
แจ้งความ แล้วฟ้องขับไล่
ผมมีเรื่องอยากทราบเกี่ยวกับกฎหมายครับ เรื่องมีอยู่ว่า ผมมีที่ดินอยู่แปลงหนึ่ง ซื้อไว้ประมาณ 15 ปีแล้วแต่อยู่ไกล จึงไม่ค่อยได้เข้าไปดูแล ทิ้งระยะเวลานานเกือบ 10 ปี จึงได้เข้าไปดู ปรากฏว่าคนที่ซื้อที่ดิน ซึ่งอยู่ข้างๆ ได้รุกเข้ามาในที่ดินของผม แล้วก็มีการป
เมื่อผมไปเจอก็บอกให้จัดการย้ายออก เลยมีปากเสียงกัน เขาบอกว่า ไม่ย้าย เนื่องจากได้จ่ายค่าปลูกสร้างตรงนี้ไปแล้ว ประมาณ 5 ปีที่แล้ว เขาจะอยู่อย่างนี้ผมจะทำอะไรเขาได้ ถ้าอยากให้ย้ายออกก็ต้องจ่ายเงินมา
ผมเครียดมากครับ พูดกันไม่รู้เรื่อง อยากทราบว่า ในเมื่อที่ดินแปลงนี้เป็นของผม ทำไมผมไม่มีสิทธิให้เขาออกจากที่ดินเหรอครับ หรือว่าผมควรจะมีวิธีอย่างไรบังคับให้เขาออกไป ส่วนเรื่องเงินถ้าเขาเป็นอย่างนี้ผมคงไม่จ่ายให้ แล้วอีกอย่าง ถ้าเขาออกไปแล้ว แล้วผมจะทำอย่างไรไม่ไห้เขารุกเข้ามาได้อีก เนื่องจากที่ดินเขาติดกับผม ถ้าผมไม่มาดูบ่อยๆ ก็กลัวปัญหาเดิมจะกลับมาอีกครับ
ฟิต
ตอบ
ศูนย์ปรึกษากฎหมายชุมชน อาจารย์ชลธิชา สมสอาด คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต แนะนำเรื่องนี้ว่า ก่อนอื่นต้องดูว่าที่ดินแปลงนี้เป็นที่ดินที่มีโฉนดหรือไม่ ถ้าเป็นที่ดินที่มีโฉนดแล้วชื่อเป็นของคุณ การที่เขาจะมาอ้างครอบครองปรปักษ์ก็ต้องเข้าครอบครองไปแล้ว 10 ปี
จากข้อมูลที่ให้มา บอกว่า ยังไม่ถึง 10 ปี หมายความว่า ไม่สามารถใช้สิทธิครอบครองปรปักษ์ได้ ดังนั้น คุณมีสิทธิฟ้องต่อศาลเพื่อขับไล่ให้ออกจากที่ดินแปลงนี้ได้เลย
แต่ถ้าเป็นที่ดินที่ไม่มีโฉนด แต่มีใบเอกสารสิทธิที่แสดงให้เห็นว่า คุณเป็นเจ้าของที่ดินแปลงนี้ กรณีอย่างนี้ ถือว่า คุณอยู่ในฐานะผู้ครอบครองสิทธิ ถ้าเป็นกรณีนี้ เมื่อเขาเข้ามาบุกรุกเพียง 1 ปี มีสิทธิที่จะครอบครองที่ดินของคุณได้แล้ว แต่ในเบื้องต้นคุณก็ต้องไปแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุกไว้ก่อนแล้ว แล้วหลังจากนั้น ถ้าเขาต้องการที่จะต่อสู้เขาก็ต้องไปร้องต่อศาลเพื่ออ้างสิทธิตรงนี้ หลังจากนั้น ก็อยู่ที่การพิจารณาของศาลแล้วว่า จะมีคำพิพากษาออกมาอย่างไร
เบื้องต้นไม่ว่าจะเป็นกรณีไหนก็ตามแนะนำว่า ให้คุณแจ้งความก่อนได้เลย ข้อหาบุกรุกที่ดินของคุณ เพื่อที่จะให้ตำรวจเข้ามาเคลียร์ให้ ถ้าเขายังไม่ออกไปก็ต้องไปฟ้องร้องกัน และว่ากันไปตามกกระบวนการทางกฎหมาย และก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินค่ารื้อถอนให้ก่อน หากไม่มีคำสั่งศาล
ลุงแจ่ม