ไลฟ์สไตล์

กทม.ผุดโครงการห้องเรียนพ่อแม่ลูกไม้หล่นใกล้หรือไกล…อยู่ที่คุณ

กทม.ผุดโครงการห้องเรียนพ่อแม่ลูกไม้หล่นใกล้หรือไกล…อยู่ที่คุณ

14 พ.ค. 2554

สถาบันครอบครัวเป็นหน่วยทางสังคมที่ดีที่สุด และมีความสำคัญยิ่งต่อการสร้างสังคมให้เข้มแข็ง ด้วยเหตุที่ครอบครัวเป็นแหล่งปฐมภูมิ หรือเป็นต้นแบบในการกล่อมเกลา บ่มเพาะให้เด็กเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยได้เปิดโครงการห้องเรียนพ่อแม่

ในหัวข้อ "ลูกไม้หล่นใกล้หรือไกล อยู่ที่คุณ..." เพราะความสำคัญในการส่งเสริมให้ครอบครัวมีส่วนสำคัญในการกล่อมเกลาและบ่มเพาะให้เด็กมีคุณภาพ

 ทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้นโยบายสำนักงานการศึกษา กทม.จัดโครงการห้องเรียนพ่อแม่ เพื่อเสริมสร้างความรู้ในการพัฒนาเลี้ยงลูกแก่พ่อแม่ในทุกกลุ่ม ทุกวัยของลูกและทุกพื้นที่ โดยการบูรณาการเข้ากับทรัพยากรของกรุงเทพมหานคร โดยใช้พื้นที่โรงเรียนเป็นศูนย์การเรียนรู้แบบการมีส่วนร่วมด้านครอบครัว เป็นการให้ความรู้การจัดกิจกรรมและรณรงค์ในเรื่องการพัฒนาของเด็กแต่ละช่วงวัย ด้วยวิธีที่เหมาะสม

 เปิดโอกาสให้พ่อแม่ที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกันแต่ละเขตได้มีโอกาสรับรู้ข่าวสาร เข้าร่วมกิจกรรม หรือการนำประสบการณ์ของผู้อื่นผสมผสานกับการเติมความรู้โดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินงานในการสร้างการรับรู้ให้แก่สังคมเกิดกระแสความสนใจ และตระหนักถึงความสำคัญของบทบาทของพ่อแม่ โดยเน้นย้ำไปที่การพัฒนาเด็กและครอบครัว อันจะทำให้เกิดการพัฒนาของสังคมไทยในอนาคตอย่างยั่งยืนต่อไป

 พญ.พรรณพิมล วิปุลากร ผู้อำนวยการสถาบันราชานุกูล กล่าวว่า พ่อแม่ต้องเริ่มปลูกฝังสิ่งที่ดีให้ลูกเกิดการกระทำ สิ่งใดไม่ควรทำต้องมีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตด้วยกันกับลูก มีเวลาให้ลูก ไม่ว่าจะเป็นตอนทำกับข้าว ขับรถไปโรงเรียน ช่วงเวลาไม่จำกัดเป็นช่วงเวลาไหนก็ได้ เข้าใจในวัยของลูกว่า ช่วง 0-6 ปี เสริมสร้างร่างกายให้สมบูรณ์แข็งแรง เรียกว่า อาหารกาย การเลี้ยงเอาใจใส่ในตัวของลูก เรียกว่า อาหารใจ การเสริมสร้างกระบวนการความรู้ การพัฒนาการของสมอง เรียกว่า อาหารสมอง ควรเข้าใจอารมณ์ของลูกด้วย

 สุนันท์ วชิรมนตรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบางกะปิ ตัวแทนจากโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการประจำปี 2553 กล่าวว่า กิจกรรมที่ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากประสบการณ์จริงที่พ่อแม่ได้รับ เรียนรู้ถึงปัญหาของเด็กในแต่ละช่วงวัยที่เป็นความกังวลในการเลี้ยงดู พร้อมทั้งช่วยกันเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาจากประสบการณ์ที่พ่อแม่ท่านอื่นได้ผ่านพ้นมาแล้ว พร้อมกับการเพิ่มเติมความรู้ เพื่อเป็นการกระตุ้นและสร้างแรงบันดาลใจให้พ่อแม่มีความใส่ใจที่จะเลี้ยงดูและจับตาดูพัฒนาการของลูก พร้อมการแนะแนวทางการแก้ไข เทคนิคใหม่ๆ ในการเลี้ยงลูก เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน

 “กิจกรรมการเรียนรู้ เพิ่มพูนทักษะพ่อแม่ ส่งเสริมให้พ่อแม่เข้าถึงพัฒนาการของลูกในการทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งผ่านการทำกิจกรรม ทั้งนี้ยังมีการจัดนิทรรศการผลงาน การมีส่วนร่วมห้องเรียนพ่อแม่ที่ผ่านมาอีกด้วย มีการจัดเสวนากับผู้ที่เข้ามาร่วมงาน จากผลที่ได้รับ พ่อแม่บอกว่ามีความสุขมาก ได้มีการเพิ่มความรู้ในการดูแลบุตรหลานของตนเอง” สุนันท์ กล่าว

 ปราณี ใบบัวดง ผู้ที่เข้าร่วมโครงการห้องเรียนพ่อแม่ ปี 2553 กล่าวว่า "การรับฟังปัญหาของลูก ทำความเข้าใจ และที่สำคัญต้องสร้างความอบอุ่นให้แก่ลูก เป็นสิ่งที่เธอได้ทำหลังจากการเข้าร่วมโครงการห้องเรียนพ่อแม่  ปัญหาหลักของน้องเอก คือ การเก็บกดเก็บเรื่องราวต่างๆ ไว้ที่ตนเองโดยไม่เล่าให้แม่ฟัง และมักจะโทษตัวเองอยู่เสมอ แม่ต้องเปิดใจคุยกับลูกให้หมดว่า ลูกเรียนไม่เก่งไม่เป็นไร เป็นคนดีก็พอลูก ให้ลูกพูดความรู้สึกทั้งหมดแล้วพ่อแม่ก็ต้องรับฟังปัญหานั้นด้วย สิ่งที่ได้รับจากห้องเรียนพ่อแม่ มีความสุขมาก ลูกร่าเริงขึ้น มีความกล้าแสดงออก กล้าพูด กล้าตอบ เด็กไว้ใจพ่อแม่"
 การเข้าร่วมโครงการทำให้พ่อแม่ดูแลลูกได้อย่างมีคุณภาพเหมาะสมตามช่วงวัย สอบถามได้โทร.0-2831-8400 ต่อ 3245, 3711, 3713

       0 ศศิวรรณ อาษา 0