคอกแหกกฎกันอยู่ มันยากนักรึ กับการสวมรองเท้าอย่างปกติเขา กับการสวมเสื้อผ้าที่ถูกระเบียบ เรื่องแค่นี้พวกเธอยังทำไม่ได้ โตขึ้นพวกเธอจะไปอยู่ในกฎเกณฑ์ของสังคม ซึ่งเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าตรงนี้มาก พวกเธอจะทำได้หรือ...” ปักกี้เบื่อหน่ายกับการเทศนาอันยืดเยื้อของอาจารย์ แดดร้อนมากขึ้นแล้ว รู้สึกแสบหัว แสบบ่า แสบหลัง แถมยังเมื่อยขาอีกด้วย อยากเข้าสู่ชั้นเรียนใจจะขาด แต่อาจารย์ก็ยังไม่มีทีท่าจะหยุดเอาง่ายๆ เรื่องหยุมหยิมแค่นี้ อาจารย์เสียเวลากับมันมากเกินไปแล้วล่ะ ปักกี้บ่นในใจ

 0 0 0
 ตอนเย็นปักกี้กับเพื่อนสี่คนมายืนรอรถเมล์ที่ป้ายหน้าโรงเรียน พวกเขาไม่รีบร้อนขึ้นรถทันที ปล่อยให้รถเมล์สายกลับบ้านแล่นผ่านไปหลายคัน ขณะนั่งทอดหุ่ยมองนั่นมองนี่อย่างเปล่าประโยชน์อยู่นั้น เด็กหญิงกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในป้ายรถเมล์ เด็กกลุ่มนี้เป็นเด็กดี อยู่ในกฎในระเบียบของสถานการศึกษาอย่างเคร่งครัด ซ้ำเป็นเด็กเรียนเก่ง และทั้งหมดนั้นอยู่ห้องเดียวกับก๊วนของปักกี้ เด็กหญิงบางคนในกลุ่มนั่งลงบนเก้าอี้ แต่ที่เหลือต้องยืน เพราะไม่มีที่ว่างเหลือเลย เพื่อนของปักกี้คนหนึ่งทำท่าทะเล้นขยับตัวจะลุกขึ้น พลางร้องชวนเชิญให้มานั่งแทนเขา แต่เด็กหญิงพวกนั้นไม่สนใจ “พวกนายนั่งกันตามสบายเถิด” เธอคนหนึ่งพูดขึ้น เพื่อนของปักกี้กลับกล่าวยั่วล้อไปว่า “รังเกียจพวกฉันหรือ”

 เด็กหญิงคนนั้นมองหน้าคนพูด เมื่อเช้าพวกนี้ถูกทำโทษหน้าเสาธง เธอมองเครื่องแต่งกายของพวกเด็กชาย เหมือนเดิมพวกเขายังสวมรองเท้าเหยียบส้น “พวกนายนี่เป็นพวกถ่วงความเจริญของโรงเรียนจริงๆนะ รองเท้าสวมดีๆ ก็ทำไม่เป็น ระวังเถิดจะเดือดร้อนเอาสักวันหนึ่งหรอก” 

 ความรู้สึกไม่พอใจก็ก่อตัวขึ้นในจิตใจของปักกี้ จะมีความเดือดร้อนอะไรอีกเล่า เมื่อเช้าก็ถูกทำโทษไปแล้ว ยายนี่พูดจาเพ้อเจ้อไปได้ ปักกี้มองหน้าเด็กหญิงคนนั้นอยากเอาเรื่อง แต่กลับสงวนปากสงวนคำเอาไว้อย่างน่าประหลาด เพื่อนของปักกี้คนหนึ่งเสียอีกที่ทนไม่ได้ เขาแลบลิ้นปลิ้นตายั่วโทสะเด็กหญิงไป

 “พวกนายจะเสียใจสักวัน หากยังประพฤติตัวแย่ๆอยู่ยังงี้” เด็กหญิงอีกคนพูด

 “ใช่ พวกนายจะต้องสำนึกผิดที่ทำตัวแบบนี้ คอยดูเถอะ” เด็กหญิงคนที่สามเสริม แต่คำพูดของเด็กหญิงทั้งหมดนั้น เป็นเรื่องเหลวไหลยิ่งในความรู้สึกของปักกี้กับพรรคพวก

 0 0 0
 ครั้นกลับมาถึงบ้าน จึงนึกขึ้นได้ว่ารองเท้าผ้าใบสีขาว ซึ่งเป็นรองเท้ากีฬาพื้นสึกบางเกือบทะลุแล้ว หากสวมต่อไปอีกก็คงได้สักหนสองหนเท่านั้น ปักกี้ต้องการซื้อคู่ใหม่ เขาจะเลือกยี่ห้อเดิมรุ่นเดิม ซึ่งเป็นที่นิยมมากในหมู่นักเรียน ชีวิตติดเทอร์โบ จะเดินจะเหินรวดเร็วได้ดั่งใจ โฆษณาเขาว่าไว้อย่างนั้น

 “นั่นไง เหยียบส้นกันเข้าไป รองเท้าดีๆจึงสึกไวไงล่ะ” แม่ถากถาง หลังลูกชายขอเงินซื้อรองเท้าคู่ใหม่

 “แม่ รองเท้ากีฬามันนานแล้วนะ แม่จำไม่ได้เหรอ ซื้อมาเกือบปีแล้วมั้ง” ปักกี้ค้านอย่างเหลืออด

 หน่วยความจำวิ่งวุ่นในสมองของคนเป็นแม่ จริงด้วย ซื้อมานานแล้วอย่างที่มันว่า แต่หล่อนอยากดึงเรื่องนี้เข้าสู่ประเด็นเดิม “พอซื้อให้ใหม่ ไม่ใช่ว่าเอาไปใส่เหยียบส้นอีกนะ ระวังตัวเอาไว้ให้ดีเถอะ เห็นเมื่อไหร่ แม่จะเอาไม้เคาะส้นเท้าให้แตกเลย” หล่อนขู่ แต่ปักกี้ไม่กลัว

 ปักกี้นึกเซ็ง ตั้งแต่เช้าจรดเย็น มีแต่เรื่องเหยียบส้น ไม่มีเรื่องอื่นเลย หรือว่าวันนี้เป็นวันซวยของเขา ถึงได้พบแต่เรื่องที่ไม่เป็นเรื่องซ้ำซากอยู่เช่นนี้ ภาวนาพรุ่งนี้ขออย่าให้มีเรื่องนี้เข้ามาแผ้วพานกับชีวิตอีก

 0 0 0
 ปักกี้ตัดสินใจแวะห้างโมเดิร์นเทรดแห่งหนึ่ง เพื่อซื้อรองเท้ากีฬา เพื่อนของเขารู้จึงติดตามมาด้วย ตอนก้าวลงจากรถเมล์ตรงหน้าห้างได้ยินเสียงอื้ออึงอลหม่านดังมาทางซ้ายของป้าย เด็กช่างกลสองโรงเรียนจำนวนเกือบครึ่งร้อยวิ่งไล่ตีกันมา กลุ่มที่ถูกตีเตลิดหนีสุดชีวิต โดยที่กลุ่มไล่ฆ่าหมายเอาชีวิตซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่กว่าบดขยี้ไม่ยอมลดละ คนขับรถเมล์รีบปิดประตูกระชากรถออกไปจากป้าย ไม่เสี่ยงกับวินาศด้วย ส่วนปักกี้เห็นท่าไม่ดีคิดหลบฉากออกไป แต่ความคิดช้ากว่าการกระทำมากทีเดียว นักเรียนช่างกลฝ่ายที่ถูกไล่แล่นเข้ามาผสมปะปนกับกลุ่มของปักกี้ ด้วยสัญชาตญาณเอาตัวรอด ปักกี้ตะโกนบอกเพื่อนๆ เผ่นหนีเร็วพลัน

 ในนาทีตะลุมบอนกันปักกี้ตะโกนขอชีวิต “เฮ้ยพวกกูไม่เกี่ยว เด็กมัธยมไม่ใช่ช่างกล” แต่เด็กช่างกลฝ่ายไล่ล่าช่างไม่ดูตาม้าตาเรือเลย พวกเขาเอาแต่กระเหียนกระหือรือจะบีฑาคร่าชีวิตกันอย่างเดียว ดังนั้นไม่ว่าผู้ใดขวางทางก็จะถูกลูกหลงไปด้วย ปักกี้รู้สึกเสียววาบที่ต้นแขน สปาร์ต้าฟันหวือตัดอากาศเฉียดผิวเนื้อไปนิดเดียว เขาสับเท้าพัลวัน จังหวะวิ่งหนีตายติดๆ ขัดๆ ไม่เป็นกระบวน เขารับรู้ได้เลยว่า รองเท้านั่นแหละคืออุปสรรค มันไม่กระชับ มันโพรกจะหลุดไม่หลุดแหล่เขารีบเปลี่ยนเป็นจิกนิ้วเท้าวิ่ง ดีขึ้นมาหน่อยหนึ่ง แต่ก็มันยังไม่พ้นขีดอันตราย ถัดมาตัดสินใจสลัดรองเท้าเหยียบส้นทิ้งไป ควบตะบึงไปข้างหน้าด้วยกำลังที่รีดออกมาทั้งหมดในตอนนั้น

 ในเสี้ยววินาทีหนึ่ง ปักกี้เห็นเพื่อนคนหนึ่งของเขาถูกฟันกลางแผ่นหลัง ร่างล้มลงฟาดกับขอบบาทวิถี รองเท้าผ้าใบสีดำข้างหนึ่งกระเด็นหวือไปตกข้างพุ่มไม้ 

  0 0 0
  กลับจากโรงพยาบาลมาถึงบ้านด้วยสภาพอิดโรย ปักกี้นั่งกุมขมับบนโซฟา เครียดจัด ยังไม่อยากเชื่อเลยว่าเพื่อนเสียชีวิตแล้ว ภาพแผลอันเหวอะหวะตามร่างกายของเพื่อน ซึ่งเกิดจากสปาร์ต้าหลอนจิตใจของปักกี้ เพื่อนเขาตายเพราะสปาร์ต้าฝีมือของเด็กช่างกล
 เพื่อนกูตายเพราะสปาร์ต้า...เพื่อนกูตายด้วยสปาร์ต้า

 เอ๊ะ...หรือว่ารองเท้าเหยียบส้น

 สปาร์ต้าโว้ย สปาร์ต้าเว้ย

 รองเท้าเหยียบส้นว่ะ  เออ...ถูกของมึง

 ไอ้ควาย สปาร์ต้า สปาร์ต้า สปาร์ต้า สปาร์ต้า สปาร์ต้า สปาร์ต้า ได้ยินไหม

 รองเท้าเหยียบส้น รองเท้าเหยียบส้น รองเท้าเหยียบส้น รองเท้าเหยียบส้น

 สปาร์ต้า สปาร์ต้า รองเท้าเหยียบส้น สปาร์ต้า

 รองเท้าเหยียบส้น0

บายไลน์...ฉมังฉาย