ไลฟ์สไตล์

"น้ำปรุงยายวาส”สูตรโบราณ
รวมกลิ่นไม้ดอก-ขายทั่วไทย

"น้ำปรุงยายวาส”สูตรโบราณ รวมกลิ่นไม้ดอก-ขายทั่วไทย

23 เม.ย. 2554

ชีวิตหลังเกษียณของ "วาสนา กาญจนสินธุ์" ไม่แตกต่างจากคนอื่นๆ ที่พออยู่กับบ้านได้สักพักก็เกิดความเบื่อหน่าย ซึ่งต่อมาเป็นเหตุผลให้เธอคิดหาอะไรทำแก้เหงา อีกทั้งเป็นการสร้างรายได้เสริมอีกทาง จึงหันมาใช้เวลาว่างเรียนรู้อาชีพต่างๆ สุดท้ายเลือกทำ "น้ำปรุง" สมุน

 "วาสนา" ย้อนอดีตให้ฟังก่อนจะมาผลิตน้ำปรุงจำหน่ายว่า เป้าหมายแรกนั้น เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์หลังเกษียณจากงานราชการและเป็นแม่บ้านอย่างเดียวทำให้เกิดความเบื่อหน่าย และคิดทำอะไรแก้เหงาได้บ้าง อาจจะช่วยให้ชีวิตดูมีค่ามากขึ้น เป็นแรงผลักให้ขวนขวายศึกษาหาความรู้ในเรื่องอาชีพต่างๆ ณ ศูนย์ฝึกวิชาชีพมีนบุรี กรุงเทพฯ ในหลากหลายวิชาชีพ ด้วยความชอบด้านกลิ่นหอมของสมุนไพร ความสดชื่นของสารพันไม้ดอก  จึงสรุปลงตัวที่ฝึกปรือด้านการทำ "น้ำปรุง" หรือ "น้ำหอม"

 "ใช้เวลาฝึกทำน้ำอบไทยอยู่นาน 6 เดือน เป็นสูตรโบราณ ที่ทางสถาบันได้ถ่ายทอดออกมาให้ผู้เรียนอย่างไม่มีปิดบัง ทำให้เราได้นำองค์ความรู้ตัวนี้ มาทดลองทำ ซึ่งก็ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ" วาสนาเล่าถึงที่มา ก่อนลงมือปฏิบัติจริงในปี 2547

 จากความพยายาม รวมทั้งการลองผิดลองถูกอยู่นานเกือบปี ในที่สุดก็ได้มาซึ่งแบรนด์ "น้ำปรุงยายวาส" ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ เพื่อเข้าร่วมคัดเลือกในโครงการหนึ่งผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบลของเขตลาดกระบัง ประจำปี 2548 และผลงานของเธอก็ได้รับรางวัลการันตีโอท็อป 2 ดาว เป็นประเดิมแรกเริ่ม อันเสมือนพลังใจเล็กๆ ที่ทำให้มองเห็นลู่ทางอันสดใสในอาชีพเสริมนี้ และเป็นแรงผลักอันใหญ่หลวงให้เธอต่อสู้ เมื่อปี 2549 ปีถัดมา ผลิตภัณฑ์นำปรุงยายวาส ได้รับรางวัลโอท็อป 5 ดาวของเขตอีกครั้ง

 ที่มาของน้ำปรุงสูตรนี้ "วาสนา" บอกว่า มาจากภูมิปัญญาของไทยโบราณสมัยปู่ย่าตายาย การทำให้ได้กลิ่นหอมถูกต้องตามต้นตำรับมิใช่เรื่องง่าย เพราะมีตัวแปรต่างๆ คือคุณสมบัติความบริสุทธิ์ความสะอาดของดอกไม้หอมสด แต่ละฤดูกาล ต้นพันธุ์ ขั้นตอน เวลาและสถานที่ ซึ่งต่างต้องใช้ความละเอียด อีกทั้งจิตใจที่ใสสะอาด และความตั้งใจ

 "สูตรนี้ค่อนข้างจะเข้มข้น ติดทนนาน ใส่ในตู้เสื้อผ้าเพื่ออบผ้าให้หอม หรือชุบผ้าเย็นไว้เช็ดหน้าจะหอมชื่นใจหายเหนื่อย หรือใส่ขวดสเปรย์ใช้ฉีดในห้องนอนจะทำให้หลับสบาย ครายเครียด หรือฉีดในห้องพระจะทำให้รู้สึกหอมสดชื่น ผ่อนคลาย สบายใจ" วาสนาแจงคุณสมบัติ

 ปัจจุบันภายใต้แบรนด์ "น้ำปรุงยายวาส" นอกจากน้ำหอม น้ำอบแล้ว ยังมีผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรตัวอื่นๆ ที่เธอได้รับความรู้เมื่อครั้งไปอบรมกับสถาบันดังกล่าว อาทิ แชมพูสระผม ครีมนวดผม ครีมอาบน้ำ สบู่ แป้งระงับกลิ่นกาย ยากันยุง ยาหอม ยาหม่อง ฯลฯ รวมแล้วกว่า 20 รายการ โดยทั้งหมดนี้เธอลงมือผลิตเองทุกขั้นตอนร่วมกับสมาชิกในบ้านอีก 4-5 คน ขณะที่วัตถุดิบสมุนไพรที่นำมาผลิตนั้น ส่วนหนึ่งเธอปลูกไว้ในสวนที่บ้าน อาทิ มะกรูด ตะไคร้ มะขาม ขมิ้น เสลดพังพอน อีกส่วนจะสั่งซื้อวัตถุดิบจากแถววัดตึก

 "ลงทุนไปหลายแสนบาทเหมือนกันในการซื้อเครื่องมือที่ทันสมัยมาช่วยผลิต จึงทำให้ระบบการผลิตของเราไม่มีปัญหากับลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าเฉพาะกลุ่ม และอิงอยู่กับเทศกาลไทยๆ เท่านั้น เช่น ซื้อเป็นของฝากงานปีใหม่ ใช้ในวันสงกรานต์ ใช้สรงน้ำพระ ดังนั้นช่วงเวลาที่ขายดีในแต่ละปีจึงมีอยู่แค่ 2 ครั้ง ที่สำคัญตลาดยังมิได้ขยายไปในวงกว้าง สินค้าขายได้ในรูปแบบ “ปากต่อปาก” จากคนรู้จักเท่านั้น"

 อย่างไรก็ตาม ช่วงระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมา วาสนาบอกว่า มีลูกค้าจากต่างจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศติดต่อผลิตภัณฑ์แบรนด์ "น้ำปรุงยายวาส" ไปวางจำหน่ายตามร้านขายของฝากของจังหวัดนั้นๆ กว่า 100 ราย อันทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น และลูกค้าสำคัญอย่างโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ทุกเดือนจะสั่งผลิตภัณฑ์ทำให้มีรายได้ในส่วนนี้ไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นบาทต่อเดือน และปัจจุบันมีบริษัทคนไทยจ้างเธอผลิตน้ำปรุงสูตรนี้ เพื่อส่งไปขายยังต่างประเทศ อาทิ เกาหลี ฮ่องกง ญี่ปุ่น ด้วย

 สินค้าที่ขายความเป็นไทย อย่างน้ำปรุงนั้น แม้จะมีเรื่ององค์ความรู้และเอกลักษณ์เป็นจุดแข็ง แต่ก็ยังมีจุดอ่อนเรื่องโอกาสในการใช้ที่จำกัด และมีกลุ่มผู้บริโภคที่แคบเกินไป การแก้โจทย์ด้วยการปรับปรุงสูตรผลิตภัณฑ์ หรือตัวบรรจุภัณฑ์ให้ทันยุคมากขึ้น ประกอบกับการให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจถึงตัวสินค้าอย่างลึกซึ้ง ก็จะช่วยให้สินค้าไทยๆ เหล่านี้สามารถขยายสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ที่กว้างขึ้นได้

 สำหรับท่านที่สนใจอยากเรียนรู้เคล็ดลับความหอมนี้ หรืออยากทดลองพิสูจน์เสน่ห์ของกลิ่นน้ำปรุง หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ แบนรด์ "น้ำปรุงยายวาส" ติดต่อไปได้ที่ 112 ถ.ลาดกระบัง 36 แยก 4 เขตลาดกระบัง จ.กรุงเทพฯ โทร.0-2326-9207 หรือ 08-9681-2954

 "น้ำอบไทยดอกไม้สด สูตรโบราณ"
ส่วนผสม
 1.ดอกไม้สดที่มีกลิ่นหอมตามที่ต้องการ เช่น มะลิ ลีลาวดี จำปา ลำเจียก พิกุล กระดังงา กุหลาบ ฯลฯ
 2.เด็ดเอาแต่กลีบของดอกไม้ นำมาฉีกเป็นเส้นตามยาว ล้างให้สะอาด
 3.ใช้กลีบดอกไม้สด 1 ส่วนต่อน้ำต้มสะอาด 10 ส่วน

วิธีทำ
 1.นำดอกไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งหรือหลายชนิดมารวมกัน จากนั้นเทน้ำ 2 ลิตร ลงในหม้อเคลือบให้พอมีพื้นที่ว่างประมาณ 1 ใน 4 ของหม้อ เพื่อให้กลีบดอกไม้กระจายทั่ว

 2.ค่อยๆ โรยดอกไม้ให้ทั่วผิวน้ำ ถ้าเป็นดอกมะลิ ให้นำก้านแช่ในน้ำ โดยให้ดอกมะลิลอยอยู่เหนือน้ำ และปิดฝาให้สนิททิ้งไว้ 1 คืน

 3.ใช้ผ้าขาวบางช้อนกลีบดอกไม้ออก แล้วนำดอกไม้มาเปลี่ยนใหม่ ทำติดต่อกัน 3 วัน บรรจุใส่ขวดปิดฝาให้สนิท พร้อมใช้

"จุไรรัตน์  เกื้อหนุน"